นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2560 ว่าอยู่ที่ระดับ 89.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ระดับ 87.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 35 เดือนหรือเกือบ 3 ปี จากเดือนกุมภาพันธ์ 2558 อยู่ที่ระดับ 91.1 เนื่องจากอุปสงค์ของสินค้าอุตสาหกรรมยังส่งสัญญาณที่ดี สะท้อนจากยอดคำสั่งซื้อและยอดขายในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นจากงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 รวมทั้งสินค้าที่เกี่ยวข้องกับของขวัญของฝากในช่วงเทศกาลปีใหม่

สำหรับการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับภูมิภาค ฉุดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป และสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ อีกทั้งความกังวลต่อการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งกระทบต่อต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มSMEs

“จึงเสนอให้ภาครัฐออกมาตรการดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ กำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้น
ค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อช่วยลดต้นทุน เร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เพื่อสร้างกำลังซื้อเศรษฐกิจฐานราก เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกการค้าการลงทุน และกำหนดมาตรฐานสินค้านำเข้าจากจีนเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศ”นายเจนกล่าว

ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 102.8 เพิ่มขึ้นจากระดับ 102.0 ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2561 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ รวมถึงการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การส่งออกของไทยยังได้รับผลดีจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และเห็นว่าการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปจะส่งผลดีต่อการค้าและการลงทุนระหว่างกัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สอท.กล่าวว่า ปี 2560 ยอดผลิตรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งปี (มกราคม-ธันวาคม) มีทั้งสิ้น 1,988,823 คัน มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1,950,000 คัน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่ 2.28% เนื่องจากปัจจัยหลักจากการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 862,391 คัน เท่ากับ 43.36% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11.01% สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศทั้งปีมี 871,650 คัน มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 850,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.4%

ยอดขายในประเทศของเดือนธันวาคม 2560 มีทั้งสิ้น 104,302 คัน สูงสุดในรอบ 4 ปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20.1% เนื่องจากมียอดจองรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์เมื่อเดือนธันวาคมกว่า 39,000 คัน ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สูงขึ้น รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จากค่ายรถต่างๆ การถือครองรถยนต์ครบห้าปีในโครงการรถยนต์คันแรก การส่งออกขยายตัว การท่องเที่ยวมีการเติบโตที่ชัดเจน การฟื้นตัวของการลงทุนภาครัฐและเอกชน ตลอดจนการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาล

ขณะที่การผลิตเพื่อส่งออกปี 2560 อยู่ที่ 1,126,432 คัน เท่ากับ 56.64% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปีก่อน 3.52% สอดคล้องกับยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปทั้งปีอยู่ที่ 1,139,696 คัน มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1,100,000 คัน ทั้งนี้ สอท.ประมาณการการผลิตรถยนต์ในปี 2561 ที่ 2,000,000 คัน มากกว่าปี 2560 ซึ่งมีจำนวน 1,988,823 คัน เพิ่มขึ้น 11,177 คัน คิดเป็น 0.56% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก 1,100,000 คัน เท่ากับ 55% ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 900,000 คัน เท่ากับ 45% ของยอดการผลิตทั้งหมด