นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนของไทย (ค้าชายแดน-ค้าผ่านแดน-ค้าเมืองหน้าด่าน) ในช่วง 8 เดือน(มกราคม-สิงหาคม 2559) อยู่ที่ 940,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.65% จากช่วงเดียวกันของปี 2558 ซึ่งนับว่าเติบโตสวนทางกับสถานการณ์การค้าโลกในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าปี 2559 นี้
จะทำได้เพียง 1.47 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 86.5% ของเป้าทั้งปี 2559 ซึ่งตั้งไว้ที่ 1.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% จากปี 2558 แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

ทั้งนี้กรมจึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ในการผลักดันการค้าชายแดน ด้วยการสนับสนุนและส่งเสริมภาคเอกชนไทยในการสร้างศูนย์กระจายสินค้าตามจุดต่างๆ โดยสนับสนุนภาคเอกชนไทยรายใหญ่สร้างตลาดกลางการค้าแถบปริมณฑล คือ ที่ปทุมธานี เพราะอยู่ไม่ไกลจากท่าอากาศยานดอนเมือง บนพื้นที่กว่า 150 ไร่ เพื่อเป็นศูนย์รวมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในการต่อยอดธุรกิจไปสู่ตลาดเป้าหมายในประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) เชื่อมโยงตลาดในอาเซียนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และขยายสู่ระดับนานาชาติต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ยังส่งเสริมเอกชนไทยจัดตั้งคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าตามแนวชายแดน เพื่อเป็นจุดรวบรวมสินค้าและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้มีช่องทางในการกระจายสินค้าเข้าไปจำหน่ายใน CLMV ผ่านชายแดนได้สะดวกขึ้น โดยขณะนี้กรมฯได้สนับสนุนบริษัทไทยในการจัดตั้งคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งเอกชนกำลังคัดเลือกสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพื่อทำการส่งออกผ่านชายแดนเข้าไปจำหน่ายในเมียนมา

“กรมไม่ได้ส่งเสริมเอกชนจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในไทยเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้เข้าไปจัดตั้งในประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งขณะนี้ได้สนับสนุนเอกชนไปร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า City Square ซึ่งเป็นห้างฯใหม่ในเมืองตองยี รัฐฉาน ที่กำลังจะเปิดในเดือนพฤศจิกายน 2559 เพื่อจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าของเอสเอ็มอีไทย”นางดวงพร 
กล่าว

อย่างไรก็ตาม กรมยังเดินหน้าแก้ไขอุปสรรคทางการค้าชายแดน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการและผลักดันมูลค่าการค้าชายแดน โดยเฉพาะในช่วงที่เหลือของปีให้ได้มากที่สุด โดยหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านคณะกรรมการส่งเสริม
การค้าชายแดนและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งล่าสุดเพิ่งประชุมไปเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2559 จากการประชุมดังกล่าว ภาคเอกชนได้ขอให้รัฐบาลอนุญาตให้รถบรรทุกของประเทศเพื่อนบ้าน สามารถวิ่งเข้ามาขนส่งสินค้าในไทยจนถึงเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษได้ ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจคลังสินค้า การขนส่ง และโลจิสติกส์ รวมทั้งธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ เกิดขึ้นได้ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 
ทั้งนี้กรมฯจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ต่อไป