เห็นเรื่องราวความรักของนักแสดงอารมณ์ดีอย่างสาว “เบนซ์” พรชิตา และ “มิค” บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ แล้วก็อดปลื้มปิติไปด้วยไม่ได้ เพราะกว่าทั้งคู่ จะก้าวสู่ประตูวิวาห์ได้..ต้องฝ่าด่าน “คุณแม่สุดโหด” ของสาว “เบนซ์” มาด้วยความยากลำบาก
..เรียกได้ว่า ถ้าไม่รักจริง ไม่จิตแข็งมากพอ หนุ่มอื่นๆ คงท้อ..ถอยฉากไปเสียนานแล้วก็เป็นได้!!
เรื่องราวชีวิตทั้งคู่ก่อนผ่านวันวิวาห์หวาน เราอาจได้ยินกันมาเยอะแล้ว.. แต่วันนี้ “บันเทิงแนวหน้า” อยากพาไปสัมภาษณ์แบบส่วนตั๊ว...ส่วนตัว.. กับคู่หวานแสนน่ารักอารมณ์ดีคู่นี้ ว่าวิถีชีวิตหลังจากการแต่งงานแล้ว..มีอะไรบ้างที่เปลี่ยนแปลงไป..!?
ชีวิตหลังวิวาห์เป็นอย่างไรบ้าง ?
มิค : ต้องบอกก่อนเลยว่า ก่อนหน้านี้เราสองคนเป็นคู่ที่ไม่เคยทดลองอยู่ด้วยกันเลย บ้านเบนซ์เขาหัวโบราณมาก ดังนั้นสิ่งที่เปลี่ยนมาที่สุดก็คือมีอีกคนเข้ามาในชีวิต ไม่ได้ทดลองมาก่อน ช่วงแรกๆก็มีเขวๆ เพราะเบนซ์เขาก็ยังติดบ้านมาก เราก็อยู่บ้านเรา แล้วก็ออกมาทำงานใช้ชีวิตแบบคนละบ้าน หลังๆมาก็ดีขึ้นแล้ว ได้อยู่ด้วยกัน แต่ว่าจะสลับบ้านไปสลับบ้านมา บ้านเบนซ์บ้าง บ้านมิคบ้าง เรายังคิดเลยช่วงแรกๆ ที่แยกกันอยู่คือมันไม่ต่างกับก่อนแต่งเลยนะ แต่คิดแล้วว่าต้องตกลงกันว่าจะนอนบ้านไหน หลังๆมาก็น้อยครั้งที่จะนอนแยก ก็มีบางครั้งที่เบนซ์กับมิคทำงานแบบต้องไปคนละทางกัน จำเป็นจริงๆเบนซ์เขาก็จะไปนอนกับพ่อเขา มันเป็นเรื่องที่ทั้งคู่ยังติดบ้านครับ แต่เบนซ์เขาจะเป็นหนัก หลังๆ นี่ดีขึ้นเยอะ
แบ่งเวลาให้กันยังไง..เพราะต่างคนต่างก็มีงานเข้าไม่หยุดเช่นนี้ ?
มิค : ทุกครั้งที่โอกาสแหละครับ ว่างปุ๊ปก็ต้องมาเจอกัน เราก็มีโทรศัพท์กันนี่ โทรหากันเลย
เบนซ์ : เบนซ์ว่าเราโตแล้ว มันไม่เหมือนเด็กๆที่ต้องเจอกันทุกวันมันจะแนวแบบว่า วันนี้เหนื่อยใช่ไหม? อ่ะ.. โอเคนอนไป ไม่ต้องคุยก็ได้
มิค : ใช่ เพราะอย่างบางทีมิคทำงานไกลบ้านพอเลี้ยวเข้าอีกบ้าน แต่วันนั้นเบนซ์เค้าอยู่อีกบ้านนึง เราก็จะตามไปค้างด้วย แต่เขาก็จะโทรมาบอกว่าไม่ต้องมาๆ ให้นอนพักไปเลย
เบนซ์ : เราก็รู้สึกนะว่า เออ..บางทีแต่งงานแล้วความรู้สึกมันก็จะไม่เหมือนตอนก่อนแต่งงาน ที่จะมีแบบไปเที่ยวกับเพื่อนไม่กลับบ้านเราก็เป็นห่วง
มิค : แต่ทุกวันนี้ขั้นเทพครับ.. บางทีผมนัดเพื่อนไว้แล้วลืม เขาก็โทรมาเตือนว่า “มิค นัดเพื่อนไว้ จำได้รึเปล่า? ไปเลยๆไปหาเพื่อน” กลายเป็นเขาต้องโทรมาเตือนเราซะงั้น
เบนซ์ : คือ..มันไว้ใจกันมากขึ้นค่ะ ไม่จำเป็นต้องโทรตาม ให้เขาได้ทำอะไรที่สบายใจ เพราะมิคเขาก็ทำงานเหนื่อยแล้ว เราเข้าใจกัน ไว้ใจกันก็รู้สึกดีต่อกัน
ประทับใจอะไรในตัวของกันและกัน ?
เบนซ์ : เบนซ์ว่าเขาเป็นคนอารมณ์ดี แล้วก็เป็นคนแบบเหมือนเดิม เสมอต้นเสมอปลาย ดีก็ดีเหมือนเดิม เลวก็เลวเหมือนเดิม (หัวเราะ) ตั้งแต่เจอครั้งแรกเขาก็เป็นแบบนี้แล้ว
มิค : จริงๆก็ประทับใจทุกอย่างเลยนะครับ ใครๆก็ชอบมาถามว่าผมเจ้าชู้ไหม มีกิ๊กบ้างไหม ผมตอบเลยว่าไม่ครับ ผมมีเบนซ์คนเดียวเหมือนมีแฟน 10 คนในเวลาเดียวกัน เปลี่ยนอารมณ์ได้ทุก 5 นาที อย่างบางทีอยากจะสวีทหวานจ๋อย อีกเดี๋ยวก็แว้ดๆ ด่าก็มี ก็สนุกดีครับ อีกอย่าง... ความกตัญญูของเขานี่แหละครับ ที่สุดยอดมาก ชนะใจทุกคนจริงๆ
อนาคตวางแผนเรื่องลูกไว้อย่างไร ?
มิค : ปลายปี แน่นอนครับ (กะไว้ว่าจะมีลูกกี่คน?) คือจริงๆตั้งใจว่าอยากจะได้ลูกแฝด แต่ตอนนี้เริ่มไม่อยากแล้ว กำลังสับสนในชีวิตอยู่ คือเราเคยไปเจอคนนึงเขาบอกมาว่า ถ้าแฝดคนใดคนหนึ่งสอบได้ที่ 1 แต่อีกคนได้ที่โหล่ มันเหมือนเขาเกิดมาเป็นคู่แข่งกัน เราอาจจะคิดว่าเขาน่ารัก เลี้ยงรอบเดียวสบาย แต่จริงๆ เรามองอีกมุมนึงมากกว่าครับ
เบนซ์ : ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอกเนอะ แต่ที่แน่ๆ คือเราตั้งใจจะไม่มีลูกคนเดียวเพราะว่าเรามาจากครอบครัวใหญ่ทั้งคู่ มันอบอุ่นจริงๆ นะ เวลาเรามีปัญหา อยากมีคนกินข้าวด้วย มีคนให้เราได้พูด ได้คุย
ได้ยินว่าถึงขั้นไปขอลูกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์..?
มิค : เพิ่งไปไหว้มาครับ ที่ฮ่องกงว่าอยากได้ลูกครับ
เบนซ์ : แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยขอมาก่อนเลย มีครั้งนี้ที่ไปไหว้แล้วก็ขอลูกค่ะ
หากขอได้หนึ่งสิ่งจากแต่ละฝ่าย จะขออะไร ?
เบนซ์ : ขอให้พี่นอนเยอะๆ เพราะเขาเป็นคนที่นอนน้อยมากๆ มันมีผลกระทบทุกอย่าง นอนน้อยหน้าก็โทรมทำงานก็เหนื่อย พอเหนื่อยแล้วไม่ไหวก็จะมีอารมณ์เสีย คือมันตามมาหมดทุกอย่างเลยผลจากการนอนน้อย ถ้าเขานอนเยอะๆพักเยอะๆนะ ชีวิตเขาจะแฮปปี้มาก เพราะทุกอย่างดีหมดแล้ว เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับพี่มิคนะ เรื่องนี้เบนซ์เป็นห่วงมากนะ คืออย่างถ้าขับรถแล้วหลับ มันก็อันตรายใช่มั้ยล่ะ
มิค : ขอให้เรารักกันตลอดไปครับ (ขำ) ให้รักกันอย่างนี้ตลอดไป (อู๊ย...หวานซ้า)
ได้ฟังคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามัน ที่เรียกได้ว่าผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาก็เยอะ...เชื่อว่า “คุณผู้อ่าน” อ่านไปก็คงอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ และเชื่อเหลือเกินว่า ความคิดดีๆ จากคู่รักคู่นี้ ย่อมจะมีประโยชน์กับคู่รักอีกมากมายทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง.. ข้อคิดดีๆ ที่นาย “มิค” ทิ้งท้าย ฝากไว้ให้กับคู่รักรุ่นใหม่ๆ ว่า...
“...ก่อนที่จะพูด ก่อนที่จะแสดงอาการ หรือก่อนที่จะทำอะไรก็ตาม ลองคิดดูสักนิดว่า ถ้าเราไม่พูดแล้วเป็นการรักษาน้ำใจเขา แล้วเราหายโกรธ หายโมโห มันดีอยู่แล้วรึเปล่า.. มันรักษาน้ำใจกันได้ เหมือนกับแก้วแหละครับ บางทีแก้วมันดีอยู่แล้ว เราจะไปเคาะให้มันแตกทำไม หรือแค่ลมพัดแก้วมันก็แตกได้แล้ว ดังนั้นคนที่เราจะเป็นคู่ด้วยไม่ว่าจะแฟนหรือสามีภรรยา คือคนที่เราต้องถนอมน้ำใจมากที่สุด อย่าพูดหรืออย่าทำอะไรที่ทำร้ายจิตใจอีกฝั่งเลยครับ...”
กัณฐ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี