30 มิ.ย.59 บัญชีกลางปรับเพิ่มอัตราเงินบำรุงการศึกษาและค่าเล่าเรียนในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน และช่วยลดภาระให้แก่ผู้มีสิทธิ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 เป็นต้นไป
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ได้ปรับอัตราเงินบำรุงการศึกษาและค่าเล่าเรียนใหม่ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจได้เปลี่ยนแปลงไปมาก อัตราค่าครองชีพปรับสูงขึ้น ทำให้กรมบัญชีกลางต้องมีการทบทวนอัตราการเบิกค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง และเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และผู้ได้รับเบี้ยหวัดบำนาญที่เป็นผู้มีสิทธิได้เพิ่มขึ้น โดยให้มีผลทันทีตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การปรับอัตราเงินบำรุงการศึกษาในสถานศึกษาของทางราชการและค่าเล่าเรียนในสถานศึกษาของเอกชน โดยปรับขึ้นในทุกระดับการศึกษา ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับปริญญาตรี โดยมีรายละเอียดดังนี้
ประเภทและอัตราในการเบิกค่าบำรุงการศึกษา อาทิเช่น
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติม สำหรับสถานศึกษาของเอกชน ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) หรือเทียบเท่า ให้เบิกได้ครึ่งหนึ่งของจำนวนที่จ่ายจริงของค่าเล่าเรียนปีการศึกษาละไม่เกิน 25,000 – 30,000 บาท ตามประเภทวิชาหรือสายวิชา และหลักสูตรปริญญาตรี ให้เบิกจ่ายครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ได้จ่ายไปจริงของค่าเล่าเรียนปีการศึกษาละไม่เกิน 25,000 บาท ค่าเล่าเรียนที่ให้เบิกจ่ายได้จะต้องเป็นค่าธรรมเนียมการเรียนหรือค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งสถานศึกษาเอกชนเรียกเก็บตามอัตราที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการหรือมหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิสามารถนำหลักฐานการรับเงินของสถานศึกษาของทางราชการและสถานศึกษาของเอกชนมาเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรจากทางราชการได้ โดยแจ้งให้ส่วนราชการรับทราบ ซึ่งจะเป็นไปตามรายการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกี่ยวกับการศึกษาของบุตรได้เพิ่มขึ้น ภายใต้ประเภทและอัตราเงินบำรุงการศึกษาและค่าเล่าเรียนใหม่
"กรมบัญชีกลางได้ปรับปรุงอัตราเงินบำรุงการศึกษาและค่าเล่าเรียนใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงให้ทุกคนมีโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ" นายมนัส กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี