คนเกือบทั้งประเทศแทบจะตัดสินในทันที ที่ได้เห็นน้ำตาของหนุ่ม "ชิน-ชินวุฒ อินทรคูสิน" ไหลพรากในวันที่รู้ตัวว่าต้องเข้ารับราชการทหารเป็นเวลา 2 ปี แต่หากใครได้ฟังเรื่องราวในอดีตของเขา อาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่และมองหนุ่มน้อยคนนี้เปลี่ยนไป

ชิน ชินวุฒ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่เขาต้องหลั่งน้ำตาออกมาก่อนหน้านี้ว่า ที่เขาร้องไห้นั้นไม่ใช่เพราะต้องเป็นทหาร แต่เหตุผลที่แท้จริงคือเพราะห่วงครอบครัว เนื่องจากตัวเองเป็นเสาหลักของบ้าน ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนสังคมจะไม่เชื่อคำพูดของเขาสักเท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อ 3 ปีก่อน หนุ่มชิน ไม่ได้เข้ารายงานตัวจึงทำให้ปีนี้เขาต้องเป็นทหาร 2 ปี โดยไม่ต้องลุ้นจับใบดำใบแดง

ล่าสุด เฟซบุ๊ก "Woody Milintachinda" ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์พิเศษ "คุณแม่เอเลน" แม่ของหนุ่มชิน ที่มาเล่าถึงชีวิตในอดีตที่แสนลำบากซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หนุ่มชินหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมา

คุณแม่เอเลน เผยว่า ตัวเธอนั้นเป็นคนฝรั่งเศส ได้พบกับคุณพ่อของชินที่อเมริกา ก่อนที่เขาจะชวนมาอยู่เมืองไทย ซึ่งตอนแรกก็นึกว่าแค่ชวนมาเที่ยวเฉย ๆ แต่พ่อกลับชินขอให้เธอแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยที่เมืองไทย อย่างไรก็ตามเนื่องจากพ่อของชินอายุมากแล้ว แถมเคยผ่านการแต่งงานมาก่อน ทำให้ครอบครัวที่ฝรั่งเศสของเธอไม่ค่อยยอมรับนัก บอกว่าหากตัดสินใจจะมาแต่งงานอยู่ที่ไทยก็ให้ออกจากครอบครัวไปเลย

คุณแม่เอเลน เล่าต่อว่า ตอนที่เธอมาถึงเมืองไทย ในกระเป๋านั้นมีเพียงใบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย และเงินติดตัวเพียง 800 บาทเท่านั้น มาอยู่ที่นี่เธอก็ไม่รู้จักใคร พูดภาษาก็ไม่ได้ แถมยังไม่เข้าใจวัฒนธรรมคนเอเชียด้วย ทั้งที่สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนต่างชาติที่จะเดินทางมาอยู่ที่นี่ เพราะหากไม่เข้าใจวัฒนธรรม ต่อให้พูดภาษาได้ก็ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการทำงาน ในตอนที่เธอรู้ตัวว่าท้องชินนั้น จำได้ว่าตัวเองยืนอยู่ที่ตลาดราชวัตร ใส่รองเท้าแตะ มีกางเกง 2 ตัว เสื้อยืด 3 ตัว และคิดในใจว่ามันถึงเวลาที่ต้องเลือกแล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะเก็บลูกไว้หรือว่าจะเอาออกแล้วกลับบ้านที่ฝรั่งเศส ประกอบกับในตอนที่เธอท้องอยู่นั้นก็ถูกย่าของชินไล่ออกจากบ้าน เนื่องจากตัวเธอไม่เข้าใจวัฒนธรรมไทย ทำให้เธอในตอนนั้นไม่มีเงิน ไม่มีที่อยู่ แถมสามีก็เป็นลูกชายคนโต ก็ยังต้องอยู่กึ่งกลางระหว่างคุณแม่ของเขาและตัวเธอเอง

จากนั้นคุณแม่เอเลนก็ตัดสินใจไปเช่าแฟลตเล็ก ๆ ขนาด 9 ตารางเมตร เพราะตัดสินใจว่าจะอยู่ที่ไทยแล้ว ต้องการแสดงให้คนที่มองอยู่เห็นว่าเธอก็ทำได้ มีชีวิตอยู่ได้ ในช่วงเวลาหลังจากนั้นก็ต้องประสบความสำบากอย่างมาก และเคยเหลือเงินในบัญชีเพียง 0 บาท ถึง 2 ครั้ง

"สิ่งหนึ่งที่แม่สอนชินตลอดเวลา คือทำนู่นทำนี่ แต่อย่ามีหนี้ เพราะถ้ามีหนี้ชีวิตจะลำบากทันที" คุณแม่เอเลน กล่าว

นอกจากนี้เธอยังเผยว่า ช่วงหนึ่งเธอลำบากถึงขั้นที่ต้องนำปลาทู แตงกวา และข้าวที่ใส่กล่องมาจากบ้าน นำไปแอบทานที่บันไดหนีไฟคนเดียว ไม่ให้เพื่อน ๆ รู้ เพราะตัวเธอเองนั้นเป็นถึงผู้จัดการบริษัท ไม่อยากให้ใครอยู่ว่าจริง ๆ แล้วเธอไม่มีเงินสักบาทเดียว เนื่องจากตอนนั้นชินอาศัยอยู่ที่ภูเก็ต เธอก็ต้องเก็บเงินส่งไปจ่ายค่าเช่าบ้านให้ชินและพ่อ การเดินทางต้องขึ้นรถเมล์ เว้นแต่เหนื่อยมากจริง ๆ จึงยอมขึ้นแท็กซี่ เสื้อผ้าสวย ๆ ที่เธอสวมก็เป็นชุดที่ซื้อไว้ตั้งแต่ก่อนจะย้ายมาที่ไทย ทำให้หลายคนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

"แม่อยากบอกว่าการที่ผู้ชายมีน้ำตาออกมา ไม่ได้แสดงว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายแท้ ๆ ผู้ชายแท้ ๆ ร้องไห้เพราะเขารักคนที่เขารักจริง เขาเป็นตัวเขา แม่เองก็ยังมีความเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องร้องก็ปล่อยออกมาเถอะ จะไปแอบไว้ทำไม" คุณแม่เอเลน กล่าว

ทั้งนี้หลังครอบครัวผ่านวิกฤตต่างๆ มาได้คุณแม่เอเลนก็ลาออกจากงานมาดูแลลูกชาย ทำให้ชินกลายมาเป็นเสาหลักของบ้านที่ต้องดูแลครอบครัว แต่ก็ไม่คาดว่าจะต้องเข้าไปรับราชการ ทำให้รู้สึกเป็นห่วงทางบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นคุณแม่ก็ยังสนับสนุนให้หนุ่มชินรับราชการ ไม่ได้เห็นค้านกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างไร

ขอบคุณ : Woody Milintachinda , WOODYTALK