ยกเลิกซีรี่ส์ดัง ‘Nashville’ ฐาน เฮย์เดน แพนเน็ตเทียร์ เข้าบำบัด

ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ดังเอบีซีออกมาประกาศยกเลิกการสร้างซีรี่ส์สะท้อนวงการเพลงคันทรีอย่าง “Nashville” เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ดารานำของเรื่อง เฮย์เดน แพนเน็ตเทียร์ ประกาศว่าเธอต้องเข้ารับการบำบัดด้วยอาการซึมเศร้าหลังการคลอด

ดาราสาววัย 26 ปี มีอาการป่วยทางจิตใจตั้งแต่เธอให้กำเนิดลูกสาวเมื่อปี 2014 และเธอเคยเข้ารับการบำบัดมาก่อนเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากขอหยุดพักการถ่ายทำซีรี่ส์เรื่องดัง จนเมื่ออาทิตย์ก่อน แพนเน็ตเทียร์ออกมาบอกว่าการรักษาในขั้นเบื้องต้นดูจะไม่เพียงพอเสียแล้ว โดยประกาศทางทวิตเตอร์ว่าเธอกำลังมองหาการช่วยเหลือต่อไป “อาการซึมเศร้าหลังคลอดที่ฉันได้เผชิญมานั้น มีผลกระทบต่อทุกๆ ด้านของชีวิตของฉัน แทนที่จะอยู่เฉยๆ แล้วต้องติดอยู่กับวิธีการที่ไม่เป็นผลดี ฉันได้เลือกที่จะใช้เวลาเพื่อที่จะสะท้อนให้เห็นถึงสุขภาพและชีวิตของฉันแบบองค์รวม ช่วยอวยพรให้ฉันด้วย”

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการทวิตดังกล่าวผู้บริหารจากเอบีซีก็ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาตัดสินใจยกเลิกการผลิต “Nashville” ซึ่งได้ฉายมาเป็นซีซั่นที่ 4 แล้ว โดยนอกจากนี้ ก็ยังมีซีรี่ส์อีกเรื่องอย่าง “Castle” ที่ฉายมายาวนาน ถูกประกาศยกเลิกด้วยเช่นกัน หลังจากที่ สเตนา เคทิค ประกาศไม่ร่วมงานกับซีรี่ส์เรื่องดังกล่าว

คีธ เออร์เบน ควง ‘นิโคล คิดแมน’ ร้องเพลงในรถ

เป็นคู่รักที่ยังคงความน่ารักและสวีทหวานกันได้ไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับ คีธ เออร์เบน และภรรยาสาว นิโคล คิดแมน ที่งานนี้ออกมาช่วยสามีถ่ายภาพประกอบมิวสิกวีดีโอทางโทรศัพท์กับเพลงใหม่ “The Fighter”

งานนี้แฟนๆ จะได้เห็นทั้งเออร์เบนและนางเอกสาวกระโดดขึ้นรถจี๊ปแรงเลอร์ ร่วมด้วยดารานักร้องสาวอย่าง แคร์รี่ อันเดอร์วู้ด และ
นักร้องแบ๊กอัพ

สำหรับการทำงานของเออร์เบนนั้น เขาเผยให้แฟนๆ ได้ฟังว่า “ผมมักจะทำเพลงตัวอย่างอยู่ที่บ้านมาตั้งแต่เมื่อตอนที่เป็นเด็ก แม้แต่ก่อนที่ผมจะซื้อเครื่องมิกซ์เสียงแบบมัลติแทรค ผมก็เคยซื้อวิทยุเทปคาสเซ็ทแบบสองหัว เพื่อใช้ด้านหนึ่งเอาไว้เล่นเพลง แล้วกดเล่นและร้องตามไปด้วย เพื่อใช้อีกด้านหนึ่งอัดเสียง ผมใส่เสียงของตัวเองลงไปในไมโครโฟนที่ต่อกับวิทยุเทป และเพิ่มเติมทำนองของผมลงไป จากนั้นก็เล่นกลับอีกครั้งในวิทยุอีกเครื่องหนึ่ง แล้วก็เพิ่มทำนองลงไปอีก นั่นล่ะวิธีที่ผมเริ่มต้นใช้เครื่องมิกซ์เสียงแบบมัลติแทร็กราคาถูก”

‘เบลค ไลฟ์ลี่’ ปรี๊ดแตก วู้ดดี้ อัลเลน ถูกถากถางเรื่องข่มขืน

นางเอกสาว เบลค ไลฟ์ลี่ ออกมาแสดงความไม่พอใจพิธีกรและนักแสดงตลกชาวฝรั่งเศส ที่กระเซ้าเย้าแหย่นักแสดงและผู้กำกับฯ ชื่อดังอย่าง วู้ดดี้ อัลเลน เรื่องการข่มขืนจนเกินงามและไม่เหมาะสม ระหว่างพิธีเปิดเทศกาลภาพยนตร์ คานส์ ฟิล์ม เฟสติวัล

โลลอง ลาฟิตเต พิธีกรของงานทำให้บรรดาผู้ชมช็อกไปตามๆ กัน ในการฉายรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์คอเมดี้เรื่องใหม่ของอัลเลน “Cafe Society” ด้วยการกล่าวว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีนะ ที่คุณเคยถ่ายทำภาพยนตร์มาแล้วตั้งหลายเรื่องในยุโรป ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยกระทำความผิดฐานข่มขืนในอเมริกาก็เถอะ”

คำพูดดังกล่าวของลาฟิตเตทำเอาผู้ชมอ้าปากค้างไปเลยทีเดียว เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าพิธีกรหนุ่มกล่าวพาดพิงถึงข้อหาละเมิดทางเพศที่อัลเลนถูก ดีแลน โอ’ซุลลีแวน ฟาร์โรว ลูกเลี้ยงของเขากล่าวหา งานนี้ผู้กำกับฯรุ่นเดอะ ทำเป็นไม่สนใจตลกร้ายดังกล่าว โดยตั้งหน้าตั้งตาโปรโมทภาพยนตร์ของตัวเองต่อไป พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า “ผมนี่ชอบที่จะให้พวกนักแสดงตลกเล่นมุขอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ...มันต้องใช้ความพยายามมากเลยในการทำให้ผมไม่พอใจ”

อย่างไรก็ตาม นางเอกสาวของเรื่อง “Cafe Society” อย่าง เบลค ไลฟ์ลี่ กลับเป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้ ออกมาแสดงความไม่พอใจกับคำพูดของลาฟิตเต ที่นอกจากจะพูดจาไม่เหมาะสมใส่อัลเลนแล้ว พิธีกรหนุ่มยังมีการพูดพาดพิงถึงกลุ่มชุมชนชาวเกย์ และผู้นำนาซีอย่าง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์อีกด้วย

ไลฟ์ลี่กล่าวว่า “ฉันคิดว่ามุขตลกอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการข่มขืน รักร่วมเพศ หรือนาซีนั้น มันไม่ตลกเลยสักนิด...” ก่อนจะกล่าวต่อว่า “เทศกาลภาพยนตร์มันช่างเป็นเทศกาลที่สวยงาม และน่าเคารพ ของทั้งภาพยนตร์ และนักแสดง และการที่จะมีเทศกาลแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ามันคงมีอะไรแบบนี้ไม่ได้หากเรายังอยู่ในยุคปี 1940 ฉันคงไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเฟรด แอสเทียร์ และ บิง ครอสบี้ จะออกมาทำอะไรแบบนี้ได้ มันเลยเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสำหรับนักแสดงที่อยู่ในห้องนั้น ในการที่มีใครสักคนมาพูดเรื่องตลกเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ตลกสักนิด...แล้วเขายังวิพากษ์วิจารณ์พวกรักร่วมเพศถึงสามครั้งติดต่อกันไหนจะเรื่องตลกเกี่ยวกับฮิตเลอร์ และเรื่องตลกเกี่ยวกับการข่มขืน เขาพูดเรื่องเหล่านั้นทั้งหมดภายในเวลา 30 วินาทีนี่มันเกิดอะไรขึ้น มันน่าสับสนจริงๆ”

ข้อโต้แย้งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ โรแนน ฟาร์โรว ลูกชายของอัลเลน เผยแพร่ข้อความต่อว่าวงการฮอลลีวู้ดที่ยังคงให้การสนับสนุนพ่อของเขา แม้ว่าเขาจะถูกกล่าวหาว่าข่มขืนลูกสาวก็ตาม ซึ่งอัลเลนเองไม่เคยถูกตั้งข้อหา และยังคงถูกมองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยโรแนนกล่าวชัดเจนว่าพี่สาวของเขาไม่ได้โกหก

อัลเลนปรากฏตัวอย่างไม่สะทกสะท้านที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกของเขา ผู้กำกับฯ รุ่นเดอะกล่าวว่า “ผมไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เลย ผมเคยพูดกับนิวยอร์กไทมส์เมื่อนานมาแล้ว ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้มันเหลวไหล ทั้งหมดเลย มันไม่รบกวนผมหรอก ผมไม่คิดถึงมันน่ะ”

จอห์นนี่ เด็ปป์ เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยไลฟ์สตรีมวีดีโอในดิสนีย์แลนด์

ใครเป็นแฟนพระเอกหนุ่ม จอห์นนี่ เด็ปป์ ต้องร้องกรี๊ดกับข่าวนี้ เมื่อเขายอมลงทุนปรากฏตัวขึ้นที่ดิสนีย์แลนด์ในรูปแบบไลฟ์สตรีมเพื่อสร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยือน

เด็ปป์แต่งตัวเป็น แมด แฮทเตอร์ คาแร็กเตอร์ของเขาในภาพยนตร์เรื่องใหม่ “Alice Through The Looking Glass” จากนั้นก็ไลฟ์สตรีมวีดีโอ เพื่อแพร่ภาพผ่านบูธในดิสนีย์แลนด์ โดยเริ่มจากนั่งนิ่งๆ ทำให้ดูเผินๆ เหมือนเป็นแค่รูปภาพเท่านั้น

แน่นอนว่าเมื่อแขกผู้มาเยือนดิสนีย์แลนด์เดินผ่านบูธไปแบบไม่คิดอะไร และกลับเห็นพระเอกหนุ่มขยับกายทักทาย เล่นเอาทุกคนต่างพากันกรี๊ดด้วยความประหลาดใจ แถมยังประทับใจที่สามารถทักทายกับดาราคนโปรดแบบสดๆ ได้อีกด้วย

โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับ เข้ารับการบำบัดกับภรรยาเป็นประจำ

ผ่านเรื่องราวทั้งดีและร้ายในชีวิตมาเยอะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องยอมรับว่าพระเอกหนุ่มโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ที่เคยล้มเหลวทำผิดพลาดมาก่อนในอดีต ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างหนักในทางที่ดี จนตอนนี้เรียกได้ว่าเขากลายมาเป็นดาราที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งแห่งยุค

เมื่อพูดถึงความล้มเหลวแล้ว พระเอกหนุ่มกล่าวถึงความคิดเห็นของเขาต่อคำคำนี้ว่า “หากมันเป็นคำว่าล้มเหลวแบบตรงๆ ตัวล่ะก็ ผมไม่อยากพูดถึงคำว่าล้มเหลวเลย ผมอยากจะพูดถึงความนอบน้อมถ่อมตัวมากกว่า อย่างตอนที่คุณรู้สึกแย่และอับอายขึ้นมาทันที แต่คุณก็ยังคงต้องปั้นหน้าต่อไปเพื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ ให้ได้นั่นล่ะ เพราะว่ามันไม่ใช่แค่ความล้มเหลวหรอกที่จะทำให้คุณเป็นที่จดจำ ผมอาจจะขาดๆ ไปสักหน่อย แต่มันก็โอเคแหละ”

นอกจากนี้ พระเอกหนุ่มยังยอมรับอีกด้วยว่า เขากับซูซาน ภรรยาที่ครองรักกันมานานได้เข้าคลาสบำบัดการใช้ชีวิตคู่เป็นประจำ “มันก็เหมือนกับการมีแม่บ้านนั่นล่ะ คุณเข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม และมันก็ดีกว่าการมีแม่บ้านเข้ามาดูแลอยู่ตลอดด้วย แค่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนอาทิตย์ละสองสามครั้ง ไม่ใช่เมื่อตอนที่รอนวู้ดเพิ่งจะทิ้งมันไปนะ ดังนั้นผมก็เลยคิดว่างานครึ่งหนึ่งน่ะคือการสื่อสารถึงความคิดว่าสิ่งที่คุณกำลังทำคือการสร้างทีม และแก้ไขข้อขัดแย้ง และอะไรแบบนั้น มันก็มีหลายครั้งที่ อย่างเราอาจะมีการนัดหมายกัน แล้วซูซานก็บอกว่า ฉันโอเค คุณก็แค่ต้องบอกพวกเขาในเรื่องนี้ แล้วผมก็จะบอกว่า โอเค นั่นล่ะดีแล้ว”

Quote

"เราควรจะรัก ไม่ใช่ตกหลุมรัก เพราะทุกอย่างที่ตกมักแตกเสมอ"

เทเลอร์ สวิฟท์