“สตาร์เรโทร” ตามรอยวันวานของอดีตตำนานบอยแบนด์ วงบอยสเก๊าท์ มาถึงคนสุดท้าย... เขาคือนักร้อง นักแสดง มากอารมณ์ขัน ธเนศ ฉิมท้วม หรือ โจ บอยสเก๊าท์ ที่จะมาบอกเล่าถึงมุมมองชีวิตทั้งในอดีตและอนาคต ความประทับใจปนสนุกสนานในวันเก่ายังอยู่ครบ รวมถึงแผนงานธุรกิจในอนาคตที่มองการณ์ไกลไปถึง ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC!!
ความประทับใจในนามสมาชิก วงบอยสเก๊าท์
สำหรับเพื่อนทั้งสองคน ต๊ะ(วินรวีร์ ใหญ่เสมอ) กับ ดิ๊บ(ธนพงศ์ คล้ายพงศ์พันธ์) ตอนที่ทำงานร่วมกันพวกเขาทุ่มเทให้กับงานมากครับ ไม่ว่าจะต้องตื่นตี 4-5 ไปตากแดดตากฝนที่ไหนก็พร้อมลุยกัน ผมอยากขอบคุณต๊ะกับดิ๊บด้วย ที่ทำให้บอยสเก๊าท์ของพวกเราอยู่ด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้ไม่แตกคอ หรือมีปัญหากันเหมือนวงอื่นๆ ในตอนนั้นพวกเราร่วมทุกข์สุขกันมามาก และก็มีเรื่องสนุกหลายเรื่องเลยครับ แต่มีเรื่องหนึ่งเกิดตอนสมัยพวกเราเข้าวงการใหม่ๆ เราไปเดินห้างสรรพสินค้าด้วยกัน ต้องบอกว่าเรื่องมันนานมากแล้วครับประมาณ 20 กว่าปีเท่าที่ผมจำได้คือผมเดินรั้งท้ายเพื่อเก็บรายละเอียดของคนที่เจอพวกเราแล้วอยู่ๆ พนักงานของร้านในห้างก็กรี๊ดขึ้นมา เขาวางอุปกรณ์การทำงานทุกอย่าง เพื่อออกมากรี๊ดพวกเรา(หัวเราะ) คือเป็นภาพประทับใจที่ผมจำมาจนถึงทุกวันนี้เลยนะ
สัมพันธ์เหนียวแน่น
ผมคิดว่าที่วันนี้พวกเรายังอยู่ร่วมกัน เพราะความจริงใจความบริสุทธิ์ใจที่มีให้กัน ถ้าพูดแบบผู้ชายๆ ก็คือ แมนๆ เปิดอกคุยกัน แล้วทุกอย่างก็จะไม่มีอะไรค้างคากัน
วันที่ห่างหายไปจากเบื้องหน้า
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมหายหน้าไปพักใหญ่ ช่วงนั้นไปทำงานเป็นพนักงานประจำที่สยามกีฬาครับ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว ผมตัดสินใจออกมา เพราะตอนแรกผมอยากทำงาน 2 อย่างควบคู่กันไปทั้งงานประจำ และงานแสดงซึ่งมันยากครับ รวมถึงผู้ใหญ่ที่บริษัทไม่อนุญาตด้วยผมเลยต้องตัดสินใจออกมา
สิ่งที่อยากแก้ไข หากย้อนเวลากลับไปได้
อยากแก้ไขอัลบั้มชุดที่ 3 ของเราครับ คือพวกเราออกอัลบั้มกันแค่ 2 ชุด เพราะเพลงที่ทางบริษัทเสนอมาเริ่มไม่เข้ากับพวกเราสามคน อาจจะด้วยวัยที่โตเกินเพลง คือพวกเรารู้ตัวเอง ว่าเพลงดูเด็กเกินไปสำหรับเรา ตอนนั้นอัลบั้มชุดที่ 3 เลยไม่ได้ออกมา
ระหว่างเพลงกับการแสดง
การร้องเพลงเป็นตัวของผมเองครับ พูดง่ายๆ ว่าเป็นตัวตนของผมในชีวิตประจำวันไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไร แต่การแสดงเราต้องสวมบทบาทเป็นใครก็ไม่รู้ ต้องเข้าให้ถึงจิตวิญญาณของตัวละคร ทำให้คนดูเชื่อจริงๆ ว่าเป็นคนนั้นไม่ใช่ผม แล้วถ้าเกิดผู้กำกับบอกว่าที่เราแสดงไปยังไม่ใช่ เราก็ต้องทำการบ้านใหม่เพื่อเข้าให้ถึงตัวละครนั้นๆ ถ้าผู้กำกับบอกว่าผ่านแล้วคนดูเชื่อก็ถือว่าประสบความสำเร็จครับ แต่ถ้าถามว่าผมชอบอะไรมากกว่ากัน แน่นอนครับว่าต้องเป็นการร้องเพลง เพราะคือตัวตนของเรา
กำลังใจจากแฟนๆ
ผมขอขอบคุณแฟนๆ ที่ยังคิดถึง และจดจำพวกเราบอยสเก๊าท์ได้ และอยากบอกว่าพวกเราบอยสเก๊าท์ไม่ได้หายไปไหนยังอยู่ในใจพวกคุณตลอดเวลาและตอนนี้บอยสเก๊าท์ก็มีแฟนเพจแล้วสามารถเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/boyscout.fanclub ครับ
งานในวงการ ณ ปัจจุบัน
ทุกวันนี้ผมยังรับงานแสดงปกติเลยครับ ตอนนี้มีละครที่กำลังถ่ายทำอยู่ เรื่อง “เพลงรักข้ามคลอง”ทางช่องทรูวิชั่น แสดงเป็นเพื่อนของพระเอก (ไชยา มิตรชัย)สำหรับงานด้านอื่นๆ ก็ยังรับอยู่ครับ แล้วแต่จะมีคนติดต่อเข้ามา งานในวงการบันเทิงเป็นงานที่ผมรัก โดยเฉพาะงานด้านแสดงที่ผมทำมาอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการร้องเพลง เรียกว่างานในวงการเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในชีวิตของผม (เรื่องการเลือกบท?) ขอพูดตรงๆ นะครับ ว่าผมเป็นคนค่อนข้างชัดเจนดังนั้นหลายๆ งานที่ผ่านเข้ามา ที่ผมเคยแสดงทุกตัวละครเป็นบทบาทที่มีสีสัน และมีเรื่องราวในละครเรื่องนั้นนิดหนึ่ง ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นบทตลก แต่ว่ามีเรื่องราวมีความสำคัญในตัวละครครับ แล้วส่วนใหญ่คนที่ติดต่อมาก็จะบอกว่าผมเหมาะกับบทที่เขานำมาเสนอ ซึ่งผมก็ขอขอบคุณผู้จัดทุกคนที่ยังให้โอกาสผมเสมอมาตั้งแต่ผมเริ่มเล่นละครจนถึงทุกวันนี้ครับ
ผลงานเพลง
งานเพลงคงต้องรอทางอาร์เอสครับ ว่าจะมีโปรเจกท์อะไรพิเศษๆ ออกมาหรือเปล่าแต่ถ้าถามผม ว่ายังรักในการร้องเพลงอยู่หรือเปล่าผมตอบได้เลยว่ายังรักเราเกิดมาจากตรงนั้น ที่ผมมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักได้ จนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะการร้องเพลง ทุกคนรู้จักผมในฐานะนักร้องวงบอยสเก๊าท์ ฉะนั้นผมไม่ลืมการร้องเพลงอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องอาศัยจังหวะ และช่วงเวลา อีกอย่างปัจจุบันมีนักร้องใหม่เกิดขึ้นเยอะครับ ถ้าจะทำเพลงออกมาอย่างจริงจัง คงเป็นเรื่องที่ต้องคิดกันเยอะมากจริงๆ
มองวงการบันเทิงปัจจุบัน
ยุคของผมต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน ใช้การยอมรับจากหลายๆ บุคคล กว่าจะก้าวมาถึงจุดที่มีชื่อเสียงสูงสุดได้ แต่ในยุคปัจจุบันแตกต่างกัน ทุกคนเข้าวงการกันง่ายๆโดยเฉพาะจากการประกวด ยิ่งถ้าติด 1 ใน 3 ด้วยแล้วโอกาสที่จะประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง เพราะมันจะต่อยอดไปถึงงานแสดง หรืองานเพลงอื่นๆได้ครับ
สิ่งที่คิดว่าช่วยให้ยืนหยัดอยู่ได้ในวงการ
ผมขอยกคำฝรั่งมาพูดนะครับ ว่าการอยู่วงการบันเทิงได้นานๆ มีสิ่งที่สำคัญคือ ซีเนียริตี้ (Seniority) คือการรู้จักรุ่นพี่-รุ่นน้อง ถ้าเราเป็นรุ่นน้องที่ดี ก็ควรเคารพรุ่นพี่ที่เขาอยู่ในวงการมาก่อนเรา อ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ครับ สิ่งเหล่านี้น่าจะทำให้อยู่ในวงการได้ยืนยาว
มุมมองต่องานเบื้องหลัง
ผมคิดว่าเราเกิดมาจากอะไร เราไม่จำเป็นต้องเติบโตไปกับสิ่งนั้นก็ได้ครับ ณ ยุคๆ หนึ่งที่เคยสัมผัสเคยผ่านตรงนั้นมา ผมโอเคแล้วครับพอเราโตขึ้นอายุมากขึ้นเราก็ต้องหาเลี้ยงชีวิต หาอะไรที่เลี้ยงครอบครัวได้ งานในวงการบันเทิงเป็นงานที่รัก แต่งานที่เลี้ยงชีวิตของเราก็ต้องเป็นงานอีกด้านครับ พอถึงจุดหนึ่งเราต้องยอมเปลี่ยนงานที่รักเป็นงานอดิเรก เพื่อทำควบคู่กับธุรกิจ ไม่ได้ทิ้งไปไหน ผมมองแบบนั้นนะครับ
ก้าวใหม่ของชีวิต
ผมกำลังจะร่วมลงทุนกับพี่สาวทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารครับ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำ กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุย คือเริ่มมาจากพี่สาวของผม เขาไปแข่งขันทำอาหาร (แกงส้ม) ชิงแชมป์แห่งประเทศไทย แล้วได้รางวัลชนะเลิศกลับมา ผมมองว่าธุรกิจด้านนี้เป็นทางเลือกให้กับทุกคน และเป็นงานด้านที่พี่สาวผมถนัด ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเราคิดจะทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ควรเป็นธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัย 4 คือ ที่อยู่อาศัย อาหาร เสื้อผ้า และยารักษาโรค (หัวเราะ) เพราะว่าคนเราขาดปัจจัย 4 ในชีวิตประจำวันไม่ได้โดยเฉพาะอาหารผมถึงเลือกทำธุรกิจนี้ คิดว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจอย่างอื่น และคิดว่าธุรกิจนี้น่าจะมีโอกาสเติบโตไปได้เรื่อยๆ และในอนาคตถ้า AECเปิดเมื่อไหร่ ประเทศไทยเป็นที่รู้จักของหลายๆ ประเทศมากขึ้น อาหารก็ย่อมเป็นที่รู้จักตาม แล้วถ้านักท่องเที่ยวบังเอิญมาเจอร้านผมแล้วถูกใจก็อาจจะได้รับการบอกต่อไปเรื่อยๆ ครับ
ความมั่นคงที่ต้องสรรค์สร้าง
ผมคิดว่าใดๆ ในโลกล้วนไม่จีรังครับ ถ้ามีธุรกิจอะไรที่จับต้องได้ มีความมั่นคงในชีวิต ก็น่าจะดีกว่างานด้านการแสดงตรงนี้ งานในวงการบันเทิงเป็นงานที่มีความเสี่ยงนะครับ ด้วยอายุที่มากขึ้นบวกกับมีนักแสดงใหม่ๆ เข้ามาในวงการตลอดเวลาเราไม่สามารถอยู่ในวงการได้ตลอดไปหรอกครับ เพราะฉะนั้นเราควรหาอะไรทำเสริมเพื่อความมั่นคงในชีวิต และเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวในอนาคตครับ
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แต่หากคิดจะทำต้องเดินหน้า วันนี้ของ “โจ” อาจยังต้องฟันฝ่าแต่ความสำเร็จในอนาคตข้างหน้า คือความหวังที่น่าลิ้มลอง!!
พรหมปภา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี