แม้จะเล่นละครผ่านงานแสดงมาไม่กี่เรื่อง แต่ฝีมือของอดีตนักแสดงสาว “ไข่มุก-ศจีพันธ์ เจริญสุข” หรือ “ทญาณ์ ไมอ๊อคซิ”ภรรยาสาวของ ปีเตอร์ ไมอ๊อคซิ ก็เป็นที่จดจำของแฟนคลับหลายต่อหลายคน จนวันหนึ่งเมื่อเธอต้องตัดสินใจเลือกที่จะไปสร้างครอบครัว งานในวงการบันเทิงจึงลดน้อยลงและค่อยๆ หายไปในที่สุด วันนี้ “สตาร์เรทโทร”มีโอกาสเจอะเจอเธอเมื่อครั้งที่ติดตามมาคอยดูแลสามี “ปีเตอร์ ไมอ๊อคซิ”ในกองละครเรื่อง “กุหลาบตัดเพชร” เนื่องจากหนุ่มปีเตอร์ได้รับอุบัติเหตุระหว่างเล่นฟุตบอล จนต้องเข้าเฝือก เราเลยไม่พลาดที่จะอัพเดทชีวิตของเธอให้แฟนๆได้หายคิดถึงกัน
หน้าที่หลักในวันนี้เปลี่ยนไป?
ดูแลครอบครัวค่ะ ตอนนี้มุกมีลูกสองคน ช่วงแรกที่ห่างหายจากวงการบันเทิงไปก็ประมาณ 5-6 ปี หลังจากนั้นได้กลับมาเล่นหนังใหญ่เรื่อง “เกิร์ลเฟรนด์” พอจบเรื่องนี้ก็มีน้องอีกคนหนึ่ง คราวนี้เลยยาวเลยประมาณ 10 ปีได้ค่ะ (มีคนชวนให้กลับมาเล่นบ้างไหม?) ไม่มีแล้วค่ะ สงสัยจะเงียบ และหายไปนาน จริงๆ มุกอยู่วงการนี้มาตั้งแต่อายุ 15 แอ๊กติ้งต่างๆ ก็อยู่ในสายเลือดแล้วไม่ได้หายไปไหน ก็ยังรักวงการอยู่ สนใจเล่นได้ แต่ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเข้ามาอยู่ตรงนี้เหมือนเดิม ขอเป็นข้างหลังดีกว่าค่ะ ดูปีเตอร์เล่นก็คอมเม้นท์เขาไปนิดๆ หน่อยๆ แต่ถ้ามีโอกาสให้อยู่ข้างหน้าหรือแสดงบทอะไรก็แล้วแต่โอกาสที่เข้ามาดีกว่าค่ะ
ผลงานในอดีตที่ประทับใจและทำให้แจ้งเกิด
“กระถินริมรั้ว” ค่ะ ละครสมัยก่อนไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ สมัยก่อนจะถ่ายไปออนไปอย่างเช่นถ่ายตอนเย็นออนตอนกลางคืนพอวันรุ่งขึ้นชีวิตเราก็เปลี่ยนไปเลย ตกใจมากเพราะว่าเดินถนนไม่ได้แบบปกติ จากที่เคยเดินสยามได้ชิลๆ พอละครเรื่อง กระถินริมรั้ว ออกอากาศกลายเป็นว่าไม่ได้แล้วนะเดินไปคนเข้ามาขอลายเซ็นเรียกชื่อในละครอีกเราก็ตกใจ มีคนมาขอลายเซ็นก็งง จะทำยังไง เพราะตอนนั้นยังไม่มีลายเซ็นเป็นของตัวเอง (หัวเราะ) หลังจากนั้นรีบกลับบ้านเลย เดินไม่ได้แล้วคนรุม กลับบ้านไปเครียดเลยนะ ชีวิตเปลี่ยนไปมากจริงๆ ช่วงนั้นเพราะเราต้องระมัดระวัง แต่ก่อนหน้านี้จะไปเล่นรับเชิญบ้างในเรื่อง “บ้านไร่ริมธาร” ส่วนเรื่อง “สุริยาที่รัก” เล่นเป็นนางเอกออนแอร์ทางช่อง 9 ซึ่งสุริยาที่รักก็เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจ เพราะมีความเข้มข้น ผู้กำกับคือ “อาฉลวย ศรีรัตนา” ต้องบอกว่าเมื่อก่อนเราก็เจอแบบธรรมดาไม่มีอะไรมาก แต่พอมาเรื่องนี้เจอผู้กำกับที่เรียกว่าดุเลย ก็พยายามเรียนรู้กัน ทำงานอีกรูปแบบหนึ่งเลย เพราะไม่ใช่อย่างที่เรามองเป็นเรื่องเล่นๆตอนนั้นมีพี่ในกองมาบอกว่าที่จังหวัดยะลารู้จักหนูหมดเลยนะ เพราะตอนนั้นยะลารับได้ช่องเดียวคือช่อง 9 เราดังมากเลยนะในยะลาก็ดีใจ (หัวเราะร่วน) และเรื่องนี้แหละที่เรามีข่าวประมาณว่า อาฉลวยดุว่าเราเล่นไม่เป็น แถมตีด้วย แต่ก็เป็นประสบการณ์อีกอย่างหนึ่งว่าการทำงานต้องจริงจังขนาดนั้นสมัยนั้นไม่ได้มีโรงเรียนการแสดงหรือครูสอนการแสดงแบบสมัยนี้นะ ยังเคยถามเลยรุ่นหลังๆ โดนตีไหม นี่บอกเคยมาแล้วโดนตีมาแล้ว (หัวเราะ) ไปเล่าให้ใครฟังนี่มีแต่คนถามว่าโอ้โห! ไข่มุกอยู่รุ่นโน้นเลยเหรอ ก็จะบอกว่าไม่ใช่รุ่นโน้นหรอกรุ่นหลัง แต่ไปเจออารุ่นโน้น (หัวเราะ) ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ
การทำงานในวันนี้กับสมัยก่อน
มุกเล่นละครมาประมาณ 7 เรื่องค่ะอาจจะเลือกแต่งงานเร็วไปหรือเปล่า (หัวเราะ)ตอนนั้นก็เหมือนกำลังจะดังด้วยแหละ แต่เราเลือกที่จะแต่งงานแล้วก็เลยหายไปเลย ซึ่งมุกมองว่าการทำงานสมัยก่อนกับสมัยนี้แตกต่างกันเยอะเลย ภาพสวยกว่า อะไรๆ ก็ดีตามยุคตามสมัยนะคะ จริงๆ ตัวมุกเอกก็เริ่มจากการถ่ายโฆษณา ตั้งแต่อายุ 15 แล้วมาเล่นละครก็ประมาณอายุ 24 ปี ถ่ายโฆษณามายาวนานมากทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหวก่อนที่จะมาเล่นละคร
จากเจ้าแม่โฆษณาสู่นางเอกในหลายๆ บทบาท
ไม่คิดเลยค่ะ แต่พอถึงจุดหนึ่งที่เขาเรียกว่า “อิ่มตัว” เพราะโฆษณาทุกอย่างจะเห็นแต่หน้าเรา ก็มีคนบอกว่างั้นก็ต้องไปเล่นละคร ก็ไปแคสที่กันตนา ไปเจอ “พี่สุ-สุชีรา”เขาก็จะคอยเลือกดูแลจัดคิวเราทุกอย่าง แล้วพี่สุหายเราก็หาย ก็ไปแต่งงาน แต่ก็ได้เล่นละครของกันตนาหลายเรื่องนะคะ มีของดาราวิดีโอด้วย
เอกลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของไข่มุก
เสียงที่แผ่วเบา คือไปถ่ายละครทุกคนจะคอยบอกว่า มุกเสียงดังหน่อย อย่างบางทีเป็นดราม่าก็ต้องเศร้า สำหรับเราคือการตะโกนเสียง แล้วเคยมีหนังสือพิมพ์ลงว่ามุกเป็นนางเอกเสียงน้ำเซาะทราย ทางผู้ใหญ่หลายคนบอกนะว่ามุกต้องไปฝึกนะ เป่าผ้าม่านไล่คีย์เสียงบ้าง (หัวเราะร่วน) เขาบอกว่าอ้าปากให้กว้าง ฉะนั้นเวลาเล่นอะไรก็ต้องเล่นโอเว่อร์ไว้ก่อน เล่นละครไมค์ลอยของเราก็จะต้องพิเศษกว่าเพื่อน คือปรับระดับเสียงดัง
วงการบันเทิงให้อะไรบ้างในชีวิต
มุกอาจจะไม่ได้อยู่ตรงนี้นานมาก แต่ก็ประมาณ 2 ปี ได้ประสบการณ์ชีวิต ชื่อเสียงชั่วข้ามคืน หนังสือพิมพ์ นิตยสารเกือบจะทุกเล่มลงข่าว แล้วพอมาเป็นนางเอกเราก็ถ่ายชุดว่ายน้ำ ผู้ใหญ่ก็เตือน ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเมื่อก่อนเราก็เคยถ่ายมา เรามาสายโฆษณาอยู่แล้ว และไม่ได้เซ็กซี่อะไรมากมาย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่ชุดว่ายน้ำแล้ว ก็ไม่เห็นเป็นไร อย่างว่ายุคสมัยเปลี่ยนไปสมัยก่อนนางเอกก็คือนางเอก จะไปถ่ายวับๆ แวมๆ ไม่ได้
คิดว่าตักตวงประสบการณ์ในวงการบันเทิงน้อยไปไหม
เราได้มาขนาดนี้ในตอนนั้น ก็ถือว่ามากแล้วค่ะ ที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเราได้เรียนรู้ประสบการณ์ สนุกนะคะและประทับใจในสิ่งที่ผ่านมา ถือว่าคุ้มค่าแล้ว แต่ทุกวันนี้ยังวนเวียนอยู่ไม่ไปไหนนะถือว่าเป็นคนในสายนี้เพราะแฟนก็ยังอยู่ แค่เปลี่ยนบทบาทและหน้าที่ไม่ได้มาเป็นคนในกล้องออกทีวี.เหมือนเมื่อก่อน
จุดเริ่มเติม “รัก” จนกลายเป็นครอบครัวในวันนี้
ตอนนั้นเป็นนักแสดงนี่แหละค่ะ แล้วปีเตอร์ก็เป็นเพื่อนของเพื่อนที่มาทางวงการเพลง ตอนนั้นเขากำลังจะเข้าเป็นกลุ่มบอยแบนด์วงหนึ่ง แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งเราก็รู้จักกัน แล้วก็มีคุยกันมาเรื่อยๆ จากเพื่อนก็พัฒนามาเป็นแฟน ตอนนั้นเขาไม่รู้จักเราเลยนะ ว่าเราเป็นนักแสดงและเขาเองก็ยังไม่ได้เข้ามาในวงการเท่าไหร่ เรารู้สึกดีตรงนี้แหละ แต่เมื่อก่อนวงการบันเทิงไม่ได้เปิดเผยเหมือนสมัยนี้ ช่วงที่รักกันก็ไม่ได้เปิดเผยเพราะเราก็เป็นนักแสดง
หมั่นเติมความรักให้กันและกัน
ไม่ใช่คู่ที่หวาน แต่เราจะอยู่เป็นเพื่อนกันมากกว่าค่ะ เข้าใจกันตรงๆ มีปัญหาอะไรก็บอกก็พูดกัน บางทีเราไม่ต้องบอกแค่มองหน้ากันเราก็รู้แล้วว่าตอนนี้ใครมีปัญหา เราก็จะเข้ามากอดกัน ดูแลความรู้สึกกันด้วยคำพูด คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
บทบาทคุณแม่ของพยานรักทั้งคู่
ช่วงนี้คุณพ่อจะเริ่มมีบทบาทเยอะเราไม่ได้เลี้ยงลูกแบบว่า…ถ้าถามว่าประคบประหงมไหม ระดับหนึ่งค่ะ แต่ว่าก็จะดูแลในระดับหนึ่งอย่างใกล้ชิด ปล่อยได้ปล่อยเลี้ยงเปิดค่ะ อย่างที่บอกช่วงนี้เขาเป็นวัยรุ่นคุณพ่อก็จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพราะเด็กผู้ชายเหมือนกัน เขาจะมีดื่มมีสังสรรค์กับเพื่อนๆ เราก็รับได้นะ เพราะวันข้างหน้าต่อไปอาจจะต้องเจอเยอะกว่านี้ก็ได้ ก็มีความดุให้เขาเห็นบ้าง แต่คุณแม่จะดุไม่เท่าคุณพ่อ คือถ้าคุณพ่อพูดนะ คำเดียว จบ
วางอนาคตไว้ให้ลูกๆ อย่างไร
อยากจะวางนะคะ แต่ความจริงแล้วทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเด็ก เราไม่บังคับว่าลูกจะต้องเป็นอย่างนี้นะ คือทำอะไรก็ตามอย่างที่เขามีความสุข เราสนับสนุนเขาเต็มที่ อย่างลูกคนโตตอนนี้จากที่ดูจะเห็นว่าเขาชอบทำหนังที่โรงเรียน เป็นผู้ผลิต เขียนบทเองวาดการ์ตูน ทำเลย์เอ้าท์ รวมทั้งถ่าย เขาเคยเอาการ์ตูนเลโก้ตัวต่อมาถ่ายเป็นหนัง เขาเริ่มทำตั้งแต่เด็กๆ ถ่ายทำเป็นรถพุ่งชนกำแพงลูกเอามาให้ดู แม่นั่งดูแบบอึ้งๆ นั่งทำปากหวอตอนนั้นเขาอยู่ป.1 เองนะคะ คือเขาจะเด่นด้านกิจกรรม เรียนไม่เด่น (หัวเราะ)
ฉายแววเหมือนคุณพ่อคุณแม่
มีบ้างค่ะ แต่ช่วงนี้ให้เรียนอย่างเดียวก่อน ตอนนี้น้องยังวัยรุ่นอยู่ ถ้ามาทางนี้ก็กลัวว่าจะไม่สนใจเรียน (อาจจะทำเบื้องหลัง?) อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ต้องดูกันต่อไป แต่เขามีความสนใจด้านนี้ อย่างโรงเรียนมีทำละครเวทีเขาก็มักจะไม่ค่อยถูกเลือกให้อยู่เบื้องหน้า แต่จะเลือกให้อยู่เบื้องหลังตลอด ส่วนคนเล็กก็อยู่ในระหว่างการเลือก ยังไม่ชัดเจน สองคนจะต่างกันเลยค่ะ คนโตนี่จะเหมือนคุณพ่อมาก ถ้าวันหนึ่งเขาจะเข้าวงการเราอนุญาตแน่นอนค่ะ ตามใจ อยากอยู่ตรงไหนก็ขอให้ทำให้ดีที่สุด ทำเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง อยากทำอะไรก็ทำ ถ้าไม่เดือดร้อนใคร เราก็สนับสนุนเต็มที่ มีช่วงหนึ่งตอนลูกคนโตเล็กๆ มีคนชวนไปถ่ายโฆษณาแต่ปีเตอร์บอกว่าเขาไม่อยากให้ลูกเหนื่อยให้ถึงเวลาเขาก่อนแล้วกัน เพราะปีเตอร์เขารู้ว่าอยู่ตรงนี้เป็นยังไง เหนื่อยแค่ไหน
อัพเดทอาการบาดเจ็บของคุณสามี
ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ แต่ช่วงนี้เราก็เป็นห่วงเขาก็เลยตามมาดูแลเหมือนขาเขาเหลือข้างเดียว เกิดถ้าเขาล้มไปก็จะหนักเลยนะคือเขาไม่เคยป่วยหรือเป็นหนักขนาดนี้มาก่อน ตอนแรกที่ทราบข่าวตกใจมากค่ะ เพราะตอนนั้นเขาโทร.มาบอกว่าอยู่ Emergency ได้ยินเสียงหวอด้วย คือเขาอยู่ในรถพยาบาลฉุกเฉิน โทร.มาบอกว่าเขาขาหัก แต่โชคดีมีคนดูแลใกล้ชิด ตอนนี้ก็ดูแลกันไป ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ
แล้วสุขภาพร่างกายของมุกเอง
ก็จะเริ่มเข้าฟิตเนส เพราะว่าด้วยอายุก็ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ระมัดระวังเรื่องอาหาร ไม่ทานเนื้อสัตว์มา 2 ปีแล้วค่ะ ถือศีลปกติ เราอยู่ตรงไหนมีความสุขก็อยู่ตรงนั้นทุกอย่างพิสูจน์ได้ค่ะ
บทบาทที่ปีเตอร์รับเล่นแล้วรู้สึกโดนใจ
เขาเล่นตัวร้ายเหมาะนะคะ แต่อยากจะเห็นเป็นแอ๊กชั่นดราม่า อย่างเรื่อง“กุหลาบตัดเพชร” ก็ยังไม่ได้ดูเต็มๆ แต่ที่ผ่านมาเขาเล่นบทแบบนี้ได้ดี แล้วตอนที่เขาไปเล่น “สตรีเหล็ก” อันนี้ไม่น่าเชื่อเลย (หัวเราะร่วน) ขำนะคะ เพราะเราก็จะรู้ไงว่าเขาเป็นยังไง ก็มีติดคาแร็กเตอร์กลับมาบ้านบ้างเวลาพูดก็ออกนิดหน่อย แต่ปีเตอร์เป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมาก เขารักการแสดงคนที่มาอยู่ตรงนี้ในระดับหนึ่งต้องมีความรักในการแสดง อย่างไข่มุกก็เหมือนกันทุกวันนี้ก็ยังเฉียดๆ กลายๆ อยู่ในวงการนี่แหละค่ะ คิดถึงวงการเสมอ มีออกเกมโชว์กับพี่ปีเตอร์บ้าง หรือถ้ามีโอกาสก็จะรับเล่นหนังเล่นละครตรงนี้ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่เห็นสมควรค่ะ
ฝากแง่คิดเยาวชนคนรุ่นใหม่
จริงๆ ชีวิตคนเราก็มีแค่นี้นะคะทำอะไรให้ง่าย ชีวิตก็ง่าย ไม่ต้องไปมากมายอะไรมาก เทคโนโลยีต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็น แต่เราไม่ต้องเอาตัวเราไปยึดติดอยู่กับมัน ความสงบมีความสุขที่สุด ทำชีวิตเราให้ง่าย แต่ไม่ใช่หยุดขวนขวายนะ ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดด้วยเช่นกันค่ะ
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ไข่มุก และครอบครัวเข้มแข็งต่อสู้กับทุกปัญหาและความยากลำบากต่างๆ ไปได้ทุกสภาวะและขอภาวนาให้หนุ่มปีเตอร์หายเป็นปกติเร็วๆ นะคะ สู้ๆ ค่ะ
กุหลาบสีเงิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี