นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้เปิดเผยว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในปี 2561 มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องโดยคาดว่าจะมีการลงทุนจากภาครัฐและภาคเอกชนเพิ่มขึ้นและมีส่วนกระตุ้นการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบให้ขยายตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ไว้ที่ 0-5% เพราะแม้เศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่ประชาชนบางจุดยังมีปัญหาที่ต้องระวัง โดยเฉพาะหนี้เสียของรายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก ที่ยังมีอัตราสูงขึ้นคาดว่าหนี้เสียจะสูงสุดกลางปีนี้ ดังนั้นการปล่อยสินเชื่อจึงต้องระมัดระวัง อีกทั้งยังเป็นแรงกดดันต่อการบริโภค
อย่างไรก็ตาม คาดหวังการลงทุนภาครัฐจะเกิดขึ้นตามแผนหนุนให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งมวลชน เกิดขึ้นตาม และกระจายการลงทุนสู่รากหญ้ามากขึ้น ดังนั้นจะมีอานิสงส์มาถึงภาคเอกชน ทำให้มีการลงทุนตาม สินเชื่อรายใหญ่มีโอกาสเติบโตมากกว่ารายย่อย ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารจะรักษาไว้ไม่ให้เกิน 2.3%
ขณะที่การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เพียงพอต่อระบบมาตรฐานบัญชีใหม่ ซึ่งทำให้การตั้งสำรองปีนี้น้อยลง จะเป็นผลดีต่อผลการดำเนินงานในปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว ขณะเดียวกันต้องระวังปัจจัยต่างประเทศ คือการขึ้นดอกเบี้ยของประเทศขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา หลังจากดอกเบี้ยต่ำมานาน หากปรับขึ้นเร็วอาจจะกระทบต่อตลาดเงินโลกได้
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า ในปี 2561 ธนาคารยังคงเดินหน้าขยายการเติบโตของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเติบโตจากธุรกิจเช่าซื้อที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของยอดขายรถยนต์ใหม่ ประเมินว่าปีนี้ ยอดขายรถยนต์ใหม่จะเพิ่มเป็น 920,000 คัน จากปีก่อนหน้าที่ระดับ 850,000 คัน สาเหตุหลักมาจากสภาพเศรษฐกิจดีขึ้น ขณะที่คู่ค้าของธนาคารทั้ง Ford และ Mazda ตั้งเป้าการเติบโตสูงขึ้นด้วย ส่วนผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ ก็มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด พร้อมรายการส่งเสริมการขายที่จูงใจมากขึ้น และเราจะเตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มานำเสนอ
ส่วนสินเชื่อบ้านจะเน้น Mortgage Saver ที่เป็นโปรดักท์ใหม่ เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการบริหารเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดและจะขยายความร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการเสนอสินเชื่อบ้านให้แก่ลูกค้ามากขึ้น รวมถึงขยายตลาดไปยังกลุ่มสินเชื่อบ้านมือสองที่อยู่ในทำเลที่ดีราคาเหมาะสม
ขณะที่บริการซื้อขายผลิตภัณฑ์ กองทุน-ประกันจากหลากหลายค่ายในจุดเดียว หรือ Open Architecture ได้เข้ามาช่วยให้ เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และต่อยอดการบริการให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบวงจร ทำให้เราสามารถขายข้ามผลิตภัณฑ์ (Cross-Selling) เพิ่มขึ้นทั้งผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต-ประกันสุขภาพและประกันวินาศภัย โดยในช่วงที่ผ่านมาเราได้ตั้งบริษัทในเครือใช้ชื่อว่า ทิสโก้ อินชัวรันส์ โซลูชั่น จำกัด เพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการด้านประกันภัยครบวงจรมากขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในปี 2560 มีกำไรสุทธิ 6,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,084 ล้านบาท หรือ 21.7% เมื่อเทียบกับปี 2559
“กลุ่มทิสโก้มีรายได้จากการปล่อยสินเชื่อและค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง ขณะที่เอ็นพีแอลลดลงต่อเนื่อง และมีรายการพิเศษจากความสำเร็จในการรับโอนธุรกิจรายย่อยจาก SCBT เข้ามาส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้น 11.8% และเงินฝากเพิ่มขึ้น 16.9% ขณะเดียวกันการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยผ่าน “สมหวัง เงินสั่งได้” ยังเติบโตสูงถึง 41.9% ปีนี้เราจะขยายการเติบโตผ่านการเพิ่มสาขาของสมหวัง เงินสั่งได้ให้เป็น 250 แห่ง จาก 200 แห่ง ในปีก่อน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี