เศรษฐกิจไทยพ้นจุดต่ำสุดแล้ว
l ‘ธนวรรธน์’ชี้ปีหน้าขยายตัว4%
l ท่องเที่ยว-เมกะโปรเจกท์หนุน
โพลล์หอการค้าไทย ระบุเศรษฐกิจไทยมีทิศทางดีขึ้น ชี้เห็นผลชัดเจนไตรมาส 2 ปีหน้า พร้อมปรับลดตัวเลข “จีดีพี”
ปีนี้ เหลือ 3% พร้อมคาดปีหน้าขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4%
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลสำรวจความคิดเห็นจากสมาชิกหอการค้าไทยทั่วประเทศ ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยภาพรวมได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ซึ่งการลงทุนภาค
รัฐบาลและเอกชนในจังหวัด และการจ้างงานในจังหวัดในปัจจุบันปรับตัวดีขึ้น โดยในหลายพื้นที่ระบุว่าภายในปีนี้เศรษฐกิจจะฟื้นตัว และจะฟื้นตัวได้ชัดเจนในไตรมาสที่ 2 ของปี 2559
ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเริ่มเห็นผล และยังช่วยกระตุ้นการบริโภค การลงทุนในพื้นที่ และในประเทศ ส่วนการบริโภคยังคงเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา แต่สัญญาณแนวโน้มเริ่มดีขึ้น เพราะการบริโภคปัจจุบันยังชะลอตัว ตามรายได้ของเกษตรกรที่อยู่ในระดับต่ำ และภาวะหนี้สินยังคงสูง
ทั้งนี้หอการค้าไทยได้มีการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2558 จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจทั้งปีจะขยายตัวในระดับ 3.1% ก็มองว่าจะขยายตัวได้ที่ระดับ 3.0% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่มีผลต่อการส่งออก และเศรษฐกิจของไทย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลล่าช้ากว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย อีกทั้งคาดว่าการส่งออกทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ -5.3% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ประมาณ -0.8%
ส่วนในปี 2559 มองว่าเศรษฐกิจไทยทั้งปีจะโตได้ประมาณ 4% หรือในกรอบ 3.5-4-5% ตามการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่(เมกะโปรเจกท์) การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจตามแนวชายแดน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐฯ สถานการณ์การเมืองที่มีเสถียรภาพ และการอ่อนค่าของเงินบาท แต่ก็มีปัจจัยที่ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจไทย คือการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ทำให้มีความผันผวน กดดันต่อเศรษฐกิจโลก สัดส่วนหนี้สินของภาคครัวเรือนที่สูง ปัญหาภัยแล้ง สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อต้นทุนการผลิตและค่าครองชีพที่สูง รวมถึงการก่อการร้าย ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวที่ 4% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะขยายตัว 1.4%
นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่าเศรษฐกิจโดยรวมของภูมิภาคแต่ละพื้นที่ยังมีการขยายตัวที่ดี และทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียงกัน โดยในภาคกลางมีการขยายตัวดีสุดที่ 3.4% เพราะทิศทางเศรษฐกิจภาคกลางดีขึ้นตามการลงทุนของภาครัฐ และยังมีสัญญาณของการจ้างงานเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของเอกชนที่เพิ่มขึ้น กรุงเทพฯและปริมณฑลขยายตัว 3.0% ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือขยายตัว 2.8% และภาคใต้จะขยายตัวต่ำสุดที่ 2.6% เนื่องจากการบริโภคที่ยังชะลอตัว ตามการตกต่ำของราคายางพารา รวมถึงการลงทุนของภาครัฐและเอกชน และการจ้างงานยังชะลอตัวในหลายพื้นที่ อีกทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ก็มีผลดีต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งขณะนี้เริ่มกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ แล้ว ซึ่งคาดว่าเหลืออีกเพียง 20-30% ก็อาจกระจายได้ครบ ทั้งนี้ตามนโยบายของรัฐบาลประยุทธ์ 3 ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งหอการค้าไทยเอง จะผลักดันเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตได้ 4-5% ในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี