สัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 33 ที่จ.อุดรธานี ได้ปิดฉากลงแล้ว โดยเอกชนมอบ “สมุดปกขาว” เป็นแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้าน“สมคิด”เผย 3 ธ.ค. เตรียมนำเอกชน 20 ราย เข้าหารือนายกฯ ถกนโยบายประชารัฐให้เป็นรูปธรรม ยันไม่ได้หาเสียง แต่ช่วยลดเหลื่อมล้ำ และการสร้างความปรองดอง
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2558 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “สร้างไทยให้เข้มแข็ง” ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 33 ที่จ.อุดรธานี
นายสมคิด กล่าวว่า ในวันที่ 3 ธ.ค. 2558 นี้ จะมีการหารือในการขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐให้เป็นรูปธรรม ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนักธุรกิจกว่า 20 ราย เพราะต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน และอนาคตเอกชนจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศหลายๆ ด้าน เนื่องจากมีความเข้มแข็งกว่าทุกภาคส่วน จึงต้องการให้เอกชนเข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐ ที่ถือเป็นการร่วมมือไตรภาคี ระหว่าง 3 ภาคส่วน คือ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการร่วมกันพัฒนาประเทศให้เกิดความยั่งยืน
“ถ้าทุกฝ่ายคุยกันมากเท่าไหร่ ความเข้าใจก็จะมีมากขึ้น นโยบายประชารัฐ ไม่ได้ทำเพื่อการหาเสียง แต่จะเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการสร้างความปรองดองให้ประเทศไทย ประชารัฐไม่ใช่แค่ราคาคุย แต่ถ้าทำได้จะทำให้ประเทศได้ประโยชน์มหาศาล เราทำได้หรือไม่เราไม่รู้ แต่เราต้องพยายาม”
นายสมคิดกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางรัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2 ที่จะออกมาในปีหน้า หลังจากที่ปีนี้ได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนแล้ว ซึ่งทางรัฐก็ต้องการให้ทุกภาคส่วน ทั้ง เอกชน ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล ชุมชนต่างๆ และประชาชน ช่วยกันคิดแผนโครงการล่วงหน้าในการสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น ทั้งการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวชุมชน การพัฒนาเกษตรแปรรูป และการส่งเสริมเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่น เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน
ขณะเดียวกันได้มอบนโยบายให้ กระทรวงพาณิชย์ และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ในการส่งเสริมและคอยให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ออกไปลงทุนในประเทศอาเซียนเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน(เออีซี) เช่น หาก
ผู้ประกอบการไทยถูกโกงในต่างประเทศก็จะมีแนวทางในการเข้าไปช่วยเหลือได้ทันทีเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในต่างประเทศ
นอกจากนี้ หลังจากที่ได้มีการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ทางนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ต้องการให้ไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ ทีพีพี เพราะญี่ปุ่นมีการลงทุนในไทยมาก และหากเข้าร่วมจะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ ซึ่งตนได้ตอบกลับไปว่าไทยมีความสนใจจะเข้าร่วม แต่เนื่องจากยังมีเรื่องละเอียดอ่อนหลายเรื่อง จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาอย่างถี่ถ้วน และต้องมีการทำความเข้าใจกับทุกส่วนก่อน
“รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายให้ประเทศเดินหน้าด้วยนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน โดยไม่ยึดติดแต่ตัวเลขการเติบโตของจีดีพีอย่างเดียว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องนำไปสู่การปฏิบัติ เพราะจะเป็นตัวเร่งเศรษฐกิจได้ดี”
พร้อมให้ความสำคัญกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม หรือกลุ่ม CLMV ที่ต้องเอื้อประโยชน์และเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งขณะนี้รัฐบาล กำลังขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี ซึ่งได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ไปปรับบทบาท และหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกให้กับเอกชนไทยในทุกรูปแบบ
นายสมคิด กล่าวอีกว่า จากการเสวนาครั้งนี้ ทางหอการค้าฯได้มอบสมุดปกขาวแนวทางการพัฒนาประเทศ ซึ่งพร้อมรับไปเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ผลการสรุปข้อเสนอของการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 33 นี้ จะจัดทำเป็นสมุดปกขาวเสนอต่อรัฐบาล ได้เห็นความจำเป็นในการปรับตัวเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลง โดยใช้นวัตกรรมมาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งจะเน้นอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพ ทั้งการผลักดันเอสเอ็มอี ต่อยอดธุรกิจเดิม และให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ด้วยนวัตกรรม ภาคบริการเชิงสร้างสรรค์ เน้น 3 ธุรกิจทั้งท่องเที่ยว สุขภาพ และดิจิทัล และภาคเกษตร โดยใช้นวัตกรรมมาเพิ่มคุณภาพและผลผลิต และสร้างการรวมกลุ่มเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางการแข่งขัน รวมทั้งใช้แนวคิด “การตลาดนำการผลิต” เพื่อใช้ในการวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับตลาด ทั้งนี้ ต้องสร้างให้เกิดความโดดเด่น และแตกต่าง เพื่อให้ธุรกิจเติบโต และอยู่รอดได้ภายใต้การเปลี่ยนแปลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี