วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผ่าประเด็นร้อน
ระบอบทักษิณเดิมเกมสุมไฟ ชักศึกเข้าบ้านใช้โลกถล่มคสช.

ระบอบทักษิณเดิมเกมสุมไฟ ชักศึกเข้าบ้านใช้โลกถล่มคสช.

วันอาทิตย์ ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.
Tag :
  •  

เครือข่ายระบอบทักษิณยังคงเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องด้วยแผนขุดบ่อล่อปลาโดยใช้บรรดาแกนนำทั้งพรรคเพื่อไทย กลุ่มเสื้อแดง เครือข่ายนักวิชาการและนักศึกษาสายเสื้อแดงพวกขาประจำหน้าเดิมๆ ออกมาเคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์ยั่วยุท้าทายอำนาจรัฐอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ หวังอาศัยการจับกุมดำเนินเครือข่ายระบอบทักษิณของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และรัฐบาลเป็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรมในการชักศึกเข้าบ้านฟ้องไปยังองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศรวมทั้งชาติมหาอำนาจที่ให้ท้ายระบอบทักษิณโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาเพื่อสุมไฟบ่อนทำลายคสช.และรัฐบาลไทยภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.

แกนนำเครือข่ายระบอบทักษิณที่เป็นตัวชูโรงขาประจำในการเคลื่อนไหวยั่วยุท้าทายคสช. แบบดับเครื่องชน ประกอบด้วย กลุ่มอดีตสส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายวัฒนา เมืองสุข นายวรชัย เหมะ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส่วนแกนนำเสื้อแดงขาประจำ อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานคนเสื้อแดง ซึ่งนอกจากออกมาโจมตีคสช.แล้ว ยังมีการจ้างเครือข่ายบ่อนทำลายคสช.ทางโซเชียลมีเดีย และที่สำคัญมีการเดินเกมยั่วยุท้าทายเหิมเกริมถึงขั้นหมิ่นเบื้องสูงจนมีการจับกุม 8 มือเพจทางโซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้ รวมทั้งดำเนินคดีกับ น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ แม่ของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” แกนนำนักศึกษาป่วนเมืองขาประจำ ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงอันเป็นความผิดตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา


การยั่วยุท้าทายให้คสช.นำตัวไปปรับทัศนคติในค่ายทหารหรือจับกุมดำเนินคดีเป็นแผนขุดบ่อล่อปลาเพื่อใช้เป็นข้ออ้างที่เครือข่ายระบอบทักษิณนำไปใช้เป็นเครื่องมือสุมไฟตามแผนโลกล้อมไทยด้วยการร้องเรียนว่าอำนาจรัฐไทยยุคคสช.มีการคุกคามสิทธิเสรีภาพและละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยหวังให้นานาชาติ บอยคอตต์คสช.และรัฐบาลไทย

ความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาก็คือท่าทีของมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาโดยก่อนหน้านี้ นางแคทรีนา อดัมส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐด้านเอเชียตะวันออก ให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติแสดงความวิตกต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยโดยเฉพาะการดำเนินคดีกับ น.ส.พัฒน์นรี ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง

ตามด้วย นายเกล็น ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย แสดงความเหิมเกริมแทรกแซงกิจการภายในของไทยด้วยการอ่านคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐต่อหน้าสื่อมวลชน และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ โดยแสดงความวิตกเป็นอย่างมากต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนและจำกัดสิทธิเสรีภาพของไทย โดยชี้ว่าการจับกุมนักเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยทางการไทยเป็นการไม่เคารพเสรีภาพการแสดงออกและสร้างบรรยากาศแห่งการข่มขู่

ท่าทีของทางการสหรัฐฯสะท้อนถึงความอหังการในฐานะมหาอำนาจและส่อเจตนาให้ท้ายระบอบทักษิณและขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงของไทยโดยอ้างสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพบังหน้าทั้งๆ ที่สหรัฐถูกมองว่าคือมหาอำนาจจอมอันธพาลที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนเลวร้ายมากกว่าชาติไหนในโลก

นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตนักการทูตอาวุโส และนักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ บางท่านวิจารณ์พฤติกรรมของเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยว่าแสดงกิริยาไร้มารยาทเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ถึงกับเสนอให้ไทยขับทูตสหรัฐผู้นี้

ด้าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคสช. ออกมาตอบโต้สหรัฐว่าควรพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้านโดยเฉพาะการดำเนินคดีกับแม่ของจ่านิวไม่ใช่เรื่องทางการเมือง แต่เป็นการทำผิดกฎหมายอาญาฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูงซึ่งมีหลักฐานชัดเจน อีกทั้งสหรัฐต้องตระหนักด้วยว่าสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนนั้นต้องอยู่ภายใต้กฎหมายซึ่งทุกประเทศล้วนปฏิบัติไม่แตกต่างกัน

ด้าน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม แสดงท่าทีไม่พอใจต่อต่างชาติที่ให้ท้ายขบวนการหมิ่นเบื้องสูงของไทยโดยอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชนบังหน้า โดยย้ำว่าการดำเนินคดีกับพวกหมิ่นเบื้องสูงอยู่ภายใต้กฎหมายไทย อีกทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยกับคนไทยมีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้งซึ่งชาติอื่นๆ ไม่มีเหมือนไทยเพราะไร้อารยะ โดย พล.อ.ไพบูลย์ ย้ำว่า “ไปบอกเขาด้วยว่าเราไม่ได้กลัวอะไรต่างชาติ เขามีกฎหมายป้องกันผู้นำประเทศเขา เราก็มีกฎหมายป้องกันพระเจ้าอยู่หัวของเราเหมือนกัน”

เพราะฉะนั้นจากนี้ไปคงต้องจับตาที่ประชุมใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งเชื่อว่าจะมีการหยิบยกปัญหาสิทธิมนุษยชนของไทยขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ และที่สำคัญคือท่าทีของทางการสหรัฐภายใต้การสุมไฟชักศึกเข้าบ้านของขบวนการระบอบทักษิณที่คาดว่าจะสร้างสถานการณ์ยั่วยุท้าทายและร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
 

ทีมข่าวการเมือง

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

อนุทิน ย้ำ ทำทุกวันให้ดีที่สุด ภท ไม่เน้นปราศรัยใหญ่

ปชป.ส่ง ทนงศักดิ์ ลงชิง สส.สมุทรปราการ ชูสโลแกน จริงใจ 10 เต็ม 10

นายก อวยพรปีใหม่ ขอคนไทยหมดเคราะห์ หมดทุกข์โศก

ปลดล็อก4อำเภอ กกล.บูรพา สั่งยกเลิกเคอร์ฟิวสระแก้ว หลังคุมสถานการณ์ชายแดนสงบ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved