นับเป็นวันประศาสตร์เมื่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)มีมติท่วมท้นถึง 190 เสียงจากสมาชิกสนช.ทั้งหมด 220 ให้ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ส่อรู้เห็นเป็นใจปล่อยให้เกิดมหกรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกันก็ปล่อยผีนายสมศักดิ์
เกียรติ์สุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฏร ที่รอดถูกถอดถอนด้วยเสียงที่มีเสียว 115 ต่อ 100 และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภาที่รอดด้วยเสียง 120 ต่อ 95 กรณีถูกชี้มูลความผิด
ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการรวบรัดผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา(สว.)
สำหรับนายสมศักดิ์ กับนายนิคม ที่รอดตัวนั้นไม่ได้หมายความว่าไม่ผิด แต่เพราะสนช.ส่วนใหญ่มองว่ามีปัญหาข้อกฏหมายเพราะรัฐธรรมนูญปี 2550 สิ้นสภาพไปแล้วไม่สามารถลงโทษได้ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าทั้งสองผิดจริง
สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นวิบากกรรมที่ถึงเวลาต้องชดใช้ซึ่งนอกจากโทษ
ถูกถอดถอนและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีแล้ว ที่หนักหนาสาหัสก็คือล่าสุดสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.)กลับลำแถลงยอมฟ้องเอาผิดทางอาญา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในความผิดเดียวกับที่ถูกยื่นถอดถอนตามการชี้มูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)หลังจากที่พยายามเตะถ่วงดึงเกมช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาตลอด ซึ่งหากศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินว่าผิดจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีโทษติดคุก 10 ปี ยังไม่รวมกรณีที่กระทรวงการคลังเตรียมฟ้องแพ่งให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่แผ่นดินเป็นเงินกว่า 6 แสนล้านบาทอันเกิดจากโครงการรับจำนำข้าว
ผลที่จะตามมาจากการลงโทษปิดฉาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ต้องจับตาก็คือปฏิกิริยาตอบโต้จากขบวนการระบอบทักษิณโดยเฉพาะกลุ่มเสื้อแดงและกองกำลังก่อการร้ายใต้ดิน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าด้วยอำนาจภายใต้กฏอัยการศึก รวมทั้งมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ให้อำนาจหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดถึงขั้นใช้อำนาจแทนศาลได้ก็เชื่อว่าจะสามารถคุมขบวนการระบอบทักษิณได้ไม่ยาก และยิ่งหากดำเนินยุทธวิธีเชิงรุกตัดไฟแต่ต้นลมจัดการกำราบล้างบางบรรดาแกนนำระบอบทักษิณทั้งหลายที่ก่อนหน้านี้พยายามออกมาป่วน
ซึ่งก็มีแค่หยิบมือเดียวเชื่อว่าการจะสร้างสถานการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเหมือนเมื่อปี 2553 คงเป็นไปได้ยากเพราะแม้แต่มวลชนคนเสื้อแดงเองปัจจุบันก็เริ่มตาสว่างรู้ทันธาตุแท้ระบอบทักษิณมากขึ้น และอีกอย่างก็อยากเห็นบ้านเมืองสงบเสียที
สำหรับแกนนำเสื้อแดงที่ออกมาขู่ฟ่อหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกถอดถอนจะเกิดนองเลือดนั้นก็แค่เกมโชว์สร้างภาพเชลียร์นายใหญ่และสร้างค่าตัว โดยเฉพาะ นายขวัญชัย ไพรพนา ที่ก่อนหน้านี้ขู่กร้าวว่าเลือดจะนองแผ่นดินนั้น ล่าสุดกลับลำจุกตูด 360 องศากล่าวเสียงอ่อยว่ารับได้กับมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เตือนให้หุบปาก ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานคนเสื้อแดง ก็แทงกั๊กไม่กล้าสั่งระดมมวลชนเสื้อแดงสู้ขั้นแตกหักเพราะรู้ว่าเจอของจริงและตัวเองก็แผนเต็มตัว
ในแง่ร้ายแม้หลายคนจะวิตกความรุนแรงที่จะตามมาจากการลุกฮือของขบวนการระบอบทักษิณ แต่จากการยืนยันของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก แสดงความมั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์อยู่และจะไม่ยอมให้มีการล้ำเส้นกฏอัยการศึกอย่างเด็ดขาดสะท้อนให้เห็นว่าคสช.ประเมินวิเคราะห์แล้วสถานการณ์แล้วว่า ขบวนการระบอบทักษิณปัจจุบันพลังและศักยภาพเสื่อมลงมาก
อย่างไรก็ตามหากมองในด้านบวกการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมทั้งเอาผิดทางอาญาและทางแพ่งครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องชอบธรรมในสังคมไทยว่า นักการเมืองไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็แล้วแต่หากโกงชาติปล้นแผ่นดินและสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศไม่มีสิทธิลอยนวลเป็นอภิสิทธิ์ชนเหนือกฏหมายต้องถูกลงโทษตามกบิลเมืองเหมือนกับประชาชนทั่วไปภายใต้กฏหมายเดียวกัน
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี