รัฐบาลห่วงเกษตรกรกระเป๋าแฟบ
วางแผนอัดฉีดเงินให้อีกรอบ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
“สมหมาย” เผยรัฐบาลได้จับตาปัญหารายได้เกษตรกรที่ตกต่ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะชาวนาเป็นพิเศษ ที่มีรายได้จากการขายพืชผลได้น้อย เตรียมงัดมาตรการเสริมเติมเม็ดเงินเข้ากระเป๋าอีกรอบ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายฐานราก
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่าขณะนี้ รัฐบาลกำลังจับตาปัญหารายได้เกษตรกรที่ตกต่ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะชาวนาเป็นพิเศษ ที่มีรายได้จากการขายพืชผลได้น้อยเนื่องจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ทำให้รัฐบาลต้องหาแนวทางช่วยเหลือเพิ่มรายได้ให้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นสาขาทางด้านเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแออยู่มาก แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ว่าจะเป็นการแจกเงินให้กับชาวนาไร่ละ 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อครอบครัว เหมือนที่เคยทำเมื่อช่วงปลายปี 2557 ที่ผ่านมาหรือไม่
ทั้งนี้ การแจกเงินชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ที่ไม่ยุ่งยากหรือไม่รั่วไหล และไม่มีการทุจริต ซึ่งต้องชมเจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ดำเนินการเรื่องแจกเงินชาวนาได้ดี เงินถึงมือชาวนาโดยตรง ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นเหมือนกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจไทยขณะนี้เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวได้ดี แม้ว่าการส่งออกเดือนเมษายนยังขยายตัวติดลบ 1.70% แต่เป็นการติดลบที่ลดลงเมื่อเทียบกับ 3 เดือนก่อนหน้า ภาวะดังกล่าวเป็นทั้งโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทยประเทศเดียว เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจโลกไม่ดีก็มีการนำเข้าน้อยลงแม้แต่ไทยก็นำเข้าน้อยลงเช่นกันจน
ทำให้เกินดุลการค้า แต่ถึงจะมีบางประเทศที่การส่งออกยังขยายตัวเช่นประเทศจีน แต่เป็นการขยายตัวที่ชะลอตัวลงเช่นกัน
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประชุม คณะรัฐมตรี(ครม.)ที่ผ่านมา ได้มีวาระการพิจารณาแจกเงินชาวนาไร่ละ 1,000 บาท แต่ดึงวาระดังกล่าวออก โดยยังไม่มีการพิจารณา เพราะอยู่ระหว่างหาแนวทางเพิ่มเติม โดยมาตรการแจกเงินชาวนาที่ดำเนินการมาปลายปี 2557 ใช้เงินทั้งหมด 40,000 ล้านบาท หลังจากนั้นได้แจกเงินให้ชาวสวนยางไร่ละ 1,000 บาท เป็นเงิน 8,200 ล้านบาท ซึ่งจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 48,200 ล้านบาท ได้มีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภคในช่วงปลายปี 2557 และต้นปี 2558 ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันจากรายงานภาวะสังคม ไตรมาสแรก ปี 2558 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)หรือสภาพัฒน์ระบุว่าผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ปี 2558 ที่เริ่มมีสัญญาณรุนแรง และเกิดขึ้นเร็วกว่าปกตินั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน และรายได้เกษตรกรลดลง เนื่องจากปัจจุบันพบว่าค่าจ้างแรงงานภาคเกษตรมีเฉลี่ยเพียงคนละ 5,700 บาทต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าแรงงานนอกภาคเกษตรถึง 1 เท่าตัว หรือเฉลี่ยคนละ 12,500 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้หากเกษตรกรมาเจอปัญหาผลผลิต และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำเข้าไปอีกจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้เพิ่มขึ้น จนในที่สุดอาจทำให้เกษตรกรบางรายต้องเลิกทำการเกษตร และไปหางานอื่นทำแทนเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม จากปัญหาดังกล่าว ถือเป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนที่ทำงานในภาคเกษตรลดลง โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมาจำนวนของผู้ที่ทำงานภาคการเกษตรก็ปรับลดลงถึง 4.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และในช่วงต่อจากนี้เชื่อว่า ตัวเลขดังกล่าวจะปรับลดลงอีก ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี