วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568
กรณีรถเบนซ์โบราณเถื่อน กรณีองค์กรผ้าเหลืองขัดพระบัญชาสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เพื่อปกป้องอลัชชีในคราบผ้าเหลืองพวกเดียวกันเองที่ยักยอกทรัพย์วัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวและตั้งลัทธิอุบาทว์นอกรีตขัดพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ตลอดจนฟอกเงินรับของโจรที่ปล้นมาจากเงินฝากของเหล่าคนชรา รวมทั้งกรณีแก๊งผ้าเหลืองที่ออกมาก่อม็อบถ่อยแสดงพฤติกรรมอันธพาลล็อกคอทหาร สะท้อนให้เห็นถึงขบวนการฝนตกขี้หมูไหลซึ่งไม่มีความชั่วร้ายใดที่ไม่กล้าทำ
นับเป็นสิ่งที่ต้องชื่นชมให้กำลังใจกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ยุคปฏิรูป ที่ลบล้างภาพตกต่ำในอดีตที่ถูกโจมตีว่าเป็นทาสรับใช้ขบวนการเพื่อแม้วได้อย่างหมดจด และแสดงถึงความกล้าหาญในการทำความจริงให้ปรากฏอย่างมืออาชีพ ด้วยการแถลงกรณีรถเบนซ์เถื่อนซึ่งอยู่ในความครอบครองของ สมเด็จช่วง วัดปากน้ำ พระอุปัชฌาย์ของ ธัมมชโยเจ้าสำนักจานบิน โดยพบการทำผิดกฎหมายกว่า 10 ข้อหา
คดีนี้หวังว่าดีเอสไอจะขยายผลเพื่อจัดการกับขบวนการรถเถื่อนซึ่งเป็นขบวนการใหญ่ระดับชาติที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีอิทธิพล นักการเมือง ข้าราชการ และพระที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด
คดีนี้หากเป็นดีเอสไอยุครัฐบาลขบวนการเพื่อแม้วเชื่อได้เลยว่าจะถูกบิดเบือนจากดำเป็นขาว หรือแช่แข็งกลบเกลื่อนความชั่วร้ายปล่อยคนผิดซึ่งเป็นพวกเดียวกันลอยนวล
สมเด็จช่วง มีมลทินทั้งกรณีปกป้อง ธัมมชโย และกรณีครอบครองรถเบนซ์เถื่อนซึ่งหากขึ้นเป็นสังฆราชก็นับว่าเป็นปัญหาใหญ่อยู่แล้ว แต่ที่น่าวิตกและเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าสำหรับพุทธศาสนาและความมั่นคงของชาติก็คือ อิทธิพลของสองพันธมิตรคือขบวนการเพื่อแม้วและสำนักจานบินที่สมคบกันหวังผูกขาดอำนาจยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จทั้งฝ่ายอาณาจักรและศาสนจักรโดยมีการใช้ประโยชน์ทุกรูปแบบสร้างอิทธิพลเครือข่ายครอบงำทุกองคาพยพของประเทศอย่างฝังรากลึกมานานหลายปี
มหาเถรสมาคม(มส.) สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) หรือกรมการศาสนา ถูกตั้งข้อสังเกตว่าล้วนอยู่ภายใต้อิทธิพลขบวนการเพื่อแม้วและสำนักจานบินอย่างสิ้นเชิง ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากพฤติการณ์และมติของมส.ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่อไปในทางปกป้อง ธัมมชโย มาตลอด
เพราะฉะนั้นแม้ สมเด็จช่วง จะไม่ได้ขึ้นเป็นสังฆราช แต่เชื่อว่ายังมีพระเถระผู้ใหญ่ที่เป็นร่างทรงของขบวนการเพื่อแม้วและสำนักจานบินอยู่เต็มไปหมดในมส.ซึ่งต่อคิวที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นสังฆราชองค์ใหม่
ดังนั้นวงการศาสนาภายใต้อิทธิพลของขบวนการเพื่อแม้วและสำนักจานบินที่ฝังรากลึกหากจะแก้ปัญหาล้างวงการสงฆ์ให้บริสุทธิ์สะอาดอย่างแท้จริง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องผ่าตัดสังคายนาครั้งใหญ่ เพื่อขจัดเหล่าอลัชชีในคราบผ้าเหลืองซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางผ่าตัดวงการสงฆ์ ซึ่งเสนอโดยนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือส.ศิวรักษ์ นักคิดชื่อดังก็คือ ควรยุบมส. รวมทั้ง พศ.และกรมการศาสนาเพราะไม่มีประโยชน์ และที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นเครื่องมือบ่อนทำลายวงการพุทธศาสนา ซึ่งแนวคิดนี้ดูเหมือนจะโดนใจพทุธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยเพราะหากทิ้งปัญหาไว้จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อพุทธศาสตร์และความมั่นคงของชาติ
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี