ขณะที่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณปากพร่ำสร้างภาพต้องการปฏิรูปการเมืองเพื่อสร้างความปรองดอง แต่กลับปากว่าตาขยิบเพราะทั้งๆ ที่รัฐบาลหุ่นเชิดผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการพรรคเพื่อแม้ว ซึ่งเป็นระเบิดเวลาสร้างความแตกแยกในชาติอยู่แล้ว แต่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา แกนนำพรรคเพื่อแม้วกลับสั่งเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการด่วนในวันที่ 20 ส.ค.นี้ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่กว่า
เดิม นายสมศักดิ์ เรียกประชุมรัฐสภาวันที่ 20 ส.ค.นี้ โดยมีวาระเพียงเพื่อพิจารณาเฉพาะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นเรื่องที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) แต่ล่าสุดกลับเพิ่มเติมคำสั่งให้นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก 3 ประเด็น คือ ร่างแก้ไขมาตรา 68 ร่างแก้ไขมาตรา 190 และร่างแก้ไขมาตรา 237 เข้าพิจารณาด้วยซึ่งสะท้อนพิรุธของรัฐบาลหุ่นเชิดเพื่อแม้วที่ต้องการเร่งรีบรวบรัดที่จะผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด
สำหรับร่างแก้ไขเรื่องที่มาของสว.มีสาระสำคัญกำหนดให้ยกเลิกสว.สรรหาและให้สว.ทั้งหมด 200 คนมาจากการเลือกตั้ง และยกเลิกข้อห้ามของรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่กำหนดผู้สมัครสว.ต้องไม่เป็นเครือญาติในครอบครัว และต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองมานานไม่น้อยกว่า 5 ปีรวมทั้งสส.หากลาออกเพื่อมาลงสมัคร สว.ต้องเว้นวรรคทางการเมืองไม่น้อยกว่า 5 ปี ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาสภาทาส สภาร่างทรงหรือสภาผัวเมียเช่นในอดีตยุคระบอบทักษิณเรืองอำนาจที่สว.กลายเป็นทาสรับใช้ผูกขาดอำนาจรัฐสภาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทำให้รัฐบาลทำอะไรได้ตามใจชอบโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม ทั้งๆ ที่วุฒิสภาถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นสภาถ่วงดุลหรือสภาพี่เลี้ยงที่คอยคานอำนาจรัฐบาล
ที่สำคัญหากสว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดก็เท่ากับปูทางให้ระบอบทักษิณซึ่งได้เปรียบในฐานะที่เป็นฝ่ายคุมกลไกอำนาจรัฐและมีเงินทุนมหาศาล รวมทั้งมีระบบหัวคะแนนที่เหนือกว่าพรรคการเมืองอื่นสามารถกวาดสว.เลือกตั้งได้อย่างเป็นกอบเป็นกำทำให้ระบอบทักษิณสามารถผูกขาดอำนาจยึดครองทั้งสภาล่างคือสภาผู้แทนราษฎร และสภาสูงคือวุฒิสภาได้อย่างเบ็ดเสร็ดเด็ดขาดจนสามารถผ่านกฎหมายได้ตามใจชอบ แต่ที่เลวร้ายน่าวิตกกว่านั้นก็คือบทบาทของวุฒิสภาที่มีอำนาจในการถอดถอนนักการเมืองที่ทุจริตประพฤติมิชอบรวมทั้งแต่งตั้งตัวแทนในองค์กรอิสระต่างๆ ที่คอยทำหน้าที่คานอำนาจตรวจสอบรัฐบาล ซึ่งหากระบอบทักษิณยึดครองวุฒิสภาได้สำเร็จเท่ากับสามารถคุมเกมการถอดถอนนักการเมืองให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการและผลักดันคนของระบอบทักษิณเข้าไปยึดกุมองค์กรอิสระต่างๆ อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ส่วนร่างแก้ไขมาตรา 68 มีสาระสำคัญเพื่อปูทางให้รัฐบาลสามารถเดินหน้าผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291อันจะนำไปสู่การมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับตามที่ระบอบทักษิณต้องการโดยเฉพาะการยกเลิกมาตรา 309 เพื่อลบล้างโทษความผิดทั้งหมดให้กับ นักโทษชายแม้ว และการปูทางไปสู่การกำจัดสถาบันหลักต่างๆ ของชาติที่เป็นก้างขวางคอให้พ้นทาง อาทิ ศาลและองค์กรอิสระต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญที่เป็นอุปสรรคขวากหนามในการแสวงหาผลประโยชน์และผูกขาดอำนาจทางการเมืองของระบอบทักษิณ ขณะเดียวกันก็ปูทางให้ระบอบทักษิณสามารถยึดครองประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศในอนาคต
สำหรับร่างแก้ไขมาตรา 190 มีสาระสำคัญเปิดช่องให้รัฐบาลเซ็นสัญญากับต่างประเทศได้โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบและเห็นชอบโดยรัฐสภา ซึ่งจะทำให้มีการหาผลประโยชน์ทับซ้อนได้อย่างสะดวก ขณะที่ร่างแก้ไขมาตรา 237 มีสาระสำคัญให้ยกเลิกโทษยุบพรรคกรณีถูกตรวจสอบพบว่าซื้อเสียงซึ่งเท่ากับทำให้การเมืองถอยหลังเข้าคลองไปสู่ระบบธุรกิจการเมืองอย่างสมบูรณ์แบบ
ดังนั้นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ประเด็นจึงไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและประชาชนแม้แต่น้อย แต่เป็นประโยชน์เฉพาะกับระบอบทักษิณและพวกที่กำลังอาศัยพวกมากลากไปเร่งรุกคืบรวบรัดผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จโดยเร็วโดยไม่สนใจว่าจะเป็นชนวนนำไปสู่วิกฤติกลียุคครั้งใหม่จากการออกมาคัดค้านของพลังประชาชน
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี