10-12ก.ย./การันตี ‘ไม่มีฮั้ว’

ชี้3ปีมูลค่าตลาดโต2แสนล.

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา กสทช. ได้ทำการลงประกาศหนังสือเชิญชวน(ไอเอ็ม) ตามประกาศ กสทช. เรื่อง การขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ หรือ หนังสือเชิญชวนเข้าประมูลทีวีดิจิตอลทั้ง 24 ช่อง โดยจะเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลเข้ามาขอซื้อเอกสารขอเข้าประมูล ในวันที่ 10-12 กันยายน ที่สำนักงาน กสทช. โดยจะจำหน่ายในราคาหมวดละ 1,070,000 บาท

ทั้งนี้ผู้เข้าประมูลมีความประสงค์จะเข้าประมูลมากกว่า 1 หมวด ก็ต้องทำการซื้อเอกสารมากกว่า 1 ซอง เช่น ต้องการเข้าประมูลหมวดช่องรายการข่าว และช่องรายการวาไรตี้ความคมชัดสูง(เอชดี) ก็ต้องทำการ ซื้อ 2 ซอง ราคา 2,140,000 บาท ส่วนลำดับหมวดช่องรายการที่ประมูลก่อนหรือหลัง จะคำนึงจากจำนวนที่มีผู้ต้องการเข้าประมูลมากสุด

ทั้งนี้คาดว่า จะมีผู้เข้าประมูลรวมทุกหมวด ราว 30-40 ราย ฉะนั้นเชื่อว่าในการประมูลจะมีการแข่งขันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากการประมูลทีวีดิจิตอลมีผู้เล่นจำนวนมากราย อีกทั้งผู้ที่เสนอเงินสูงสุด ยังมีสิทธิในการเลือกหมายเลขช่องก่อนผู้ที่เสนอเงินน้อยลงมาตามลำดับ ซึ่งจะมีผลในด้านการตลาด แต่ทั้งนี้สิ่งที่ กสทช. คาดหวังจากการประมูลคือต้องการให้ผู้เข้าประมูลสามารถชนะการประมูลและยังมีเงินทุนเหลือพอที่จะไปพัฒนาหรือจัดซื้อเนื้อหารายการที่มีคุณภาพ เพื่อมาให้บริการแก่ผู้ชม

“มูลค่าทางการตลาดของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในปัจจุบันจะอยู่ที่ราว 1 แสนล้านบาท แต่ภายหลังทีวีดิจิตอลเดินหน้าอย่างเต็มรูปแบบคาดมูลค่าของอุตสาหากรรมโทรทัศน์จะปรับเพิ่มเป็น 2 แสนล้านบาท ใน 2-3 ปี” พ.อ.นที กล่าว

พร้อมกันนี้ พ.อ.นทียังชี้แจงกรณีที่ นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระด้านโทรคมนาคม ได้เผยข้อมูลว่า ในการประมูลทีวีดิจิตอลขณะนี้มีกระบวนการตกลงผลประโยชน์ระหว่างกันหรือฮั้วการประมูล เกิดขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยืนยันว่า การประมูลทีวีดิจิตอลไม่สามารถฮั้วการประมูลได้ เพราะผู้เข้าประมูลไม่ได้มีแค่ 2-3 บริษัท แต่มีมากถึง 30-40 บริษัท จำนวนใบอนุญาตก็มีมากกว่า จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการฮั้วประมูลกันจริง รวมทั้งที่ผ่านมากระบวนการจัดการประมูลที่ กสทช. ดำเนินการมาตรวจ ก็ได้ดำเนินการอย่างโปร่งใสถูกต้อง และสามารถตรวจสอบได้