นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวปาฐกถาภายในงานสัมมนาความรับผิดชอบและแนวปฏิบัติขององค์กรธุรกิจเอกชนในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นถึงสถานการณ์ต่อต้านคอร์รัปชั่นในภาคเอกชนไทยว่ามีสัญญาณที่ดีเพราะมีบริษัทอย่างน้อยกว่า 200 แห่ง ที่ประกาศเจตนารมณ์อย่างเป็นรูปธรรมที่จะไม่ยอมรับคอร์รัปชั่นพร้อมวางระบบเพื่อป้องกัน ตรวจสอบ และแก้ไข
การตื่นตัวของภาคเอกชนนับเป็นความหวังในการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ควรร่วมกันทำ ปัจจุบันโครงสร้างบริษัทแบบครอบครัวมีสัดส่วนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึง 70% ต้องเผชิญกับความท้าทายที่ต้องเอา Corporate Governance (CG) เข้ามาใช้ให้ได้ เพราะบริษัทที่บริหารแบบครอบครัวประสบความสำเร็จรุ่นที่ 3 มีเพียง 10% และรุ่นที่ 4 ที่ประสบความสำเร็จมีเพียง 1% ซึ่งกลุ่มที่ประสบความสำเร็จเป็นกลุ่มที่เปลี่ยนทัศนคติ มองว่าธรรมาภิบาลไม่ได้เป็นเรื่องของกฎเกณฑ์ แต่เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ
ส่วนตลาดและนักลงทุนเข้ามามีอิทธิพลเพิ่มขึ้นซึ่งปัจจุบันนักลงทุนไม่ได้มองแค่ผลประโยชน์จากการลงทุนแต่ยังพิจารณาในแง่ของธรรมาภิบาลว่าบริษัทที่จะลงทุนมีคุณสมบัติด้านนี้หรือไม่ แม้ว่าการจัดอันดับดัชนีบ่งชี้ระดับคอร์รัปชั่นระหว่างประเทศปี 2560 ไทยอยู่ในอันดับที่ 96 จาก 180 ประเทศทั่วโลก นั้นมองว่าเป็นเรื่องของความรู้สึก อยากให้โฟกัสสิ่งที่เป็นรูปธรรมคือการทำให้เกิดผลจริงมากกว่า
ในเดือนกรกฎาคมนี้ The Asian Corporate Governance Association (ACGA) ซึ่งเป็นหน่วยงานในการประเมินและจัดอันดับด้านทุจริตคอร์รัปชั่นระดับโลกจะเข้ามาประเมินประเทศไทย ซึ่งอาจจะมีการสอบถามบุคลากรหลายองค์กรเพื่อประเมินภาพรวมด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี