นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุน 9 ราย จากต่างชาติแสดงความสนใจที่จะร่วมดำเนินการพัฒนาเมืองอัจฉริยะหรือ Smart City ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)ที่รัฐบาลต้องการผลักดันให้เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นโครงสร้างสำคัญพื้นฐานอย่างหนึ่งต่อการขับเคลื่อนอีอีซีเพราะจะก่อให้เกิดเมืองใหม่ที่รองรับทั้งภาคอุตสาหกรรมและความเป็นอยู่ของคนที่มีระบบอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและดูแลสิ่งแวดล้อม

“การพัฒนาเมืองอัจฉริยะเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของการพัฒนาอีอีซีนอกเหนือจากโครงสร้างพื้นฐานหลักๆ 5 โครงการใหญ่ ซึ่งล่าสุดบอร์ดอีอีซีก็ได้รับทราบความก้าวหน้าในเรื่องนี้โดยเฉพาะมาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)

ซึ่งการลงทุนในอีอีซีรัฐบาลไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้แต่ล่าสุดตัวเลขการลงทุนจากบีโอไอก็พบว่ามีประมาณ 3 แสนล้านบาทในขณะนี้” นายอุตตมกล่าว

ทั้งนี้เพื่อเป็นการชักชวนให้เกิดการลงทุนในอีอีซีและให้นักลงทุนต่างชาติเห็นภาพที่ชัดเจนหลังจากที่พ.ร.บ.อีอีซีพ.ศ. 2561 ได้ประกาศใช้แล้วตั้งแต่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลโดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และคณะที่เกี่ยวข้องจะเดินทางไปโรดโชว์ที่ยุโรปเป็นแห่งแรกคือ อังกฤษและฝรั่งเศส ช่วงปลายเดือนนี้โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นช่วง 20-25 มิถุนายน 2561 โดยในส่วนของอังกฤษนั้นมีเป้าหมายชักจูงการลงทุนไบโอชีวภาพและยานยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ฝรั่งเศส เป็นการสานต่อและขยายความร่วมมือหลังจากที่บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ได้ลงนามกับบริษัทแอร์บัส เมื่อธันวาคม 2560 ในโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา

“โดยจะเน้นย้ำให้นักลงทุนต่างชาติเห็นว่ารัฐบาลต้องการผลักดันให้ลงทุนจริง และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ จะเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้หลังจากที่รัฐบาลประกาศเชิญชวนการลงทุน และเตรียมเปิดขายซอง ประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ วงเงินกว่า 2.2 แสนล้านบาท อายุสัมปทาน 50 ปี” นายอุตตมกล่าว

ขณะนี้มีต่างชาติหลายรายสนใจเข้าลงทุนในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งบอร์ด อีอีซีชุดใหญ่ประชุมนัดแรก หลัง พ.ร.บ. อีอีซีมีผลบังคับใช้ โดยได้อนุมัติ TOR (ข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง) ประกาศเชิญชวนผู้ลงทุนเข้าประมูลในโครงการนี้ ภายในเดือนตุลาคมปีนี้ และหลังจากเสร็จสิ้นการโรดโชว์ที่ยุโรป ก็จะไปต่อที่ประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

สำหรับจำนวนผู้โดยสารในสนามบินอู่ตะเภานั้น เติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2558 มีผู้โดยสารเพียง 240,000 คน ปี 2560 ก้าวกระโดดเพิ่มขึ้นเป็น 1,400,000 คน และคาดว่าในปีนี้จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากกว่า 2,000,000 คน