14 มี.ค.61 นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) เปิดเผยข้อมูลการเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2561 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ดังนี้
1.ไม่มีโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นนอกจากที่อยู่อาศัย แสดงว่าเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ฟื้น เนื่องจากยังไม่มีการเกิดเพิ่มของสินค้าในเชิงพาณิชย์อื่นอย่างเด่นชัด
2.ในส่วนของที่อยู่อาศัยพบว่ามีการเปิดตัวใหม่เพียง 8,273 หน่วย รวมมูลค่า 35,418 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 4.281 ล้านบาท แสดงว่ายังเน้นเปิดที่อยู่อาศัยในระดับบน มากกว่าระดับล่าง เพราะประชาชนในระดับล่างมีกำลังซื้อต่ำมากเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีดังคาด
3.ที่มีข่าวว่ามีห้องชุดพักอาศัยเปิดขายใหม่มากถึง 6,000 หน่วยนั้น ไม่ใช่ความจริง แท้จริงแล้วมีห้องชุดเปิดใหม่ในช่วง 2 เดือนแรกนี้มีเปิดไม่ถึงครึ่งของที่มีแหล่งข่าวกล่าวไว้ คือมีเพียง 2,868 หน่วย รวมมูลค่า 16,263 ล้านบาท หรือหน่วยละ 5.671 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่เปิดขายในระดับสูงเป็นหลัก การไพล่ไปเข้าใจว่าหน่วยขายเกิดขึ้นมากถึง 6,000 หน่วย อาจทำให้มีผู้หลงเชื่อว่าตลาดกำลังเติบโตดี แล้วเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ออกมาโดยไม่ได้ศึกษาให้ดี จนอาจพากันลงเหวได้
4.ความจริงแล้ว การเปิดตัวโครงการใหม่ในรอบ 2 เดือนล่าสุดนี้ เปิดขายน้อยกว่าปีก่อน (พ.ศ.2560) ที่เปิดกันถึง 13,629 หน่วย รวมมูลค่า 43,220 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 3.171 ล้านบาท ปีนี้เปิดน้อยกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
5.สำหรับในรายละเอียดพบว่า การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในรอบ 2 เดือนล่าสุด ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว จำนวน 1,439 หน่วย มูลค่า 7,604 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อหน่วย 5.284 ล้านบาท บ้านแฝด จำนวน 1,040 หน่วย มูลค่า 4,804 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อหน่วย 4.619 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ จำนวน 2,921 หน่วย มูลค่า 6,725 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อหน่วย 2.302 ล้านบาท
ตึกแถว จำนวน 5 หน่วย มูลค่า 22 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อหน่วย 4.400 ล้านบาท และห้องชุด จำนวน 2,868 หน่วย มูลค่า 16,263 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อหน่วย 5.671 ล้านบาท รวมโครงการอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เกิดขึ้นใหม่ช่วง 2 เดือนแรกของปี 2561 จำนวน 8,273 หน่วย ราคา 35,418 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อหน่วย 4.281 ล้านบาท
"จะเห็นได้ว่าบ้านแฝดเปิดขายในปริมาณที่เกือบเท่าบ้านเดี่ยวแล้ว เนื่องจากสามารถเลี่ยงกฎหมายได้ โดยไม่ต้องจัดสรรขนาดอย่างน้อย 50 ตารางวา แต่ไม่ต่ำกว่า 35 ตารางวา แล้วสร้างให้มีลักษณะคล้ายบ้านเดี่ยวโดยแทบไม่มีส่วนใดของบ้านติดกัน ยิ่งกว่านั้นทาวน์เฮาส์ยังมีกระแสตีกลับที่เปิดมากกว่าห้องชุด คือเปิดถึง 2,921 หน่วย ในขณะที่ห้องชุดเปิดเพียง 2,868 หน่วย เพียงแต่ว่าห้องชุดนั้นมีมูลค่าและราคาสูงกว่า" นายโสภณ ระบุ
6.หากประมาณการจากตัวเลข 2 เดือนแรก หากคูณด้วย 6 โดยไม่คำนึงถึง Seasonal Effects ก็จะพบว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 น่าจะตกต่ำกว่าปี 2560 ถึง 57% ในแง่จำนวนหน่วยและ 52% ในแง่มูลค่า อย่างไรก็ตามคาดว่าหากใน 10 เดือนหลังสถานการณ์ดีขึ้นกว่า 2 เดือนแรก โดยจำนวนหน่วยเปิดเพิ่มกว่า 2 เดือนแรก 30% และมูลค่าเพิ่มมากว่าปี 2560 ถึง 25% ก็ยังพบว่า จำนวนหน่วยของการเปิดตัว จะเป็น 103,413 หน่วย ซึ่งก็ยังน้อยกว่าปีที่แล้ว 10% ส่วนมูลค่าจะยังน้อยกว่าปีที่แล้ว 2%
"ถ้าแต่ละเดือนในอีก 10 เดือนข้างหน้าเปิดตัว 10,620 หน่วย รวมมูลค่า 40,624 ล้านบาทต่อเดือน มากกว่ามูลค่า 2 เดือนแรกเสียอีก) จึงจะมีการเปิดตัวในปริมาณเท่ากับปี 2560 ซึ่งคงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นจึงอาจสรุปได้ว่าในปี 2561 นี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะถดถอยมากกว่าเติบโต นักพัฒนาที่ดิน สถาบันการเงิน นักลงทุนจึงพึงสังวร ต้องศึกษาข้อมูลให้จงดีก่อนการเปิดตัว" นายโสภณ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี