หนึ่งในความเป้าหมายและเป็นความหวังของประชาชนในการเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศของคณะรักษาควมมสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ก็คือการจัดระเบียบ องค์กรตำรวจให้สะอาดพ้นจากความเลวร้ายอย่างจริงจัง แต่สัญญาณล่าสุดจากผู้นำประเทศบ่งชี้ว่า ความหวังที่จะปฏิรูปองค์กรตำรวจส่อเค้าที่จะถูกแช่แข็งเสียแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ประกาศกลางที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ตอนหนึ่งว่า “วันนี้ผมปฏิรูปไปได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ อีก 90 เปอร์เซ็นต์ ให้เป็นหน้าที่รัฐบาลหน้า โดยเฉพาะการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจจะรื้อจะปรับอย่างไรบอกรัฐบาลหน้า และฝากบอกพี่ๆ สมาชิกสภาปฏิรูแห่งชาติ(สปช.)ที่เสนอมาด้วย ถ้าให้รัฐบาลผมทำวันนี้เรื่องปฏิรูปจะเดินหน้าได้อย่างไร”
คำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ นอกจากจะสะท้อนถึงการพับแผนปฏิรูปองค์กรตำรวจภายใต้ยุคคสช.แล้ว ยังสะท้อนความวิตกว่าหากเดินหน้าผ่าตัดองค์กรตำรวจครั้งใหญ่จะต้องเผชิญกับแรงต้านของกองทัพสีกากี ซึ่งมีกำลังพลหลายแสนคนทั่วประเทศ จนอาจเกิดความตึงเครียดซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปฏิรูปประเทศด้านอื่นๆ โดยในขั้นรุนแรงกองทัพสีกากีอาจเปิดศึกงัดข้อกับกองทัพสีกากีโดยตรง หรือทางอ้อมอาจจะใช้วิธีบอยคอตต์ เกียร์ว่างเจาะยางคสช.และรัฐบาลนายกฯลุงตู่
องค์กรตำรวจนั้นถือเป็นหน่วยงานต้นทางที่สำคัญของกระบวนการยุติธรรมและเกี่ยวข้องกับทุกข์สุขของประชาชนซึ่งที่ผ่านมา ภาพพจน์และพฤติกรรมของตำรวจในสายตาประชาชนนั้นติดลบทั้งจากพฤติการณ์รีดไถแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ใช้อำนาจในฐานะผู้ถือกฎหมายยัดข้อหาบิดเบือนคดี ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์หรืออุ้มไปทำทารุณกรรมหรือสาบสูญ หรือชั่วร้ายถึงขั้นตำรวจเป็นอาชญากรในเครื่องแบบเสียเอง
ส่วนในทางการเมืองนั้น 10 กว่าปีที่ผ่านมา องค์กรตำรวจยิ่งตกต่ำอย่างหนักเมื่อทำตัวเป็นทาสรับใช้ช่วยกระพือความชั่วร้ายให้กับระบอบทักษิณจนถูกเรียกว่าเป็น “รัฐตำรวจ”
สัญญาณการต่อต้านการปฏิรูปองค์กรสีกากียุคคสช.สะท้อนให้เห็นจากการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการปฏิรูป
กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเรื่องกิจการตำรวจของสปช.ที่มี นายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธาน ปรากฏว่า ถูกต่อต้านอย่างหนัก โดยเฉพาะจากบรรดานายตำรวจที่เป็นสมาชิกสปช. รวมทั้งองค์กรตำรวจบางองค์กรจนไม่สามารถหาข้อสรุปได้ทั้งๆที่เป็นเพียงประเด็นการแยกงานสอบสวนเป็นอิสระจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)
หากย้อนไปในอดีตในยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นรัฐบาลเฉพาะกาลหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 เคยมีความพยายามปฏิรูปองค์กรสีกากีโดยตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางปฏิรูปองค์กรตำรวจ โดยมี พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนายตำรวจตงฉินเป็นประธาน โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ใช้เวลานานนับปีศึกษาจนได้ผลสรุปแนวทางปฏิรูปด้วยการกระจายอำนาจองค์กรตำรวจ แต่ในที่สุดก็เกิดปรากฏการณ์บรรดาบิ๊กสีกากีทั่วประเทศรวมตัวกันแสดงพลังต่อต้าน จนในที่สุดแผนผ่าตัดใหญ่องค์กรตำรวจให้ใสสะอาดก็ถูกพับไป และครั้งนี้อาถรรพ์ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย
เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องน่าเสียดายและสร้างความผิดหวังอย่างยิ่งให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยกับการที่คสช.ยึดอำนาจเพื่อปฏิรูปประเทศทั้งที แต่แผนผ่าตัดใหญ่องค์กรตำรวจกับล้มเหลวไม่เป็นท่า ทั้งๆ ที่เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการปฏิรูป
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี