นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สหรัฐได้มีการผ่อนผันไม่ระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) สินค้าไทย กรณีที่สินค้ามีส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐมากกว่าหรือเท่ากับ 50% จำนวน9 รายการ ได้แก่ ดอกกล้วยไม้สด, ทุเรียนสด, มะละกอตากแห้ง,มะขามตากแห้ง, ข้าวโพดปรุงแต่ง, ผลไม้แช่อิ่ม, มะละกอแปรรูป,อาหารปรุงแต่ง และรูปปั้นเซรามิก และได้รับการผ่อนผันไม่ระงับสิทธิ GSP กรณีสัดส่วนการนำเข้าสินค้าเกินเพดานการนำเข้าสหรัฐเกิน 50% จำนวน 2 รายการ ได้แก่ มะพร้าวปรุงแต่ง และลวดทองแดงโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป ซึ่งการผ่อนผันของสหรัฐครั้งนี้ ได้ส่งผลทำให้ผู้ส่งออกไทยจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐเป็นมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร
สำหรับการทบทวนโครงการ GSP สหรัฐจะใช้ข้อมูลสถิติของปีก่อนหน้า มาพิจารณา และจะมีการบังคับใช้ในปีถัดไป โดยในปี 2557 การผ่อนผันกรณี De Minimis Waivers เป็นกรณีที่สินค้ามีส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐเท่ากับหรือมากกว่า 50% แต่มูลค่านำเข้าสหรัฐของสินค้านั้นจากทั่วโลกต่ำกว่ามูลค่าขั้นต่ำที่สหรัฐกำหนดก็สามารถขอผ่อนผันไม่ให้ระงับสิทธิ GSP ได้ ซึ่งในปี 2557 อยู่ที่ 22.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนกรณีการขอยกเว้นเพดานการนำเข้าสหรัฐ หรือ CNL Waivers เป็นการขอผ่อนผันให้ยกเว้นเพดานการนำเข้าสหรัฐ หากสินค้านั้นได้รับการยกเว้นเพดานการนำเข้าก็จะสามารถส่งออกไปยังสหรัฐได้โดยไม่มีระดับเพดาน ซึ่งสหรัฐกำหนดเพดาน 2 กรณี คือ กรณีเพดานมูลค่านำเข้าเกินที่กำหนดในแต่ละปี ซึ่งในปี 2557 อยู่ที่165 ล้านเหรียญสหรัฐ และกรณีสัดส่วนการนำเข้าสหรัฐ เกิน 50%
“ในการทบทวนโครงการ GSP สหรัฐประจำปี 2557 ปรากฏว่าไทยไม่มีรายการที่สหรัฐ ประกาศตัดสิทธิ GSP ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าที่ไทยเคยได้รับสิทธิ GSP จากสหรัฐจะยังคงได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าทุกรายการ กระทรวงจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทยทราบโดยทั่วกัน และควรเร่งใช้ประโยชน์จากสิทธิ GSP ที่ไทยยังคงได้รับให้มากที่สุด เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกไปตลาดสหรัฐให้มากยิ่งขึ้น เพราะจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย”นางอภิรดี กล่าว
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2558 กระทรวงได้ออกประกาศเรื่อง กำหนดให้สินค้าที่ใช้ได้ สองทางเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาต และกำหนดสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบ ในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2558 เพื่อเป็นการกำกับดูแลการค้าสินค้าที่ใช้ได้สองทาง หรือ DUI ให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องตามหลักสากล และเป็นการทำตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ 1540 (UNSCR 1540) ที่กำหนดให้ประเทศสมาชิก รวมถึงไทย กำหนดมาตรการภายในประเทศที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (WMD)และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง DUI
โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบหมายให้กระทรวงเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดทำระบบบริหารการค้าสินค้าที่ใช้ได้สองทางของไทย (TMD) เพื่อกำกับดูแลการค้าDUI ขณะนี้กระทรวงได้ลงนามในประกาศแล้ว และอยู่ระหว่างส่งราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้เป็นกฎหมายและจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี