ประมูลใหม่4จี
‘กสทช.’เคาะ22พฤษภาคม
หลังแจสป่วนทิ้งใบอนุญาต
พ่วงตัดสิทธิ์ทรูฯเข้าร่วมชิง
เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีการแถลงข่าวหลังจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทค.) นำโดย พันเอกเศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช.ในฐานะประธาน กทค.,นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ,และนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช.ในกิจการโทรคมนาคม และนายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้เข้าพบ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่นำเนียบรัฐบาล เพื่อประชุมหาหรือและเสนอแนวทางการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ทั้งนี้ในการประชุมมีผู้เข้าร่วมประชุมพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องราว 40 คน โดยการประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับแนวทางการประมูลที่ กสทช.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหาทางออกของการจัดการ 4G คลื่น 900 MHz กสทช. ได้เสนอทางออก 3 แนวทาง ประกอบด้วย 1.ให้เปิดประมูลใหม่อีกครั้งตามกรอบและขั้นตอนระยะเวลาตามเดิม 2. ให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส รับซื้อใบอนุญาตคลื่น 900 จากแจสตามที่ได้ยื่นข้อเสนอมาในราคาเริ่มต้นการประมูลที่ 75,654 ล้านบาท และทางเลือกสุดท้ายคือ เปิดประมูลแต่ขั้นตอนให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเปิดให้ผู้ประกอบการทุกรายรวมสามารถ เข้าร่วมประมูลได้ แต่ยกเว้น บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ ในเครือ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือJAS ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาทั้งข้อดีข้อเสียทุกด้าน และเห็นตรงกันว่าทางเลือกข้อสองที่เปิดให้เอไอเอสรับซื้อคลื่นต่อแจสไม่เหมาะสม เพราะหลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ใช่การแข่งขันอย่างเป็นธรรม ดังนั้นที่ประชุมจึงเลือกแนวทางที่สามคือ การเปิดประมูลแต่ลดขั้นตอนให้มีความรวดเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ให้กสทช.กลับไปดูว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้เกิดการประมูลได้อย่างรวดเร็ว คาดว่าจะเปิดประมูลได้ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมนี้
นอกจากนี้ในกรณี ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 2จี ของเอไอเอส ที่จะหมดระยะคุ้มครองวันที่ 14 เมษายนนี้ ต้องรอฟังคำสั่งศาลอีกครั้งว่าจะยืดระยะเวลาคุ้มครองออกไปอีกหรือไม่ แต่หากศาลมีคำสั่งไม่คุ้มครองต่อ ทางคสช.และรัฐบาล ให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า ทางเรามีแนวทางที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาซิมดับขึ้นอย่างแน่นอน
นายฐากร กล่าวว่า กสทช.ได้เสนอแนวทางในการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ในการประชุมด้วยกันทั้งหมด 3 แนวทาง ได้แก่ 1. แนวทางปกติ ตามมติ กสทช.เห็นชอบร่างฯ ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz โดยให้นำร่างไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) และประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลบังคับใช้ต่อไป โดยคุณสมบัติผู้ที่เข้าร่วมการประมูลและ ตัดสิทธิ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ในเครือ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS และตัดสิทธิบริษัท ทรูมูฟเอช ยูนิเวอร์แซลคอมมูนิเคชั่น จำกัด ในเครือ บริษัท ทรูคอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เข้าประมูล เนื่องจากมีการกำหนดราคาคลื่นความถี่ไว้ที่ราคา 75,654 ล้านบาท ถือว่าเป็นระดับราคาที่สูงอยู่แล้วและทรูมูฟได้รับใบอนุญาตจากการประมูลครั้งที่แล้วไปแล้ว หากได้ใบอนุญาตอีกอาจเป็นการผูกขาดตลาดได้
ขณะที่การกำหนดราคาเริ่มต้นการประมูลที่ 75,654 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาสุดท้ายที่ แจสฯ ชนะการประมูล การเคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 152 ล้านบาท พร้อมการวางเงินหลักประกันจำนวน 5% หรือคิดเป็นเงินจำนวน 3,783 ล้านบาท ซึ่งความรับผิดเพิ่มเติมหากไม่สามารถจ่ายเงินค่าประมูลจะต้องคิดเงินหลักประกันเป็น 20% คิดเป็นเงินจำนวน 15,131 ล้านบาท หากไม่ปฏิบัติตามระเบียบเงื่อนไข การประกาศผลมีการประกาศลำดับ ที่ 1 ,2,3 โดยหากผู้ชนะไม่สามารถชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตสามารถเลื่อนไปให้สิทธิผู้เข้าประมูลในลำดับถัดไปได้ และกำหนดให้มีการประมูลในวันที่ 24 มิถุนายน 2559
ส่วนแนวทางที่สอง การใช้มาตรา 44.เพื่ออกเป็นประกาศหลักเกณฑ์ตามมาตรา 44. เพื่อให้ เอไอเอส สามารถ สามารถรับช่วงคลื่นช่วงที่ 1 ที่แจสฯ ชนะประมูล และสามารถรับราคาที่แจสฯ ชนะการประมูลที่จำนวน 75,654 ล้านบาท ซึ่งหากเอไอเอส ไม่สามารถมาชำระเงินตามเวลาที่ กสทช.กำหนด ให้เรียกผู้ที่ชนะเสนอราคาถัดไปมาได้ คือ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค และหากดีแทคไม่สามารถมาชำระตามกำหนด ก็ให้เรียกผู้ชนะลำดับถัดไป คือ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซลคอมมูนิเคชั่น จำกัด ในเครือ ทรูฯ ลำดับถัดไป
ส่วนแนวทางที่สาม เป็นแนวทางที่สำนักงาน กสทช.เสนอเพิ่มเติม นอกจากการขยายระยะเวลาตามประกาศ กสทช.เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือ สัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ.2556 ยังขอให้ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ลดขั้นตอนการนำร่างประกาศฯ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ไม่ต้องนำร่างฯ ประกาศ ดังกล่าวไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) ลดระยะเวลาลงมา เพื่อประประมูลในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2559 หลังจากได้มีการอภิปรายข้อดีและข้อเสียของแนวทางที่สาม ซึ่งเป็นแนวทางที่อยากได้มากที่สุด และเป็นแนวทางที่ดีที่สุด เนื่องจากรับข้อคิดเห็นจากหลายภาคส่วน และได้รับความเห็นจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ให้ความเห็นถึงแนวทางที่เอไอเอส กสทช.ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากจะขัดต่อมาตรา 157 และทำให้รัฐเสียประโยชน์เอื้อประโยชน์แก่เอกชน
“มติที่ประชุมร่วมกันคือแนวทางที่ 3 เป็นแนวทางที่ดีที่สุดและเป็นธรรมมากที่สุด หลังจากนี้สำนักงาน กสทช.จะสรุปแนวทางที่ 3 เสนอต่อ คสช.ต่อไป ซึ่งคำตอบทั้งหมดจะชัดเจนได้ไม่เกินวันที่ 11 เม.ย.59นี้ ส่วน การต่อมาตรการเยียวยาฯ ก็เพื่อไม่ให้ซิมดับ โดยให้อยู่ในกรอบเวลาที่เหมาะสม พร้อมทั้งกำหนดเงินส่วนแบ่งรายได้ในช่วงเยียวยาฯ ใหม่ ทั้งนี้การเลื่อนการประมูลให้เร็วขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และประโยชน์ของประชาชนที่จะได้ใช้คลื่นความถี่ ซึ่งการใช้แนวทางที่สามเป็นการใช้มาตรา44 ซึ่งจะลดความเสี่ยงเรื่องการฟ้องร้องมากกว่าแนวทางที่หนี่ง เนื่องจากแนวทางที่หนึ่งเปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเข้าร่วมประมูลฯ อย่างทรูฯ ฟ้องกสท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี