วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เหล่านักลากตั้งสวมวิญญาณนักประชาธิปไตยจ๋าทั้งหลายต่างออกมาสร้างภาพเรียกคะแนนด้วยการขวางแนวคิดของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างเอาเป็นเอาตายโดยเฉพาะในประเด็นที่กำลังร้อนแรงก็คือ ข้อเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม หรือแม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้สูตรประชาธิปไตยครึ่งใบ ด้วยการมีกลไกพิเศษเพื่อประคับประคองประเทศนาน 5 ปี ในช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจจากคสช.ไปสู่รัฐบาลเลือกตั้งเพื่อให้การปฏิรูปประเทศเป็นไปด้วยความราบรื่น
กลไกพิเศษแบบประชาธิปไตยครึ่งใบ ขณะนี้ยังไม่ลงตัวเพราะยังมีความเห็นต่างระหว่างคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ซึ่งมีซือแป๋ด้านกฎหมาย มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานที่มีแนวคิดให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายหากบ้านเมืองเกิดวิกฤติ ขณะที่ฝ่ายคสช.และรัฐบาลผ่านการสะท้อนของ พล.อ.ประวิตร เห็นว่าควรกำหนดในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มาจากการสรรหาทั้งหมดและมีอำนาจเทียบเท่าสส.เพื่อถ่วงดุลรัฐบาลเลือกตั้ง ซึ่งต่างจากแนวคิดของ กรธ. ที่ให้สว.มาจากการเลือกตั้งทางอ้อมจากตัวแทน 20 สาขาอาชีพ โดยเลือกแบบไขว้สลับเพื่อป้องกันการล็อบบี้ซื้อเสียง
นับวันเหล่านักลากตั้งโดยเฉพาะพรรคเพื่อแม้ว จะโหมสุมไฟกระแสต้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงรุนแรงขึ้นทุกขณะ โดยพยายามใช้วาทกรรมชี้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจถอยหลังลงคลองย้อนยุคหลายสิบปี ขณะที่คสช.ยังยืนยันในแนวคิดว่า ถึงยังไงก็ต้องมีกลไกพิเศษคอยประคับประคองประเทศหลังการเลือกตั้งเพื่อไม่ให้การปฏิรูปเสียของ
เมื่อเป็นเช่นนี้ในที่สุดคนที่จะตัดสินชี้ขาดก็คือประชาชนผู้เป็นเสียงสวรรค์ในการลงประชามติเดือนก.ค.ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม นักสังเกตการณ์ทางการเมืองมองว่า ไม่ว่าผลการลงประชามติจะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร คสช.ก็กินรวบมีแต่ได้กับได้ เพราะหากร่างผ่านทุกอย่างก็จะเดินหน้าไปตามแผนของคสช.ที่วางไว้ทุกประการ
แต่หากร่างถูกคว่ำก็มี 2 แนวทางที่เป็นไปได้คือ แนวทางแรกเริ่มกระบวนการนับหนึ่งยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หลังจากที่เคยถูกคว่ำมาแล้วในร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่มี ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานซึ่งนั่นเท่ากับยืดเวลาในอำนาจของคสช.และรัฐบาลออกไปอีก
หรือแนวทางที่สองใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวประกาศใช้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับพิเศษซึ่งคสช.เตรียมไว้แล้วทันที
เพราะฉะนั้นการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นเชื่อว่าอาจเป็นเพียงพิธีการ เพราะสิ่งสำคัญก็คือ เป้าหมายซึ่งคสช.ตั้งธงไว้แต่แรกแล้วว่า ถึงอย่างไรก็ตาม ต้องมีกลไกพิเศษช่วงเปลี่ยนผ่าน
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี