เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 บริษัทปตท. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม กับ 9 ธนาคาร ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารธนชาต ธนาคารยูโอบี และ ธนาคารออมสิน
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท. กล่าวว่าการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมครั้งนี้ มีระยะเวลา 2 ปี โดย ปตท.จะร่วมกับธนาคารทั้ง 9 แห่ง กำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานในการส่งเสริมและผลักดันการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินของทั้งสองฝ่าย ผลักดันการปรับปรุงและพัฒนาระบบทางการเงิน เช่น ระบบประกันภัย อนุพันธ์ทางการเงิน ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ การทำธุรกรรมทางการเงิน รวมทั้งปรับปรุงกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินงาน ตลอดจนร่วมกันชักชวนคู่ค้าที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวรรม ปตท.กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเร็วมาก ธุรกรรมทางการเงินอยู่บนมือถือทั้งหมด ดังนั้นปตท.ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคซึ่งปตท.และ 9 ธนาคารมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาระบบและนวัตกรรมทางการเงินร่วมกัน ของทั้งสองฝ่าย เช่น การพัฒนาแอพพลิเคชั่น คิวอาร์โค้ด บล็อกเชน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้บริโภคสะดวก รวดเร็ว
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่าธนาคารเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้กับกลุ่มปตท. ตลอดจนวงจรธุรกิจ หรือ Value Chain ทั้งคู่ค้า และลูกค้าในกลุ่ม ปตท. ให้แข่งขันและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งจะเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลของภาคธุรกิจไทยจากโครงการนำร่องที่จะเกิดขึ้นอีกมาก จนเป็นต้นแบบสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของชาติในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี