กทค.จี้‘ทรูมูฟ’โอนย้ายลูกค้า

ค้างในระบบ2Gกว่า11ล้านราย

ไปใช้บริการกับรายใหม่ก่อนกย.

นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน ผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.)ผู้อำนวยการกลุ่มงานและจัดสรรทรัพยากรโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด (กทค.) เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2557 มีมติให้ส่งหนังสือไปยัง บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 2G ในย่านความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ให้เร่งโอนย้ายลูกค้า

ทั้งนี้สัญญาของทั้งสองบริษัทสิ้นสุดสัญญาสัมปทานไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2556 ที่ผ่านมาและตามประกาศกสทช.เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือ สัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 กำหนดให้มีช่วงเยียวยาไม่เกิน 1 ปี หรือไม่เกินเดือนกันยายน 2557 นี้ การโอนย้ายต้องแล้วเสร็จ

อย่างไรก็ตาม จากการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย พบว่า ทรูมูฟ มีลูกค้าที่ค้างในระบบยอด ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 จำนวน 11.7 ล้านราย ส่วนดีพีซีมีลูกค้าที่ค้างจำนวน 19,710 ราย ซึ่งเป็นระบบรายเดือนทั้งหมด

โดยในส่วนของทรูมูฟนั้นบริษัทอ้างว่าจะมีลูกค้าที่รอโอนย้ายเลขหมาย (นัมเบอร์ พอร์ตทิบิลิตี้) จำนวน 5 แสนราย แต่กทค.พิจารณาดูแล้วพบว่า ทรูมูฟ มีอัตราการโอนย้ายลูกค้าที่หมดสิ้นสุดสัมปทานต่ำมาก เพราะจากในเดือนกันยายน 2556 ปีที่ผ่านมา มียอดลูกค้าที่ใช้งานจำนวน 17.5 ล้านราย ซึ่งผ่านมา 5 เดือน ยอดการโอนย้ายยังน้อยหรือยังค้างอยู่ 11.7 ล้านราย ดังนั้น กสทช.อาจจะกำหนดมาตรการเร่งรัดอื่นๆต่อไป

“ในส่วนลูกค้าที่ยังมีการใช้งานอยู่โดยไม่ยอมไปใช้เครือข่ายอื่นนั้น กสทช.ได้ออกคำสั่งให้เอกชนทั้ง 2 ราย ส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) ไปยังลูกค้าที่อยู่ในระบบจำนวนสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งต่อเลขหมาย เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าทราบว่า ขณะนี้ระบบ 2G ในย่าน 1800 ที่ใช้งานอยู่ได้หมดสัมปทานลงแล้ว และสามารถใช้งานได้ถึงเดือนกันยายน 2557 เท่านั้น”

นอกจากนี้ พบว่าสาเหตุที่ทรูมูฟไม่สามารถดำเนินการโอนย้ายลูกค้าได้นั้น เนื่องจากลูกค้าของทรูมูฟ เป็นระบบเติมเงินมากกว่า 90% และที่ผ่านมา ทรูมูฟเองไม่ได้มีการเข้มงวดในการลงทะเบียนแสดงตัวผู้ใช้บริการในระบบเติมเงิน ทำให้ทรูมูฟไม่สามารถรู้รายละเอียดของผู้ใช้ อาทิ ชื่อ ที่อยู่ หรือเลขหมายติดต่อ ทำให้ติดต่อกลับไปยังลูกค้าได้ยาก ซึ่งทางกสทช.เองก็มีความกังวลว่า
จากนี้จะเหลือเวลาเพียง 7 เดือน จะไม่สามารถโอนย้ายไปทัน