แล้วก็มาถึงเวลาที่กรรมทยอยเช็คบิลนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยอาจถูกยึดทรัพย์และติดคุกหัวโต
กรณี นายธาริต นั้นล่าสุดคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)มีมติเอกฉันท์ให้อายัดทรัพย์สิน นายธาริต และ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยา มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท เนื่องจากสงสัยว่ามีการโอน ยักย้าย แปรสภาพหรือซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับความร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งตามขั้นตอน นายธาริต ต้องมาชี้แจงต่อป.ป.ช.ภายใน 30 วัน โดยนายธาริตขอเลื่อนชี้แจงออกไปอีก 30 วัน
ก่อนหน้านี้ นายธาริต และภรรยาเคยตกเป็นข่าวอื้อฉาวกรณีสร้างรีสอร์ทรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
ภาพลักษณ์อื้อฉาวของ นายธาริต ที่สำคัญคือถูกตั้งข้อสังเกตว่าเปลี่ยนสีลู่ตามลมการเมือง โดยในยุครัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ นายธาริต มีบทบาทสำคัญในการสืบสวนและแถลงข่าวเกี่ยวกับกองกำลังชุดดำที่แฝงตัวอยู่ในม็อบเสื้อแดงซึ่งก่อการร้ายด้วยระเบิดและอาวุธสงครามร้ายแรงตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่สี่แยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 จนทำให้ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และทหารตลอดจนประชาชนเสียชีวิตบาดเจ็บจำนวนมาก
แต่พอการเมืองเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ซึ่งทันทีที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลจำได้ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ขณะเป็นรองนายกฯด้านความมั่นคง และรับผิดชอบกำกับดูแลดีเอสไอขู่ว่าจะปลด นายธาริต ทำให้ นายธาริต เปลี่ยนพฤติกรรมจากหน้ามือเป็นหลังเท้าด้วยการพลิกคดีก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองปี 2553 มาปัดฝุ่นใหม่แล้วบิดเบือนรูปคดีจากดำเป็นขาวจากขาวเป็นดำด้วยการชี้ว่า ไม่มีกองกำลังก่อการร้ายชุดดำที่เคลื่อนไหวคู่ขนานกับม็อบเสื้อแดง และกล่าวโทษรัฐบาลนายอภิสิทธิ์และกองทัพว่าเข่นฆ่าประชาชนในเหตุการณ์ครั้งนั้น
นายธาริต ทำงานรับใช้ใกล้ชิดสร้างผลงานเข้าตา ร.ต.อ.เฉลิม เป็นอย่างมากโดยช่วงหลัง ร.ต.อ.เฉลิม จากที่เคยขู่ปลดกลับชม นายธาริต ว่าทำงานได้ดี
มาทางด้าน นายบุญทรง ซึ่งเป็นเด็กในคาถาตระกูลชิน ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกฟ้องดำเนินคดีฐานทุจริตการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีในโครงการรับจำนำข้าวจนสร้างความเสียหายต่อรัฐเป็นมูลค่ามหาศาล ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ประทับรับฟ้องคำร้องของสำนักงานอัยการสูงสุดไว้พิจารณาแล้วและนัดเปิดคดีวันที่ 29 มิ.ย.นี้ โดยโทษสูงสุดสำหรับ นายบุญทรง คือจำคุกตลอดชีวิต
นอกจากนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเตรียมฟ้องแพ่ง นายบุญทรง เพื่อให้ชดใช้ความเสียหายแก่รัฐเป็นมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท ในโครงการรับจำนำข้าวด้วย
ณ วันนี้ประเทศอยู่ในยุคการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่เพื่อล้างขบวนการชั่วร้ายเสนียดจัญไรของแผ่นดินที่ทำลายชาติบ้านเมืองมานานหลายปีจึงถือเป็นลางร้ายสำหรับนายธาริตและนายบุญทรงที่กำลังถูกกรรมตามเช็คบิล ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนเกิดแต่กรรมที่ตัวเองก่อไว้ทั้งสิ้น
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี