นับเป็นเรื่องอ่อนไหวที่ต้องจับตาเป็นอย่างยิ่งสำหรับสัญญาณรอยร้าวลึกระหว่าง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช หรือ“บิ๊กหมู” ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)คนใหม่กับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร หรือ “บิ๊กโด่ง” อดีตผบ.ทบ.ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการและรมช.กลาโหมทั้งนี้ต้องจับตาบทบาทของ พล.อ.ธีรชัยให้ดีเพราะจะมีบทบาทเป็นตัวแปรสำคัญต่ออนาคตความมั่นคงและทิศทางการเมืองของชาติ
สัญญาณแห่งรอยร้าวที่ปรากฏสะท้อนจากการที่ “บิ๊กหมู” หลังจากที่ขึ้นเป็นผบ.ทบ.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งนายทหารระดับคุมกำลังทั่วประเทศลอตใหญ่เกือบ 40 นาย แต่ที่สำคัญคือย้ายนายทหารซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของ “บิ๊กโด่ง” โดยเฉพาะพ.อ.คชาชาต บุญดี นายทหารคนสนิทที่ “บิ๊กโด่ง” เพิ่งมีคำสั่งแต่งตั้งให้ไปเป็นรองผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 11(รองผบ.มทบ.11)ก่อนตัวเองจะเกษียณอายุราชการเพียงไม่กี่วัน แต่ “บิ๊กหมู”กลับมีคำสั่งย้าย พ.อ.คชาชาต กลับหน่วยเดิมโดยมีตำแหน่งเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 3
ศึกงัดข้อระหว่าง 2 บิ๊กสีเขียวและต่างก็เป็นแกนนำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ“บิ๊กป้อม” รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงในฐานะพี่ใหญ่ถึงกับต้องออกมาไกล่เกลี่ย โดยกล่าวกับ “บิ๊กหมู” ว่า “หมูใจเย็นๆ”
ปูมหลังของ พล.อ.ธีรชัย นั้นในอดีตเมื่อสมัยยังเป็นนายทหารหนุ่มเคยเป็นผู้ติดตามของ “บิ๊กป้อม” ตั้งแต่สมัย “บิ๊กป้อม” ยังเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 ดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่ง “บิ๊กป้อม” พยายามผลักดันส่งเสริม “บิ๊กหมู” มาตลอด
สำหรับอุปนิสัยของ “บิ๊กหมู”นั้นเป็นนายทหารประเภทนักรบที่ดุดันเฉียบขาดอาจเปรียบได้ใกล้เคียงกับ พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร อดีตนายทหารยังเติร์ก จปร.7 โดยนายทหารทั้งสองต่างเคยประกอบวีรกรรมรบอันลือลั่นในอดีตด้วยการนำกำลังบุกตะลุยเข้าไปยังดินแดนของฝ่ายตรงข้ามเพื่อไล่ล่าสังหารข้าศึกได้เป็นจำนวนมาก
ก่อนหน้าที่ “บิ๊กหมู” จะได้รับแต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ. ก็เคยเกิดข่าวคู่แข่งชิงเก้าอี้ผบ.ทบ.ระหว่าง “บิ๊กหมู” กับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งช่วงแรกข่าว พล.อ.ปรีชา จะขึ้นเป็นผบ.ทบ.มาแรงมาก แต่ในที่สุด “บิ๊กหมู” ก็แซงโค้งสุดท้ายได้เป็นผบ.ทบ.
จากปรากฏการณ์ศึกงัดข้อระหว่าง “บิ๊กหมู” และ “บิ๊กโด่ง” ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงปรากฏการณ์ส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงรอยร้าวแห่งอำนาจในวงการสีเขียว ซึ่งคงต้องจับตาดูแนวโน้มอันอ่อนไหวนี้ต่อไปว่าจะบานปลายหรือไม่ แต่ที่สำคัญกว่าก็คือจุดยืนในมือของ “บิ๊กหมู” ในฐานะที่คุมอำนาจกองทัพบกอันเป็นหน่วยกำลังรบที่เป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดอนาคตความมั่นคงของชาติ ประชาชน และราชบัลลังก์ รวมทั้งอาจจะเป็นตัวแปรกำหนดอนาคตของกลุ่มอำนาจเก่าที่จะมีโอกาสกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกหรือไม่
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี