ยิ่งรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณใช้พวกมากลากไปเดินหน้าหักดิบแผนกินรวบประเทศอย่างเหิมเกริมก็ยิ่งปลุกให้พลังประชาชนกลุ่มต่างๆ ทั้งที่ต่อต้านระบอบทักษิณและประชาชนทั่วไปรู้ทันเล็งเห็นอันตรายของระบอบทักษิณรวมตัวกันกล้าแข็งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในยุคโซเซียลมีเดียที่การแสดงความคิดเห็นเป็นไปด้วยความรวดเร็วและกว้างขวาง
ปัจจัยสำคัญที่จะชี้ขาดชัยชนะของพลังประชาชนที่มุ่งโค่นระบอบทักษิณก็คือความเป็นเอกภาพรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวโดยพลังประชาชนทุกกลุ่มที่แม้จะมีความเห็นต่างในบางเรื่องในอดีตจะต้องคำนึงถึงสถานการณ์ด้านหลัก ละทิ้งปัญหาข้อขัดแย้งซึ่งเป็นด้านรอง แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใหญ่มากกว่าที่จะคำนึงถึงข้อขัดแย้งปลีกย่อย
เมื่อพลังประชาชนรวมเป็นหนึ่งเดียวแล้วยังจะต้องมียุทธศาสตร์ยุทธวิธีในการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องเหมาะสม สอดประสานซึ่งกันและกันและพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ ซึ่งที่สำคัญก็คือจะต้องสร้างจุดขายเร่งติดอาวุธทางความคิดเพื่อรักษาฐานมวลชนและขยายแนวร่วมมวลชนให้ได้มากที่สุด ทั้งผ่านโซเชียลมีเดีย หรือสื่อรูปแบบต่างๆ ตลอดจนการปราศรัยบนเวทีอย่างตรงจุดเข้มข้น
ต่อเนื่อง
สำหรับประเด็นเนื้อหาที่จะเป็นจุดขายในการติดอาวุธทางความคิดให้กับประชาชนเพื่อขยายแนวร่วมจะต้องโดนใจประชาชนโดยชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงเหตุผลที่ต้องโค่นระบอบทักษิณจากพฤติกรรมของรัฐบาลหุ่นเชิดที่บงการโดยนักโทษหนีคุกชุดนี้ที่ส่อทุจริตคอร์รัปชั่น อย่างมโหฬารและย่ามใจ นอกจากนี้ ยังผลาญเงินแผ่นดินอย่างมือเติบและก่อหนี้ให้ประเทศมูลค่ามหาศาลมากที่สุดในประวัติศาสตร์จนมีแนวโน้มที่จะนำพาประเทศไปสู่ความฉิบหายล่มจม และทิ้งภาระหนี้ก้อนมหึมาให้คนรุ่นหลังต้องชดใช้หนี้อีกนานไม่น้อยกว่า 50 ปี และชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทั้งในระดับมหภาคที่กำลังทรุดหนักและระดับจุลภาคที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนถ้วนหน้าจากภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่ต้องพูดถึงความล้มเหลวในการดับไฟก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้
และที่สำคัญรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณชุดนี้นับวันจะสุมไฟแห่งความแตกแยกในชาติโดยมุ่งทำทุกอย่างเพื่อนักโทษหนีคุกมากกว่าที่จะทำเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน อีกทั้งมีแผนร้ายที่จะอาศัยความเป็นเผด็จการรัฐสภาในคราบประชาธิปไตยใช้พวกมากหักดิบออกกฎหมายลบล้างโทษความผิดทั้งหมดให้กับ นักโทษชายแม้ว อันเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ และพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญมุ่งบ่อนทำลายสถาบันหลักของชาติและองค์กรอิสระต่างๆ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล หวังปูทางให้ระบอบทักษิณแสวงหาผลประโยชน์ได้อย่างไร้ก้างขวางคอและผูกขาดอำนาจยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทำอะไรได้ตามใจชอบทั้งการออกกฎหมายเพื่อตัวเองหรือแม้แต่แนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศ
สำหรับการรวมตัวของพลังประชาชนต่อต้านระบอบทักษิณนั้น ก่อนหน้านี้ประชาชนกลุ่มต่างๆ ทั้งกลุ่มหน้ากากขาว กลุ่มไทยสปริง กองทัพธรรมของสำนักสันติอโศก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มเสื้อหลากสี และอีกหลายกลุ่มได้ประกาศเข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณซึ่งปักหลักชุมนุมอยู่ที่สวนลุมพินีไปแล้ว หรือแม้แต่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายกรณ์ จาติกวณิช หรือคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ก็ขึ้นเวทีปราศรัยที่สวนลุมฯ
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ก็มีการหารือกันระหว่างแกนนำพรรคประชาธิปัตย์กับแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อลืมอดีตความขัดแย้งและหันมารวมพลังกันต้านระบอบทักษิณ
จากความเคลื่อนไหวข้างต้นสะท้อนสัญญาณของพลังประชาชนต่อต้านระบอบทักษิณทั้งปวงได้ผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งนี่คือสัญญาณบ่งชี้ว่าสงครามแตกหักใกล้จะเริ่มขึ้น
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี