ผลสำรวจของสำนักวิจัยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตสะท้อนปฏิกิริยาท่าทีประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต่อความเคลื่อนไหวของขบวนการป่วนเมืองในขณะนี้โดยมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่มุ่งกดดันรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งแม้จะมีผลดีที่ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารในอีกด้านหนึ่ง แต่ผลเสียมีมากกว่านั่นคือจะสร้างความแตกแยกในชาติ และที่สำคัญประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า พวกที่ออกมาป่วนเมืองควรนึกถึงส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว
เสียงสะท้อนของมหาชนส่วนใหญ่ของประเทศบอกในตัวของมันเองอยู่แล้วว่า ขบวนการป่วนเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้เป็นคนแค่หยิบมือเดียว ซึ่งไม่ต่างอะไรจากมุมมองของนักสังเกตการณ์ทางการเมืองและคอการเมืองทั้งหลายที่รู้อยู่แก่ใจว่า ขบวนการที่ออกมาเคลื่อนไหวยั่วยุ ท้าทาย และสร้างความระส่ำระสายให้กับบ้านเมืองนั้นไม่ได้ทำโดยบริสุทธิ์ใจโดยยึดผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้งแม้แต่นิดเดียว แต่มีเป้าหมายแอบแฝงหวังบ่อนทำลายอำนาจรัฐปัจจุบันและทวงอำนาจคืนมาเป็นของฝ่ายตัวเอง
และขบวนการป่วนเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวแท้ที่จริงเป็นคนเพียงไม่กี่คนซึ่งเป็นเครือข่ายและแนวร่วมขบวนการเพื่อแม้ว และหากทบทวนความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาและสังเกตดูให้ดีจะพบว่า ตัวการสำคัญของขบวนการป่วนเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องรวมทั้งนักวิชาการกลุ่มหนึ่งล้วนแต่เป็นพวกขาประจำหน้าเดิมๆ ทั้งที่เคลื่อนไหวในและนอกประเทศ แต่แบ่งหน้าที่กันทำแบบแยกกันเดินแต่ร่วมกันตีเพื่อทำให้เห็นว่า เป็นพลังมวลชนจากหลากหลายกลุ่มจำนวนมาก ทั้งๆ ที่มีแค่หยิบมือเดียวและเป็นพวกเดียวกันทั้งสิ้น
ขบวนการเพื่อแม้วพยายามป่วนเมืองฉุดรั้งบ่อนทำลายการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ทั้งๆ ที่ตลอดช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา
ขบวนการเพื่อแม้วซึ่งเป็นธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมทุจริตคอร์รัปชั่นโกงชาติปล้นแผ่นดินมโหฬาร ใช้เงินผลประโยชน์ทุกรูปแบบทั้งทางตรงและทางอ้อมซื้ออำนาจรัฐ ซื้อประชาธิปไตย ซื้อประเทศ เป็นต้นตอที่สร้างความแตกแยกในชาติลึกซึ้งรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน แทรกแซงองค์กรอิสระและพยายามผูกขาดอำนาจหวังเปลี่ยนแปลงระบอบยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และที่เลวร้ายคือมีการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงอย่างเหิมเกริม
สำหรับ 8 จำเลยป่วนเมืองทางโซเชียลมีเดียที่ถูกควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้เป็นเพียงเบี้ยปลายแถวที่ถูกว่าจ้าง ซึ่งจากข้อมูลหลักฐานเชื่อมโยงที่ฝ่ายคสช.และฝ่ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)นำออกมาตีแผ่คือข้อมูลส่วนหนึ่ง โดยบางส่วนเกิดจากการเปิดปากรับสารภาพซัดทอดของมือป่วนปลายแถวเอง โดยพบว่ามีการรับเงินว่าจ้างเป็นทอดๆ โดยตัวการสำคัญอาจมีส่วนเชื่อมโยงไปถึง นายจตุพร พรหมพันธุ์ และที่สำคัญอาจโยงใยไปถึง นายพานทองแท้ ชินวัตรบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ
นายใหญ่ขบวนการเพื่อแม้ว
ขบวนการป่วนประเทศที่ถูกตีแผ่สาวลึกมากขึ้นเรื่อยๆจึงไม่แปลกที่เห็นแกนนำขบวนการหน้าเดิมๆ ออกมาตีโพยตีพายเหมือนร้อนตัวประท้วงเพื่อให้ปล่อยตัวจำเลยขบวนการป่วนหวังปิดปาก ขณะเดียวกันก็สร้างภาพว่าไม่ทอดทิ้งพวกเดียวกัน ทั้งนี้ปรากฏการณ์ป่วนเมืองที่เกิดขึ้นจึงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าล้วนเกิดจากขบวนการหน้าเดิมๆ เพียงหยิบมือเดียวที่พยายามฉุดรั้งขัดขวางความสงบของชาติบ้านเมืองและการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ดังนั้นประชาชนส่วนใหญ่ต้องออกมาแสดงพลังความเป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริงในเบื้องต้นว่าอยากให้ประเทศเดินหน้าหรือถอยหลังกลับไปสู่สภาพการเมืองแบบเดิมๆ ซึ่งจะพิสูจน์ให้เห็นในวันลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงในวันที่ 7 ส.ค.นี้
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี