นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(บอร์ดกนอ.) เปิดเผยระหว่างการนำคณะเยี่ยมชม Ota Wholesale Market (ตลาดกลางโอตะ) แหล่งค้าส่งสินค้าเกษตร 4 ชนิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นด้วยวิธีการประมูลประกอบด้วย ปลา ผัก ผลไม้ และดอกไม้ ประเทศญี่ปุ่น ว่า กนอ.อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (อีเอฟซี) เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ภายในนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ค จ.ระยอง นิคมฯต้นแบบด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลองค์ประกอบสำคัญของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)

ดังนั้นจึงเตรียมนำระบบของญี่ปุ่นไปพิจารณา เพราะมีการกำหนดการรับซื้อที่เป็นธรรม หากเป็นสินค้าพรีเมียมมีผู้ประกอบการค้าส่ง 4 ราย ที่ทำหน้ารับซื้อสินค้าจากเกษตรกร และมาเปิดประมูลให้พ่อค้าคนกลางที่ได้รับอนุญาตจากภาครัฐ จากนั้นพ่อค้าคนกลางจะกระจายสินค้าสู่ตลาด ซึ่งระบบนี้จะทำให้ราคาสินค้าเกษตรอยู่ในระบบที่ดี ส่วนสินค้ามาตรฐานทั่วไปจะขายระบบปกติคล้ายตลาดไทของไทย ทั้งนี้รูปแบบตลาดกลางโอตะพบว่ามีการปรับแก้กฎหมายเพื่อให้เอื้อต่อการดำเนินการซึ่งในส่วนของไทยจะพิจารณาอีกครั้งว่าจำเป็นต้องปรับแก้กฎหมาย หรือจะใช้วิธีออกเป็นประกาศแทน

“ภายใน 2-3 ปี อีเอฟซีจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบ เพราะถือเป็นนโยบายสำคัญเพื่อดูแลเกษตรกรในภาคตะวันออก ประกอบด้วย จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และตราด ขณะนี้อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการที่สนใจสอบถามข้อมูลโดยกนอ.มีแผนจะชักจูงการลงทุนในขั้นตอนต่อไป” นายพสุกล่าว

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการกนอ.กล่าวว่าการจัดตั้งอีเอฟซี ภายในนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค กนอ. ยังได้ ร่วมศึกษาต้นแบบการบริหารจัดการจาก Ota Wholesale Market หรือที่รู้จักกันในชื่อตลาดกลางโอตะซึ่งเป็นตลาดค้าส่ง ผัก ผลไม้ และไม้ดอกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และมีระบบการประมูลที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

การเข้ามาศึกษาตัวอย่างครั้งนี้จะนำประโยชน์จากการระบบตลาดประมูลมาประยุกต์ใช้ในการซื้อขายผลไม้ในอีเอฟซีโดยเชื่อว่าจะช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการต่อรองราคา ต่อเนื่องถึงการจัดทำห้องเย็นขนาดใหญ่สำหรับกักตุนผลผลิตที่รวบรวมได้จากเกษตรกร ก่อนกระจายสินค้าไปยังตลาดต่างๆ

จากการศึกษาพบว่ามี 4 ขั้นตอนที่สำคัญ คือ 1.การตรวจสอบสินค้า 2.การเริ่มประมูล โดยผู้ที่ให้ราคาที่สูงที่สุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล โดยการประมูลนั้นจะผ่านระบบคอมพิวเตอร์ และผู้มีสิทธิร่วมประมูจะประกอบด้วย ผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต และพ่อค้าคนกลาง 3.การตรวจสุขอนามัยของสินค้า เมื่อการประมูลเสร็จสิ้น หากสินค้าไม่ได้มาตรฐาน จะถูกระงับไม่ให้จำหน่ายทันที และ 4.การกระจายสินค้า โดยผู้รับช่วงค้าส่งจะนำสินค้าที่ประมูลได้ออกจำหน่ายให้ผู้ซื้อในเวลาที่กำหนดไว้