นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงแนวทางการปรับบทบาทและโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ว่า จากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีและการเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ทำให้ต้องปรับบทบาทและโครงสร้างกระทรวงให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และสนับสนุนอุตสาหกรรมและวิสาหกิจทุกระดับให้เติบโต ทั้งด้านผลิตภาพการมีส่วนร่วมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
“การพัฒนาอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการไปสู่ประเทศไทย 4.0 ตั้งใจเห็นภาพกระทรวงอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมและกระจายงานสู่ภูมิภาคมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับตัวเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve การปรับบทบาทและโครงสร้างกระทรวง แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะ 6 เดือนแรกของปี 2560 ที่ดำเนินได้ทันที และระยะที่ 2 ภายในปี 2562 ซึ่งเป็นการปรับปรุงเพิ่มเติมพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง โดยทั้งสองระยะต้องทำคู่ขนานกันไป” นายอุตตม กล่าว
โดยระยะแรกเป็นการปรับปรุงบทบาทของส่วนราชการระดับกรมต่างๆ แบ่งเป็น 4 กลุ่มงาน ได้แก่ 1.กลุ่มสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบด้วย หน่วยงานอำนวยการและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด 2.กลุ่มขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและพัฒนาผู้ประกอบการ ประกอบด้วยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ 3.กลุ่มสนับสนุนการประกอบการ ประกอบด้วยกรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และ 4.กลุ่มขับเคลื่อนการเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบต้นน้ำ ประกอบด้วย กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและวัตถุดิบ และสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย
ทั้งหมดจะปรับบทบาทให้คล่องตัว เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม S-Curve และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม ด้วยการผลิตภาพ มาตรฐานและนวัตกรรม อำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนและประชาชน
“จะเสนอกรอบการปรับบทบาทและโครงสร้างใหม่ต่อคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบภายในเดือนมีนาคม 2560 เป็นอย่างช้า จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยจะใช้โครงสร้างใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2560”นายอุตตมกล่าว
ระยะที่ 2 จะปรับปรุงกฎหมายเดิมและออกกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวข้อง เช่น การปรับปรุง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อให้ครอบคลุมการใช้ประโยชน์จากอ้อยไปพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมชีวภาพที่มีมูลค่าสูง รวมถึงตั้งหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ (Special Delivery Unit) เพื่อให้บริการกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังจะจัดทำ พ.ร.บ.ส่งเสริมผลิตภาพแห่งชาติ และปรับโครงสร้างของสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ให้กลายเป็นสำนักงานส่งเสริมผลิตภาพแห่งชาติ เพื่อครอบคลุมภารกิจการส่งเสริมและพัฒนาผลิตภาพในทุกสาขาธุรกิจของประเทศ รวมถึงการเจรจาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรับรองมาตรฐานทั้งหมดเพื่อตั้งเป็นสำนักงานการมาตรฐานแห่งชาติ เพื่อตอบโจทย์รัฐบาล
ที่ต้องการเห็นเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนด้วยการมีมาตรฐานผลิตภาพ และนวัตกรรม และทำให้ไทยสามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางในปี 2579 ตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ
“การปรับโครงสร้างจะทำให้กระทรวงมีสถาบันเครือข่ายเพิ่มขึ้นจาก 154 สำนักงาน เป็น 162 สำนักงานในจำนวนนี้ 124 สำนักงานต้องปรับบทบาทใหม่โดยจะโยกย้ายบุคลากรจากสำนักงานเดิมส่วนบุคลากรที่มีความชำนาญพิเศษจะจัดจ้างชั่วคราว และจะปรับโครงสร้างบุคลากรอีกครั้งในปี 2562 รวมทั้งเร่งปรับแผนงบประมาณปี 2561 ให้เหมาะสมกับแผนงานใหม่ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี” นายอุตตมกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี