พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ยอมรับว่าการลงมติแก้ไขมาตรา 3 ของพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เหมมะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยใช้พวกมากลากไปผ่านคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ซึ่งรู้กันอยู่ว่าฝ่ายรัฐบาลพรรคเพื่อไทยครองเสียงข้างมากโดยมีสาระสำคัญมุ่งฟอกโทษความผิดทั้งหมดให้กับนักโทษชายแม้วและเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 และทำให้นักโทษชายแม้วได้ทรัพย์สิน 46,000 ล้านบาทที่ถูกศาลสั่งยึดตกเป็นของแผ่นดินคืนพร้อมดอกเบี้ยอีกกว่า 4,000 ล้านบาทกำลังจะเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่เรียกแขกทำให้พลังมวลชนออกมาต่อต้านรัฐบาลเพิ่งขึ้นจำนวนมากจนอาจนำไปสู่วิกฤติการณ์รอบใหม่
ทั้งนี้เลขาธิการสมช.ระบุว่าขณะนี้มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังมวลชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลถึงกว่า 60 กลุ่ม ซึ่งนอกจากระเบิดเวลาที่มีสาเหตุจากกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว ระเบิดเวลาใหญ่อีกลูกหนึ่งที่สำคัญคือปัญหาเขาพระวิหารซึ่งศาลโลกจะตัดสินในวันที่ 11 พ.ย.นี้
ซึ่งหากศาล
ล่าสุดพลังประชาชนหลายกลุ่มด้วยการประสานงานของ นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มการเมืองสีเขียว ได้รวมพลกลุ่มคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและต่อต้านระบอบทักษิณเข้าด้วยกัน อาทิ เครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.)ที่มี นายอุทัย แย้มมณี
เป็นแกนนำ กองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ(กปท.) หรือแม้แต่แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็เข้าร่วมอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาทั้ง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย จะขาดก็แต่เพียง นายสนธิ ลิ้มทองกุล โดยพลังมวลชนทุกกลุ่มนัดหารือครั้งสำคัญในวันที่ 27 ต.ค.นี้เพื่อกำหนดดีเดย์ชุมนุมใหญ่เคลื่อนไหวขั้นแตกหัก
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มหน้ากากขาว กลุ่มไทยสปริงที่มี นายแก้วสรร อติโพธิ์ และ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เป็นแกนนำ กลุ่มเสื้อหลากสีของ น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ กองทัพธรรมของสำนักสันติอโศก กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์นำโดยนักวิชาการจาก 5 สถาบัน กลุ่มสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย 2556 ที่มี ดร.บรรเจิด สิงคเนติ เป็นแกนนำ หรือ แนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดินของ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟสต์บุ๊คส่วนตัวปลุกมวลชนทั่วประเทศที่คัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประสานงานกับส.ส.หรือแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเพื่อชุมนุมใหญ่ในวันที่ 6 พ.ย.นี้
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลได้เตรียมระดมตำรวจทั่วประเทศหลายหมื่นคนเดินทางเข้ากรุงเพื่อเตรียมรับมือกับการชุมนุมครั้งใหญ่ขั้นแตกหักของพลังมหาชน ขณะเดียวกันก็ขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงใน 3 เขตของกทม.ไปจนถึงสิ้นเดือนหน้า
เพราะฉะนั้นสงครามแตกหักครั้งใหญ่กำลังใกล้ระเบิดเต็มทีท่ามกลางคำถามว่า ทั้งๆที่บ้านเมืองมีปัญหามากมายรอการแก้ไข แต่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณกลับดันทุรังรวบรัดหักดิบดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่มีเป้าหมายแอบแฝงเพื่อนักโทษชายแม้วอันเป็นการท้าทายพลังมหาชนจุดชนวนให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ เพียงเพื่อสนองตัณหานักโทษชายแม้วโดยไม่คำนึถงถึงความหายนะของชาติบ้านเมืองที่จะตามมา
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี