กรมโรงงาน จับมือสสว.-9 แบงก์ จัดโครงการแปลงเครื่องจักรเป็นทุน เปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีนำเครื่องจักรจดทะเบียนเข้ามาวางเป็นหลักทรัพย์ยื่นกู้แบงก์ ช่วยให้ผู้ประกอบการมีเงินหมุนไปขยายธุรกิจ พร้อมเปิดโอกาสให้ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเก่าเพื่อเสริมศักยภาพการผลิตสร้างรายได้เพิ่ม
นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันที่ 28 กันยายนนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) และสถาบันการเงินอีก 9 แห่ง เปิดตัวโครงการแปลงเครื่องจักรเป็นทุนและการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรสำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี เปิดโอกาสผู้ประกอบการเอสเอ็มอี นำเครื่องจักรในโรงงาน มาจดทะเบียน เพื่อเป็นหลักทรัพย์ประกันขอสินเชื่อ และนำเงินไปปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เบื้องต้น ธนาคารออมสินตั้งเป้าวงเงินปล่อยสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4%
“โครงการนี้มีระยะเวลา 3 ปี (2559-2561) แบ่งเป็น2 รูปแบบ รูปแบบแรกกรมจะเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกเอสเอ็มอีเข้าไปตรวจสอบจดทะเบียนเครื่องจักร เพื่อนำไปขอกู้เงินจากแบงก์ กรมตั้งเป้าผู้ประกอบการร่วมโครงการปีละ 500 ราย 3 ปี 1,500 ราย แบบที่สองเปิดรับสมัครให้เอสเอ็มอี ขอกู้นำไปปรับปรุงเครื่องจักรเก่าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยกรมได้ว่าจ้างคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้ามาช่วยประเมินว่า เอสเอสเอ็มอีควรปรับปรุงเครื่องจักรเก่าอย่างไรบ้าง เช่น เดิมเป็นเครื่องจักรแบบแมนนวล เปลี่ยนเป็นระบบออโตเมติกมากขึ้น รวมทั้งแนะนำสิทธิประโยชน์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ ตั้งเป้าปีละ 1,000 เครื่อง 3 ปี 3,000 เครื่อง เชื่อว่าจะช่วยให้เอสเอ็มอีมีเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจมากขึ้น ส่วนจะมีเงินทุนหมุนเวียนเท่าไร ขึ้นอยู่กับแบงก์จะเป็นผู้พิจารณาปล่อยกู้ต่อไป”
นายมงคลกล่าว
นอกจากนี้ กรมได้จัดทำร่างกฎกระทรวง2 ฉบับ ว่าด้วยอนุญาตให้เอกชน (เติร์ดปาร์ตี้) เข้ามาช่วยตรวจสอบเครื่องจักรแทนพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้แก่ ร่างกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การพักใช้ใบอนุญาต และเพิกถอนใบอนุญาต เป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน และร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจสอบเครื่องจักร หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบเครื่องจักร และการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเครื่องจักรของผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน ทั้งนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการความรวดเร็ว เพราะตรวจสอบกับเอกชนจะมีค่าใช้จ่าย แต่ตรวจสอบกับกรม ไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าตรวจสอบเครื่องจักร 5 เครื่อง 8,000 บาท คาดว่าจะมีวงเงินจำนองเครื่องจักรเพิ่มเป็น 800,000 ล้านบาทต่อปี เพิ่มขึ้น 60% จากปัจจุบันมีการจดทะเบียนประมาณ 500,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ยอดการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร ปี 2559 ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคมมีผู้ประกอบการขอรับการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ 1,113 ราย เครื่องจักรที่ได้จดทะเบียน 6,099 เครื่อง รวมมูลค่าการจดทะเบียนเครื่องจักร 559,583 ล้านบาท และมีการจดทะเบียนจำนอง 527 ราย โดยมีวงเงินจำนองเครื่องจักร 358,705 ล้านบาท โดยที่สถิติการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรในช่วง3 ปี ที่ผ่านมา (มกราคม 2556-ธันวาคม 2559) มีผู้ประกอบการขอรับการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ รวม 4,852 ราย เครื่องจักรที่ได้จดทะเบียน รวม 24,030 เครื่อง มูลค่าการจดทะเบียนเครื่องจักร รวม 1.32 ล้านล้านบาท และจดทะเบียนจำนอง รวม 2,914 ราย โดยมีวงเงินจำนองเครื่องจักร รวม 1.59 ล้านล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี