ก็ไม่รู้ว่าใครที่พูดจริงทำจริง และใครที่เป็นลูกหมา ระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงานในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.)หรืออีกชื่อหนึ่งถูกขนามนามว่า”ศูนย์รวมสิงสาราสัตว์” กับกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “เป็ดเหลิม”ประกาศวางกร้ามขู่จะยึดคืนพื้นที่การชุมนุมของ กปปส.5จุด โดยเฉพาะบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลโดยจะใช้กำลังตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่ขั้นเด็ดขาดเพื่อให้นายกฯหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรีเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลภายในวันพุธที่ 19 ก.พ.นี้แน่นอน แต่ล่าสุดกำนันสุเทพตบหน้าเย้ย”เป็ดเหลิม”ด้วยการนำทัพมวลมหาประชาชนบุกไปปิดล้อมหน้าทำเนียบรัฐบาล
การที่กำนันสุเทพนำทัพมวลมหาประชาชนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลถือเป็นการทำสงครามเชิงสัญญลักษณ์ซึ่งนอกจากเย้ย “เป็ดเหลิม”” แล้ว ที่สำคัญกว่ายังเป็นการแสดงคนทั้งประเทศและชาวโลกได้เห็นว่า ขณะนี้นอกจากรัฐบาลเป็ดง่อยปูเน่าที่เป็นแค่รัฐบาลในนามแล้ว
อำนาจรัฐที่แท้จริงขณะนี้ถูกควบคุมโดยมวลมหาประชาชน กปปส.แทบจะสิ้นเชิงทำให้ประเทศไทยขณะนี้ไม่ต่างอะไรจากสภาพ “รัฐซ้อนรัฐ”
นอกจากมวลมหาประชาชนกปปส.ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลแล้ว ยังหยามรัฐบาลเป็ดง่อยด้วยการเทปูนปิดตายทางเข้าทำเนียบรัฐบาลประตูที่ 1 และ 2 อย่างสิ้นเชิงเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว เพราะฉะนั้นรัฐบาลเป็ดง่อยปูเน่าหมดสิทธิ์เข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามราคาคุยของ”เป็ดเหลิม” และยังต้องเป็นรัฐบาลสัมภเวสีเที่ยวเร่ร่อนหาสถานที่ประชุมต่อไป
ขณะที่เพียงพลังกดดันของมวลมหาประชาชน กปปส.ก็ทำให้รัฐบาลปูเน่าเป็นเป็ดง่อยอยู่แล้ว ซ้ำยังต้องเผชิญกับแรงกดดันที่หนักไม่แพ้กันคือกองทัพชาวนาทั่วประเทศที่ปักหลักชุมนุมทวงค่าข้าว 1.3 แสนล้านจากรัฐบาลปูเน่า ซึ่งแม้รัฐบาลปูเน่าจะใช้เล่ห์ซิกแซกเล่นแร่แปรธาตุขายผ้าเอาหน้ารอดด้วยการใช้อำนาจสั่งให้ธนาคารของรัฐคือธนาคารออมสินปล่อยกู้ระหว่างธนาคารหรืออินเตอร์แบงก์ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.)เพื่อนำเงินไปจ่ายให้ชาวนาบางส่วน ซึ่งผลจากแอบนำเงินฝากของเด็กซึ่งเป็นลูกค้าธนาคารออมสินไปใช้ผิดประเภทเท่ากับทำลายความน่าเชื่อถือของธนาคารอย่างรุนแรงจนมีการแห่ถอนเงินจากธนาคารออมสินเป็นจำนวนมาก และอาจเข้าข่ายผิดกฏหมายอาญาด้วย
การที่รัฐบาลถังแตกและพยายามซิกแซกใช้เงินธนาคารเด็กมาแก้ปัญหาทางการเมืองให้ตัวเองก็แค่ซื้อเวลาได้ชั่วคราเพราะเงินก้อนแรกราว 5,000 ล้านบาทช่วยชาวนาได้แค่ราว 1 หมื่นรายจากทั้งหมดกว่า 1 ล้านรายที่เป็นเจ้าหนี้ค่าข้าวรัฐบาล
แต่ภาพที่สะท้อนความชั่วช้าเลวทรามของรัฐบาลปูเน่าและสะท้อนความไร้สำนึกและสิ้นวุฒิภาวะความเป็นผู้นำประเทศอย่างสิ้นเชิงก็คือ การที่ นายกฯปูเน่า ใจดำอำมหิตหนีหน้าไม่ให้ความสำคัญยอมลงมาพบปะปล่อยให้บรรดาชาวนาที่เดือดร้อนทุกข์เข็ญแสนสาหัสอยู่แล้วต้องตากแดดร้อนหน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมกว่าครึ่งวันและต้องกินข้าวกลางวันซึ่งเป็นข้าวกับกุนเชียง 1 ชิ้นครึ่งที่มีผู้บริจาคให้ทั้งน้ำตา ขณะที่ นายกฯปูเน่า กับพวกผลาญเงินแผ่นดินอย่างไม่ละอายด้วยการสั่งอาหารเลิศรสจากโรงแรมหรูห้าดาวมื้อละ 3-5 แสนบาทมากินกันอย่างอิ่มหนำสำราญในห้องแอร์
เพราะฉะนั้นรัฐบาลเป็ดง่อยปูเน่าออกไปแต่โดยดีซะเถอะ อย่าทู่ซี๊อยู่ให้เป็นเสนียดจัญไรของแผ่นดินไม่อย่างนั้นหากมวลมหาประชาชน กปปส.และมวลมหาชาวนาทนไม่ไหวเมื่อไหร่อาจจะรวมพลังกันขับไล่รัฐบาลปูเน่าและขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นจบแบบไม่สวยแน่
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี