มะกันอันตรายจอมอันธพาลโลกยังดื้อด้านแทรกแซงกิจการภายในไทยไม่เลิก โดยล่าสุดในพิธีเปิดการฝึกคอบบร้าโกลด์ซึ่งกองทัพไทยเป็นเจ้าภาพโดยมีทหารจากกว่า 20 ประเทศเข้าร่วม  ทั้งๆที่เป็นการสร้างความร่วมมือทางทหาร แต่นายแพททริค เมอร์ฟี่ อุปทูตมะกันอันตรายประจำประเทศไทยกลับฉวยโอกาสกล่าวเปิดงานเรียกร้องให้ไทยมีการเลือกตั้งคืนประชาธิปไตยโดยเร็วอย่างหน้าตาเฉย  ทั้งๆที่ก่อนหน้านายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรมต.ต่างประเทศมะกันอันตรายก็เพิ่งก่อเรื่องแสดงความอหังการเหิมเกริมแทรกแซงกิจการภายในของไทยและให้ท้ายหนุนหลังระบอบทักษิณด้วยการกล่าวปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองในคดีสุดอื้อฉาวโครงการรับจำนำข้าว

               ขณะนี้คนไทยที่รักความถูกต้องกำลังจับตาไพ่ตายใบสุดท้ายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการเอาตัวรอดจากวิบากกรรมถึงขั้นติดคุกกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.)ยืนยันแล้วว่าจะส่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลยคดีโครงการรับจำนำข้าวสุอัปยศต่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองภายในวันที่ 21 ก.พ.นี้ ซึ่งนั่นหมายความว่ากระบวนการพิสูจน์ความผิดถูกชั่วดีชี้ชะตาโทษทางอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เริ่มนับถอยหลัง โดยโทษสูงสุดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ส่อรู้เห็นเป็นใจให้เกิดมหกรรมปล้นชาติโกงแผ่นดินโครงการรับจำนำข้าวซึ่งสร้างความเสียหายล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์หลายแสนล้านบาทคือจำคุก 10 ปี

            ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยประกาศว่าจะขอสู้เพื่อประชาธิปไตยจนตัวตายและพร้อมที่จะสู้คดีโครงการรับจำนำข้าวเพื่อพิสูจน์ตัวเองนั้นคงจะได้เห็นกันว่าจะไม่ใช้เล่ห์ด้วยวิธีการต่างๆหนีการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองเสียก่อนโดยเฉพาะข่าวที่ว่าวางแผนเตรียมขอลี้ภัยทางการเมืองโดยซุกปีกอินทรย์อันธพาลมะกันอันตรายโดยการบิดเบือนว่า ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองอย่างที่ นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรมต.ต่างประเทศมะกันอันตราย ยกเป็นข้ออ้างปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อนหน้านี้ ทั้งๆที่คดีมหกรรมโกงจำนำข้าวเป็นคดีทางอาญาที่มีข้อเท็จจริงชัดเจนและรอการพิสูจน์ความถูกผิดตามกระบวนการยุติธรรมโดยศาล

              ที่สำคัญแผนลี้ภัยการเมืองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นจริงหรือไม่คงต้องจับตาวัดใจธาตุแท้ของมะกันอันตราย โดยหากวันใด น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั่งรถสถานทูตมะกันอันตรายแล้ววิ่งเข้าสถานทูตที่ถนนวิทยุเมื่อใดนั่นหมายถึงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ภายใต้การคุ้มครองโดยมะกันอันตรายตามเอกสิทธิ์ทางการทูตอย่างสมบูรณ์และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร้อนตัวกลัวโทษความผิดจึงใช้เล่ห์หนีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองในคดีจำนำข้าวแน่นอน

                   หากมะกันอันตรายช่วยเหลือให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนได้ลี้ภัยการเมืองเท่ากับละเมิดกฏบัตรสหประชาชาติว่าด้วยเงื่อนไขการลี้ภัยทางการเมืองข้อหนึ่งที่ระบุว่า ผู้ขอลี้ภัยต้องไม่เป็นผู้ที่ทำผิดคดีอาญา อย่าว่าแต่คดีโครงการรับจำนำข้าวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลยเป็นเรื่องของข้อเท็จจริงและการดำเนินคดีอาญาร้ายแรงตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมทุกอย่าง ไม่ใช่ปัญหาทางการเมืองอย่างที่มะกันอันตรายและน.ส.ยิ่งลักษณ์ พยายามบิดเบือนเบี่ยงเบนประเด็นไปจากข้อเท็จจริง  

              ขณะเดียวกันหากมะกันอันตรายช่วยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ลี้ภัยเท่ากับการประจานธาตุแท้มะกันอันตรายว่า พร้อมที่จะปกปกคุ้มครองคนเลวทรามขนาดไหนก็ตามหากยอมเป็นทาสรับใช้และมะกันอันตรายได้ประโยชน์โดยสร้างภาพอ้างความเป็นประชาธิปไตยบังหน้าอำพรางธาตุแท้ซาตานของตัวเอง

ทีมข่าวการเมือง