พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) รวมทั้ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)พูดค่อนข้างชัดเจนไปในทางเดียวกันว่า การก่อวินาศกรรมระเบิดสุดอำมหิตผิดมนุษย์ที่ศาลท้าวมหาพรหมโรงแรมไฮแอทเอราวัณ ย่านราชประสงค์ ทำเป็นขบวนการที่มีการจ้างวานมือระเบิดอำมหิตโดยมีคนในประเทศร่วมขบวนการชัดเจน

การก่อวินาศกรรมสุดชั่วร้ายครั้งนี้มีแรงจูงใจเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการบ่อนทำลายเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความมั่นคงของประเทศขณะที่ขบวนการผู้สูญเสียอำนาจกำลังเข้าตาจนซึ่งก็คือบ่อนทำลายคสช.และรัฐบาลนั่นเอง เพราะฉะนั้นผู้ที่อยู่เบื้องหลังแผนชั่วร้ายนี้ย่อมจะต้องเป็นผู้ได้ประโยชน์จากความหายนะที่เกิดขึ้นก็คือกลุ่มอำนาจเก่าที่อยู่ตรงข้ามและจ้องทำลายคสช.และรัฐบาล ซึ่งเป็นพวกไหนก็คงรู้ๆ กันอยู่โดยเหตุระเบิดบ่อนทำลายประเทศครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 4แล้วนับตั้งแต่คสช.เข้ายึดอำนาจการปกครองประเทศ ตั้งแต่เหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าห้างสยามพารากอนปาระเบิดที่ศาลอาญา ระเบิดห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอำนาจเก่า

ส่วนที่มีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายนอกประเทศโดยเฉพาะชาวมุสลิมอุยกูร์นั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายทั้งนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ รวมทั้ง ดร.จรัญมะลูลีม อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกลุ่มก่อการร้าย ชี้ว่าโศกนาฏกรรมอำมหิตครั้งนี้ไม่น่าจะเป็นฝีมือของชาวอุยกูร์เพราะที่ผ่านมาชาวอุยกูร์ไม่เคยก่อการร้ายนอกพื้นที่ตัวเอง ดังนั้นเชื่อว่ามีสาเหตุจากความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ

นอกจากนี้ไม่มีแรงจูงใจอะไรเลยที่ขบวนการก่อการร้ายนอกประเทศจะก่อวินาศกรรมขั้นร้ายแรงต่อประเทศไทยซึ่งไม่มีความขัดแย้งกับกลุ่มก่อการร้ายไม่ว่ากลุ่มไหน

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล้าพูดว่าการก่อวินาศกรรมครั้งนี้ทำเป็นขบวนการและมือระเบิดถูกจ้างมาแสดงว่าต้องมีข้อมูลหลักฐานลับบางอย่างในมือซึ่งยังไม่เป็นที่เปิดเผย และโดยหลักข้อเท็จจริงแล้วมือระเบิดอำมหิตไม่มีทางก่อเหตุได้เลยหากไม่มีคนในประเทศคอยจัดหาวัสดุเพื่อผลิตระเบิดที่มีอานุภาพร้ายแรง รวมทั้งคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวก

เพราะฉะนั้นด้วยเหตุผลต่างๆจึงค่อนข้างชัดเจนว่าระเบิดสุดอำมหิตที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือขบวนการภายในประเทศที่มุ่งบ่อนทำลายคสช.และรัฐบาล ซึ่งคสช.และรัฐบาลก็รู้ดี ดังนั้นจากนี้ไปควรใช้มาตรการเชิงรุกที่เข้มข้นแทนที่จะรอตั้งรับเป็นฝ่ายถูกกระทำเหมือนที่ผ่านมา ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพงานด้านการข่าวมุ่งจับตาความเคลื่อนไหวของขบวนการป่วนเมืองบ่อนทำลายชาติอย่างใกล้ชิด และใช้มาตรการทุกวิถีทางเพื่อขุดรากถอนโคนตัวการใหญ่และเหล่าแกนนำ ตลอดจนกลุ่มก่อการร้ายใต้ดินที่มีประวัติเคยก่อเหตุร้ายในอดีตซึ่งขณะนี้ยังหนีเงื้อมมือกฎหมายอย่างลอยนวลอีกจำนวนมาก เพราะไม่อย่างนั้นระเบิดอำมหิตครั้งต่อไปยังจะเกิดขึ้นอีกและรุนแรงแนบเนียนมากขึ้น

ทีมข่าวการเมือง