นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ได้แสดงความสนใจที่จะนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีกระแสต่อต้านน้ำมันปาล์มจากประเทศอินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้จากกระแสดังกล่าวจึงทำให้ผู้ส่งออกไทยมีโอกาสที่จะส่งออกน้ำมันปาล์มไปอียูได้ในปริมาณที่มากขึ้น
โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาของปี 2557 ไทยสามารถส่งออกนำมันปาล์มได้แล้วเป็นปริมาณถึง 5,000 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 322 ล้านบาท ในขณะที่กลุ่มประเทศผู้นำเข้าสำคัญ 6 ประเทศหลัก ได้แก่ เบลเยียม ,ฝรั่งเศส ,อังกฤษ ,เนเธอร์แลนด์ ,สวีเดน และเดนมาร์ก ได้ประกาศว่าภายในปี 2558 ที่จะถึงนี้ จะนำเข้าเฉพาะน้ำมันปาล์มที่มีการผลิตอย่างยั่งยืนเท่านั้น
ทั้งนี้ผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มหลายประเทศ ได้เริ่มมีการตื่นตัวอย่างมากในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนของการผลิตน้ำมันปาล์ม ซึ่งประเทศไทยมีภาพลักษณ์ในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี อีกทั้งพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันของประเทศไทยมีความเป็นสัดส่วน มีการปลูกโดยคำนึงถึงระบบนิเวศ และประเทศไทยยังได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตน้ำมันปาล์ม ขององค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี เพื่อการพัฒนาแหล่งผลิตปาล์มน้ำมันในประเทศไทย
โดยได้มีการวางระบบรับรองคุณภาพสำหรับกลุ่มเกษตรกรรายย่อย และออกใบรับรองให้สามารถส่งออกสินค้าไปยังประเทศเยอรมนีได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นการตื่นตัวในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนของการผลิตน้ำมันปาล์มของ 6 ประเทศผู้นำเข้าดังกล่าว จึงถือเป็นโอกาสดีกับผู้ส่งออกไทย ในการที่จะเร่งหาช่องทางการขยายตลาดในอียู เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในสินค้าน้ำมันปาล์มให้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลในเชิงบวกต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไปในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี