สังคมต้องจับตาในกรณีของ “ธัมมชโย” เจ้าสำนักพระธรรมกาย ให้ถึงที่สุดว่าจะกลายเป็นคลื่นกระทบฝั่งมวยล้มต้มคนดูเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าเจ้าสำนักจานบินผู้นี้ทรงอิทธิพลยิ่งใหญ่ระดับประเทศ ไม่อย่างนั้นคงไม่ลอยนวลมาได้จนทุกวันนี้
ยกตัวอย่างคดียักยอกเอาทรัพย์สินสำนักจานบินมาเป็นสมบัติส่วนตัว รวมทั้งเผยแพร่ลัทธิอุบาทว์ผิดเพี้ยนจากคำสอนของพระพุทธเจ้าจนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ต้องมีพระลิขิตชี้ว่าผิดพระธรรมวินัยต้องอาบัติปาราชิกพ้นจากความเป็นสงฆ์ตั้งแต่เมื่อปี 2542 แต่จนบัดนี้ ธัมมชโย ก็ยังลอยนวลซ้ำบรรดาพระเถระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม(มส.)ยังเลื่อนสมณศักดิ์สูงขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้ทรงอิทธิพลของเจ้าสำนักจานบินที่ร่ำลือกันว่าถึงกับสามารถจ้างผีให้โม่แป้ง
และในคดีเดียวกันยุค พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก เรืองอำนาจ ธัมมชโย สามารถทำให้ตัวเองรอดจากการถูกจับสึกเข้าคุก ทั้งๆ ที่ศาลกำลังจะพิพากษาโทษอยู่แล้ว โดยฝ่ายอัยการที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องมาแต่ต้นกลับถอนฟ้องเอาดื้อๆ ด้วยคำสั่งของอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกซึ่งเป็นพวกเดียวกับเจ้าสำนักจานบินที่ต่างเคลื่อนไหวคู่ขนานวางแผนคิดการใหญ่มุ่งยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเพื่อสถาปนาอำนาจใหม่
นอกจากคดียักยอกทรัพย์ของวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวในอดีตแล้ว อีกคดีหนึ่งซึ่งกำลังเป็นข่าวอื้อฉาวครึกโครมยิ่งกว่าก็คือ คดีที่ ธัมมชโย และสำนักจานบินรับทรัพย์โจรจากการยักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ของ นายศุภชัยศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดระดับมือขวาของธัมมชโย
คดีนี้ต้องถือว่าชั่วร้ายเลวทรามมากเพราะเงินที่มือขวา ธัมมชโย โกงจากประชาชนตาดำๆ ที่น่าสงสารมาให้ลูกพี่นั้นล้วนเป็นเงินฝากของเหล่าผู้สูงอายุที่นำเงินซึ่งสั่งสมมาทั้งชีวิตไปฝากกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น หวังกินดอกผลในช่วงบั้นปลายของชีวิต โดยเงินที่ถูกโกงมีมูลค่ามหาศาลรวมถึงกว่า 12,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเกือบ1,000 ล้านบาทถูกเล่นแร่แปรธาตุโอนไปให้ธัมมชโยและสำนักจานบิน
ล่าสุดมีข่าวว่าสำนักจานบินใช้ลูกไม้เดิมเหมือนกรณีที่ยักยอกเงินวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวโดยต่อรองพร้อมคืนเงินให้เพื่อยุติคดีหนีความผิด
คดีนี้สังคมตั้งความหวังไว้มากกับดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ให้มาสะสางปัญหา ธัมมชโย ที่จะต้องทำความจริงให้ปรากฏและไม่ปล่อยให้คนผิดลอยนวลทั้งทางโลกและทางธรรม แล้วนำเงินทุกบาททุกสตางค์มาคืนให้ประชาชนตาดำๆ ที่ถูกโกง ตลอดจนควรมีการตรวจสอบเชิงลึกทรัพย์สินของสำนักพระธรรมกายทั้งหมดซึ่งแน่นอนว่าจะต้องพบข้อมูลความไม่ชอบมาพลที่ช็อกคนทั้งประเทศ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติในระยะยาว
คดีนี้ธัมมชโย รับของโจรสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ถือว่าความผิดสำเร็จแล้วและเลวร้ายกว่าคดียักยอกเงินวัดเสียอีก โดยมีหลักฐานชัดเจนบัญชีเงินที่นายศุภชัยโอนให้ธัมมชโย เพราะฉะนั้นคดีนี้ต้องจับตาดูเหล่าพระเถระผู้ใหญ่ใน มส.ทั้งหลายว่าจะมีท่าทีอย่างไรกับ ธัมมชโย ซึ่งน่าจะมีสถานะเป็นอลัชชีโล้นห่มผ้าเหลืองตั้งแต่ปี 2542 แล้ว ซึ่งท่าทีของพระเถระผู้ใหญ่ในมส.จะได้รู้กันชัดๆ เสียทีว่ารูปไหนเป็นสงฆ์แท้และรูปไหนเป็นผีโม่แป้งในคราบผ้าเหลืองในสังกัดธัมมชโย อย่ามาตะแบงอ้างว่าโกงแล้วคืนไม่ผิดเหมือนข้ออ้างแบบเล่ห์ศรีธนญชัยของอดีตนายกฯอัปรีย์บางคนที่พอถูกจับได้ว่าโกงก็ตะแบงว่าบกพร่องโดยสุจริต
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี