บ้านเมืองขณะนี้เลวร้ายลงทุกขณะแทบไม่ต่างอะไรจากยุคมืดของเผด็จการทรราชในคราบประชาธิปไตยภายใต้รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณที่ลุแก่อำนาจ ส่อพฤติการณ์ทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างย่ามใจ ก่อหนี้สาธารณะมูลค่ามหาศาลให้ชาติบ้านเมืองและคนรุ่นหลังที่ต้องแบกรับภาระอีกไม่ต่ำกว่า 50 ปีกว่าจะใช้หนี้หมด ขณะเดียวกันก็ใช้อัฐยายซื้อขนมยายอาศัยสารพัดโครงการประชานิยมมอมเมาประชาชนให้เสพติดเพื่อสร้างคะแนนเสียง ขณะเดียวกัน ก็มุ่งแก้กฎหมายเพื่อฟอกโทษความผิดทั้งหมดให้นักโทษหนีคุกทักษิณเพื่อจะได้กลับบ้านแบบเท่ๆ โดยได้อภิสิทธิ์ไม่ต้องติดคุกตามคำพิพากษาศาลในคดีทุจริตและได้ทรัพย์สิน 46,000 ล้านบาทที่ศาลพิพากษายึดตกเป็นของแผ่นดินคืนอันเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันศาล ขณะเดียวกันก็มุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญหวังล้มล้างรัฐธรรมนูญปัจจุบันแล้วยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อกำจัดสถาบันหลักต่างๆ ของชาติปูทางให้ระบอบทักษิณผูกขาดการแสวงหาผลประโยชน์และอำนาจยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ผลงานของรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาล้มเหลวแทบจะทุกด้าน ทั้งๆ ที่บ้านเมืองสงบเรียบร้อยไม่มีการสร้างสถานการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐ โดยเฉพาะปัญหาค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งไข่ไก่ซึ่งเป็นอาหารหลักจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนยากคนจนที่แพงเป็นประวัติการณ์ ทั้งๆ ที่รัฐบาลเคยคุยโวหลอกประชาชนเป็นมั่นเป็นเหมาะไว้ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมาว่าจะ “กระชากค่าครองชีพให้ลดลง” เพิ่มรายได้ลดรายจ่ายทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดี
ส่วนไฟก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้รัฐบาลยิ่งแก้ก็ยิ่งลุกโชนรุนแรงมากขึ้นมีการลอบวางระเบิดสังหารเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนตายแบบรายวัน
ซ้ำร้ายขณะที่รัฐบาลล้มเหลวในแทบทุกด้านกลับก่อหนี้ให้ประเทศและเปิดช่องทุจริตคอร์รัปชั่นมโหฬารอย่างย่ามใจโดยเฉพาะจาก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทั่วประเทศและ พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม
รัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้ยังลุแก่อำนาจวางแผนแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อทำลายสถาบันหลักของชาติโดยเฉพาะศาลและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจฝ่ายการเมืองและเป็นสถาบันซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนในการเรียกร้องความยุติธรรม และยังทำลายธรรมาภิบาลในระบบราชการด้วยการเล่นพรรคเล่นพวกโยกย้ายข้าราชการน้ำดีที่มีความรู้ความสามารถและซื่อสัตย์สุจริตตรงไปตรงมาพ้นจากตำแหน่งสำคัญแล้วผลักดันคนของระบอบทักษิณเข้ามาคุมอำนาจแทนไม่ว่าจะเป็นกรณีของ นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)คุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หรือ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว โดยเหตุผลเพียงเพราะข้าราชการตงฉินเหล่านี้ไม่สนองนโยบายฝ่ายการเมืองแต่ยึดผลประโยชน์ของแผ่นดินเป็นที่ตั้ง ขณะนี้แทบเรียกได้ว่าระบอบทักษิณผลักดันคนของตัวเองเข้าไปคุมอำนาจในทุกหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ และไม่เว้นแม้แต่การเข้าไปแทรกแซงครอบงำสถาบันทางวิชาการ
พฤติการณ์ของรัฐบาลเผด็จการในคราบประชาธิปไตยที่บงการโดยนักโทษหนีคุกชุดนี้จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าแทบไม่ต่างอะไรจากรัฐบาลพรรคนาซีภายใต้การนำของอดีตจอมเผด็จการทรราช อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ของเยอรมันในอดีต และด้วยเหตุที่รัฐบาลหุ่นเชิดเหลิงอำนาจมากขึ้นทุกวันนี่เองกลายเป็นชนวนทำให้มหาชนที่รักความถูกต้องมาถึงจุดระเบิดแห่งความอดทนกลายเป็นปรากฎการณ์“ไทยสปริง” และขบวนการ “หน้ากากขาว” ที่เริ่มออกมาแสดงพลังแล้ว โดยเป้าหมายไม่เพียงต่อต้านรัฐบาลหุ่นเชิด แต่ยังไปไกลถึงขนาดมุ่งกำจัดความเลวร้ายภายใต้ระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี