บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หรือ BANK โดยคาดว่ากำไรสุทธิรวมของธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง (ไม่รวม BAY) จะลดลงถึง 12% QoQ และ 13% YoY จากอัตราการเติบโตของรายได้ที่ลดลง
และค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรอง (LLP) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกรณีของธนาคารที่มีสัดส่วนการปล่อยกู้ SME สูง (KBANK KTB และ TMB) ในขณะที่ NPL ใหม่ของสินเชื่อรถยนต์ที่ทรงตัวส่งผลให้ LLP ของธนาคารเล็กทรงตัว
ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงทำให้ธนาคารต้องระมัดระวังความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น เราคาดว่าสินเชื่อจะขยายตัว <0.5% QoQ, +1.5% YTD และ <4% YoY มีเพียง KBANK และ SCB เท่านั้นที่เราคาดว่าสินเชื่อจะโตถึงประมาณ +2.5% YTD โดยสินเชื่อธุรกิจคาดว่าจะโต +3-4% สินเชื่อ SME +2.5% และคาดว่าสินเชื่อผู้บริโภคจะไม่โตเลย อัตราการขยายตัวของสินเชื่อ
ที่ระดับนี้ไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบจาก NIM ที่ลดลงประมาณ 15bps QoQ และ 20bps YoY ได้ ดังนั้น เราจึงคาดว่า NII จะลดลงประมาณ 5% QoQ และ 4% YoY นอกจากนี้สินเชื่อที่ชะลอตัวลงยังกระทบกับการเติบโตของ Non-NII ในแง่ของค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวโยงกับสินเชื่อ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้ค่าธรรมเนียมรวมด้วย ดังนั้นเราจึงคาดว่า Non-NII จะลดลง 4% QoQ และเพิ่มขึ้น 2.53% YoY
การที่ทั้ง KBANK และ SCB บอกว่าจะเพิ่มค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองขึ้นถึง 50% ในปีนี้ทำให้เกิดความกังวลรอบใหม่เกี่ยวกับประเด็นเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ หลังจากที่ NPL ใหม่ทำท่าจะนิ่งๆ ในไตรมาสที่ 1/58 ก็เริ่มมีสัญญาณของการชำระหนี้ล่าช้ากลับมาอีกครั้งในไตรมาสที่ 2/58 โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มสินเชื่อ SME ซึ่งทำให้ KBANK ตัดสินใจดำเนินนโยบายตั้งสำรองก้อนใหญ่เอาไว้ล่วงหน้าเกินกว่าข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งธนาคารจะทยอยบันทึกค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแปลว่าอัตราการเติบโตของกำไรมีแนวโน้มจะลดลงไปจนถึงปีหน้า แต่อย่างไรก็ตาม
แนวโน้มการตั้งสำรองของธนาคารขนาดเล็กดูนิ่งกว่าจากการที่ NPL ใหม่จากสินเชื่อรถยนต์เริ่มนิ่ง
ทุกธนาคารจะต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2/58 และครึ่งหลังของปีนี้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน โดย TMB และ KBANK ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการที่ปล่อยสินเชื่อให้กลุ่ม SME สูงถึง 37%/38% ตามลำดับ ในขณะที่ SCB, KTB และ TISCO ถูกกดดันจากกรณีที่ปล่อยสินเชื่อให้ SSI ส่วน BBL ก็คาดว่าจะใช้ความระมัดระวังและตั้งสำรองเพิ่มด้วย จากกระแสข่าวลบที่ถาโถมเข้ามากดดันให้หุ้นธนาคารซื้อขายที่ระดับต่ำ ซึ่งเรามองว่าเป็นโอกาสสำหรับการเข้าช้อนซื้อหุ้นถูก ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงยังอยู่ที่ความล่าช้าของแผนการลงทุนภาครัฐจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้าลง
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี