วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / บันเทิง
Star Retro : ย้อนวันวาน "จอย ที-สเกิ๊ต" จากนักร้องสู่คนเบื้องหลัง

Star Retro : ย้อนวันวาน "จอย ที-สเกิ๊ต" จากนักร้องสู่คนเบื้องหลัง

วันอาทิตย์ ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556, 06.00 น.
Tag :
  •  

 

เปิดใจนักร้องสาวเกิร์ลกรุ๊ปไปแล้ว 2 คนสำหรับวง “ที-สเกิ๊ต (T-Skirt)”  มาครั้งนี้ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้าขอพาไปย้อนวัยกับหนึ่งใน 3 สาว คนสุดท้ายกับ “จอย” ดวงพร สนธิขันธ์ ที่กำลังจะเป็นว่าที่คุณแม่เร็ว ๆ นี้ โดยเจ้าตัวเผยว่ายังระลึกถึงช่วงเวลาในอดีตได้ดีเสมอ เพราะเป็นช่วงความทรงจำที่ดีแม้ว่าวงที-สเกิ๊ตจะต้องปิดตัวลง พร้อมกับที่เธอได้ทิ้งบทบาทคนเบื้องหน้าของวงการบันเทิง แต่ทุกวันนี้สาวคนนี้กลายเป็นคนทำงานเบื้องหลังในตำแหน่ง แอ๊คติ้ง ไดเรคเตอร์ ที่คอยคัดนักแสดงเข้าสู่วงการโฆษณา และคอลัมน์สตาร์ เรโทร ครั้งนี้จะพาไปเปิดใจกับสาวคนนี้


ฉายแววเริ่มต้นเข้าวงการ

ตอนเด็ก ๆ คุณแม่ก็เคยพาเข้าโมเดลลิ่งบ้างค่ะมีถ่ายแบบถ่ายโฆษณายาสีฟันเปปโซเด้นท์ ตอนอายุ 3-4 ขวบ แต่ก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักอะไรมาก มักเป็นพี่ชายมากกว่าที่ได้งาน เพราะมีพี่ที่ทำงานโมเดลลิ่งเขาอยู่ใกล้บ้านชื่อพี่ “รุ่ง” รุ่งระวี แก้วกล้า เขาอยู่บ้านซอยเดียวกันแล้วบังเอิญเขาเจอพี่ชาย เลยพาพี่ชายไปเทสต์หน้ากล้องแล้วพี่เขาเห็นเราด้วยเลยชวนไปด้วย แต่ส่วนใหญ่พี่ชายมักจะได้ แล้วมีครั้งหนึ่งจอยตามพี่ชายไปถ่ายภาพยนตร์เรื่อง “เพื่อนกันวันอัศจรรย์ของผม” คือพี่ชายเป็นนักร้องนำวง “วีนัส” ชื่อ “เจม” ค่ะ เขาได้เล่นเป็นเพื่อนพี่ “มอส” ปฎิภาณ  ปฐวีกานต์ ค่ะแล้วมีพี่ “เกด” นารากร โลหะชาละ เล่นด้วยเลยทำให้จอยได้รู้จักกับพี่เกดเลยสนิทกัน เพราะคุยกันแล้วเกิดวันเดียวกันแต่คนละปี เลยได้เป็นเพื่อนกันมาแล้วพี่เกดได้พาไปรู้จักกับ “ยุ้ย” ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี เลยกลายเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันแล้วพี่ยุ้ย ซึ่งตอนนั้นออกเทปกับคีตา เรคคอร์ด ได้พาไปรู้จักกับพี่ “มาร์” อัสมา กฮาร  เลยทำให้จอยได้มีโอกาสรู้จักกับ อานพ ฉัตรชัย บุญประทีป เขาเห็นว่าเราว่างอยู่เลยชักชวนมาทำโปรเจคต์ที่เป็นผู้หญิง 3 คนเลยให้เราลองเทสต์เสียงปรากฏว่าเราผ่าน เลยเป็นที่มาของวง ที-สเกิ๊ต ค่ะ

ความรู้สึกหลังเข้าวงการเต็มตัว

จริง ๆ แล้วตอนที่รู้ว่าได้มาทำเพลงวงที*สเกิ๊ต ตอนนั้นเราไม่ได้คาดหวังว่าจะดังอะไร เพราะตอนนั้นกลุ่มเป้าหมายกว้างมากทั้งเด็ก ทั้งวัยรุ่นผู้ใหญ่ก็ชอบ ตอนแรกเรารู้สึกสนุก ๆ เหมือนเพื่อนเราก็เป็นนักร้องแล้วเราก็อยู่ว่าง ๆ มันเหมือนเป็นอีกประสบการณ์หนึ่ง ทุกวันนี้ก็ยังบอกกับตัวเองอยู่ว่าเราไม่ใช่คนที่ร้องเพลงเก่ง หรือไปเรียนร้องเพลงแล้วมาทางนี้ตั้งแต่เด็ก มันเป็นความรู้สึกมากกว่า ทีสเกิ๊ต 3 คนไม่เคยมีใครไปเรียนดนตรีมา เราเป็นแค่เด็กผู้หญิงปกติ 3 คนที่พอร้องเพลงได้ แล้วการเรียนร้องเพลงเพิ่งมาเกิดตอนที่อยู่คีตาฯ นี่แหละค่ะ ได้เรียนอยู่ปีหนึ่งพอทำให้เรารู้พื้นฐาน เรื่องการหายใจ การฝึกร้องเพลงให้ถูกวิธีแค่นั้น เองที่เหลือก็ร้องกันสด ๆ ตามความรู้สึกตามฟีล

ที-สเกิ๊ต 3 คนเป็นสไตล์ไหน

เป็นผู้หญิงห้าว ๆ นิด ๆ แต่ก็ติดความซน แต่ไม่ใช่ทอมบอย เพราะอย่างพี่มาร์จะเป็นสวยเซ็กซี่ น้องกิ๊ฟจะเป็นเด็กน่ารัก เราก็จะเป็นตัวกลางแบบสนุก ๆ เพราะเราชื่อ จอย ด้วย คือมีความสุข ส่วนเพลงของจอยที่ทำให้คนรู้จักจะเป็นเพลง “เรื่องมันเศร้า” ที่จอยร้อง เป็นเพลงเร็วที่คนส่วนใหญ่จะรู้จัก

ช่วงเดินสายร้องเพลงเป็นอย่างไรบ้าง

รู้สึกมันกลายเป็นกิจวัตประจำวันไปเลย เพราะงานเข้าทุกวันต้องเข้าบริษัททุกวัน คือวันแรกที่วางแผงเปิดอัลบั้มชีวิตเราเปลี่ยน เพราะคนให้การตอบรับเยอะมาก คนรู้จักเรามากขึ้น พอไปไหนมาไหนคนก็จะบอกนี่ไงที-สเกิ๊ต ซึ่งมันเร็วมากเพียงข้ามคืนที่โปรโมทมิวสิควีดีโอ ซึ่งเพื่อน ๆ คุณพ่อคุณแม่ พี่ชายคนรอบข้างเขาก็ดีใจนะ แต่เราจะงง ๆ ผสมกับกังวลว่าเราจะต้องวางตัวอย่างไร สุดท้ายก็เลยคิดได้ว่าเป็นตัวของตัวเองนี่แหละคือช่วงที่ออกอัลบั้มที่ลำบากที่สุดจะเป็นช่วงที่งานเยอะทุกวันถ้าเราไม่สบายก็พักไมได้เพราะสมัยก่อนจะไม่ค่อยมีการลิปซิ้งค์ต้องร้องสด ถ้าไม่ไหวจริง ๆ จอยก็จะอาศัยพี่มาร์น้องกิ๊ฟช่วยร้อง

แบ่งเวลาเรียนอย่างไร

ตอนนั้นเราต้องเรียนด้วยแต่พอมาช่วงหลังเราต้องหยุดแล้วมาคิดว่าจะเอาอย่างไรดี เพราะถ้าเราเลือกที่จะหยุดอีก 2 คนก็จะต้องหยุดด้วย ตอนนั้นเราเลยคุยกับที่บ้านว่าขอใช้โอกาสนี้ลองทำงานด้านนี้ก่อน ตอนนั้นจอยเลยตัดสินใจไปสอบเทียบวุฒิ ม.6 แต่ช่วงที่เราไมได้เรียนหนังสือเพราได้วุฒิมาแล้วเราก็จะว่างก็ต้องเรียนพิเศษไปด้วยเพราะเราอยากเข้ามหาวิทยาลัยพร้อมเพื่อนๆ

วันที่วงที-สเกิ๊ตหยุด

รู้สึกตกใจนะ ตอนนั้นเรายังเด็กมากที่จะรับ คือมันมีความงงก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้นเพราะไม่เคยมีฟีดแบกมาก่อน ไม่มีข่าวลืออะไรเลยอยู่ดี ๆ ก็แจ้งเลยว่าจะหยุดอีกเดือนนึงเราจะปิดนะซึ่งช่วงนั้นวงก็กำลังดังเรากำลังมีขึ้นคอนเสิร์ตกันอยู่เลย จำได้ว่าพี่มาร์ร้องไห้ในรถตู้ ความรู้สึกเหมือนบ้านโดนยึด มันใจหายนะเพราะเราทำงานทุกวันได้เจอพี่มาร์ น้องกิ๊ฟ และทีมงานทุกวัน ซึ่งตอนนั้นเราก็คิดว่าเราจะทำอย่างไรดีจะร้องเพลงต่อไปแล้วใครจะดูแลเราแต่ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไปได้ค่ะ ในเรื่องชีวิตครอบครัวแต่แค่เรื่องชีวิตการทำงานที่เราทำมาแล้วมันผูกพันมากกว่า ตอนนั้นเรายังอยากร้องเพลงยังสนุกกับมันอยู่ก็คิดนะว่าแล้วเราต้องไปอยู่ที่ไหนแต่พอเมื่อทุกอย่างมันสิ้นสุดลงต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป ซึ่งมันเป็นช่วงเวลา 2-3 ปีที่จอยได้อยุ่ที่คีตาฯ

ตอนนั้นเลือกที่จะเดินไปเส้นทางไหน

ช่วงที่คีตาฯ ปิดตัวลงเป็นจังหวะที่จอยกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยพอดี เลยคิดว่าจอยจะต้องมุ่งหน้าเอนทรานส์เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้แล้ว เลยตัดสินใจมามุ่งเรียน เหมือนว่าเราเริ่มห่างจากวงการบันเทิงมาเรื่อย ๆ มีบ้างที่เป็นการรวมตัวของที-สเกิ๊ต แต่ก็น้อย เพราะทุกอย่างมันก็ไปตามกาลเวลาของมัน ความรู้สึกที่อยากกลับเข้ามาในวงการก็มีบ้างแต่เราก็รู้สึกเฟลเหมือนกันนะ แต่เราก็ต้องเลือกเพราะการเรียนเราก็ไม่อยากทิ้ง คือจอยเลือกที่จะเรียนแล้วก็ต้องเรียน เรียน 4 ปีให้จบ

หันมาทำงานเบื้องหลัง

พอเราเรียนจบแล้วก็มีงานรองรับเลย คือจอยเรียนอออกแบบการแสดงที่ มศว.ประสานมิตร เลยได้มีโอกาสทำงานที่ช่อง 3 ก่อนทำรายการ กำจัดจุดอ่อน ก็ยังอยู่ในวงการแต่ก็ทำงานเบื้องหลัง ซึ่งเราสนุกกับมันเพราะเราได้ทำงานที่เราเรียนมา ก็เลยลืมเรื่องการแสดงเบื้องหน้า แล้วจอยก็ไมได้ขวนขวายว่าจะต้องกลับไปอยู่เบื้องหน้าด้วย ซึ่งการทำงานเบื้องหลังกับเบื้องหน้าก็ไม่ต่างกันแต่ต่างที่กระบวนการคือเราต้องคิดเผื่อนักแสดง และต้องมีความชัดเจน สติต้องมีมาก ๆ ต้องรอบคอบ แต่ถ้าเป็นดาราก็จะโฟกัสที่บท การร้องเพลง การแสดงของเราให้ดี นัดให้ตรงเวลามันคือการรับผิดชอบของนักแสดงความรับผิดชอบของคนเบื้องหลังมันจะมากขึ้น และมันต้องมีการแข่งขันการต่อสู้จากลูกค้า ผู้กำกับ และคนอื่น ๆ แต่งานทุกอย่างมันก็เหนื่อยเหมือนกันมันจะมีความกดดันเรื่องขอรายละเอียดมากกว่า

เมื่อย้อนกลับไปคิดถึงสมัยอยู่ทีสเกื๊ต

พอย้อนกลับไปเราก็คิดถึงนะเหมือนเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตเราเคยเป็นซุปเปอร์สตาร์เหมือนกันนะ เราได้ซึมซับกับความรู้สึกของคนที่ได้ฟังเพลงของเรา เราก็คิดว่าเขาชอบเรามากขนาดนั้นเลยจริง ๆ เหรอ บางทีแฟนคลับที่ยังชื่นชมเราก็ยังมีอยู่นะที่จำเราได้ มันรู้สึกว่าดีนะที่ครั้งหนึ่งในชีวิตเรายังได้เคยทำบางสิ่งที่บางคนยังไม่เคยทำได้ ได้สัมผัสว่าวงการเบื้องหน้าเป็นอย่างไร

มิตรภาพที่ยาวนาน

ทุกวันนี้จอยก็ยังตืดต่อกับพี่มาร์กับน้องกิ๊ฟอยู่ค่ะ จอยเป็นคนสุดท้ายที่แต่งงานและมีลูกด้วย มันเหมือนเป็นความผูกพันกันมานาน

ปัจจุบันทำอะไรบ้าง

ทำงานโฆษณาค่ะเป็น แอคติ้ง ไดเรกเตอร์ ตอนนี้ออกมาเป็นฟรีแลนซ์

กำลังจะมีน้องคนแรก

ใช่ค่ะ ตอนนี้ ท้อง 7 เดือนแล้ว เป็นผู้ชายค่ะตั้งชื่อไว้แล้วแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นชื่อเล่นหรือชื่อจริง ชื่อน้อง “นาวี” ค่ะก็ได้ปรึกษากับพี่มาร์ และน้องกิ๊ฟนะคะเพราะเขามีลูกแล้วได้ให้คำแนะนำเยอะเลยค่ะ จริง ๆ เขาอยากให้ได้ลูกผู้หญิงจะได้เป็น 3 สาวที-สเกิ๊ต แต่จอยบอกไม่ทันแล้วค่ะ เพราะเราได้ลูกผู้ชาย ก็ไม่ได้คาดหวังให้น้องเข้าวงการนะเพราะถ้าเข้ามาก็อยากให้เป็นแบบ ณเดชน์ (หัวเราะ) เราก็พูดกับคนอื่นเล่น ๆ ขำ ๆ แล้วแต่เขาค่ะ เราก็ยังไม่รู้ว่าลูกเราจะมาแนวไหนชอบอะไร เราเลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจดีกว่าให้ความรักความอบอุ่นเลี้ยงดูเขาให้ดีเหมือนที่เราถูกเลี้ยงมาค่ะ

สิ่งที่ได้รับจากวงการบันเทิงมีอะไรบ้าง

ได้นามสกุลนะ “จอย ทีสเกิ๊ต” ลบไม่ออกด้วย ได้ประสบการณ์ เมื่อเราอยู่ในวงการและต้องอยู่กับคนหมู่มากเราได้เรื่องของการวางตัว ได้มาอัตโนมัติโดยการประเมินของเราเองว่าควรจะวางตัวอย่างไรให้มันดี เพราะวงการนี้มีทั้งดีและไม่ดี การมีวินัย ตรงต่อเวลา การให้เกียรติผู้อื่น ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่เราได้รับมาด้วยพอเราอยู่ตรงนั้นเราก็จะเห็นว่าเราควรวางตัวให้ดีหน่อย ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เพราะจอยจะเป็นคนขี้เกรงใจ เวลาใครขอให้ทำอะไรเราก็จะน่ารัก

มองวงการบันเทิงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

มันแล้วแต่คนนะ แค่มองว่าวงการบันเทิงช่วงหลัง ๆ บางทีจอยตามไม่ทันนะไม่รู้เป็นเพราะวัยที่มันโตขึ้นหรือเปล่า ทีวีเราก็ไม่ค่อยได้ดูเพราะเราต้องทำงาน บางคนเราก็ไม่รู้จักเลยว่าเขาเป็นดาราคือจอยมองว่าความชัดเจน หรือคาแรกเตอร์เดี๋ยวนี้มันเป็นกันง่ายมากแต่ก็ยอมรับอย่างหนึ่งว่าน้อง ๆ ในยุคปัจจันนี้ฉลาด และมีความสามารถกันเยอะมาก อาจเพราะได้ถูกปลุกฝังกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่อย่างในยุคเรามันจะได้มาด้วยความสามารถจริง ๆ และการเลือกเฟ้นอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง ซึ่งจอยมองว่าเด็กสมัยนี้เป็นดารากันได้ง่ายขึ้น แต่ว่าความมีวินัยหรือความน่ารักบางทีก็จะหายไป

ในฐานะที่ทำเบื้องหลังแต่ทำด้านแคสติ้งอยากแนะนำอะไรน้อง ๆ บ้าง

อยากแนะนำให้มีสัมมาคารวะ ถึงจะดังแค่ไหนก็อยากให้นึกถึงวันแรกที่เรายังไม่มีชื่อเสียง มันคือเสน่ห์อย่างหนึ่งของนักแสดง จอยมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าการเป็นนักแสดงที่ดีจะต้องมีวินัยกับตัวเอง ไม่สร้างภาพ เป็นตัวของตัวเองแต่เป็นตัวเองในเชิงบวก และเข้าใจผู้อื่น ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็จะทำให้เราดูน่ารักในสายตาของพี่ ๆ และผู้ใหญ่ที่เขาทำงานร่วมกับเรา และต้องไม่ลืมว่าตัวเองเคยเป็นอะไรมา

หลักการดำเนินชีวิต

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด จอยจะบอกกับตัวเองอย่าเสมอว่า ถ้าเป็นไปได้แกต้องทำดีทุกวินาที ถ้ามีพลังก็ทำไปเถอะแต่บางทีเราก็ทำไมได้ทุกวินาทีหรอกพอเราเตือนสติตัวเองบ่อย ๆ ให้มากขึ้นมันก็เหมือนกับเรากักตุนสะสมความดีไว้เยอะ ๆ ค่ะทำทุกวันให้ดีและอยู่กับวินาทีนี้ให้ดีที่สุด

ถึงแฟน ๆ

ขอบคุณมากค่ะ พอจอยห่างจากวงการมาแล้วก็ไม่ค่อยได้ติดตามแฟนคลับก็หายไปเหมือนกัน แต่เราก็ไม่มีโอกาสได้เจอกัน อยากบอกว่ายังคิดถึงเสมออาจนึกไมได้ทุกคนแต่ภาพกว้าง ๆ ภาพรวมๆมันทำให้เรารู้สึกดี

พินิตา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สุดเศร้า! \'ดิว อริสรา\'สูญเสียคุณพ่อกะทันหัน ชาวเน็ตแห่ส่งกำลังใจ สุดเศร้า! 'ดิว อริสรา'สูญเสียคุณพ่อกะทันหัน ชาวเน็ตแห่ส่งกำลังใจ
  • \'เจ๋ง บิ๊กแอส\'ลั่น! ลูกผู้ชายพอ..เจอกันที่ศาล หลังโดนหมายฟ้องจาก\'ปอน นิพนธ์\' 'เจ๋ง บิ๊กแอส'ลั่น! ลูกผู้ชายพอ..เจอกันที่ศาล หลังโดนหมายฟ้องจาก'ปอน นิพนธ์'
  • เฟ้นหา Boy Group หน้าใหม่ ‘โดม-ฮาย’ นั่งแท่นโปรดิวเซอร์สุดเคี่ยว เฟ้นหา Boy Group หน้าใหม่ ‘โดม-ฮาย’ นั่งแท่นโปรดิวเซอร์สุดเคี่ยว
  • ‘แผนรักหักคานลุง’ ท็อปฟอร์ม ออกอากาศ 2 วันคนดูติดหนึบ ‘แผนรักหักคานลุง’ ท็อปฟอร์ม ออกอากาศ 2 วันคนดูติดหนึบ
  • \'เชฟวิลแมน\'ทำ \'มาสเตอร์เชฟคิทเช่น\'สั่นสะเทือน 8 เชฟสุดผวา!หอบโจทย์ทดสอบกึ๋น. 'เชฟวิลแมน'ทำ 'มาสเตอร์เชฟคิทเช่น'สั่นสะเทือน 8 เชฟสุดผวา!หอบโจทย์ทดสอบกึ๋น.
  • \'เอ-แป้ง\'พาทัวร์ธรรมชาติ ฉะเชิงเทราใน\'มิตรรัก ทั่วไทย\' 'เอ-แป้ง'พาทัวร์ธรรมชาติ ฉะเชิงเทราใน'มิตรรัก ทั่วไทย'
  •  

Breaking News

'บิว'นำทัพ!กรีฑาลุยศึกใหญ่‘WorldRelay’ล่าตั๋วชิงแชมป์โลก

'ทักษิณ'หมดทางแล้ว! 'เสรีพิสุทธ์' ชี้ยัดคุกได้เลย

'สว.จิระศักดิ์-สว.วุฒิชาติ'ปิดบ้านเงียบ! กกต.-ดีเอสไอ แปะหมายเรียกหน้าบ้าน

หวดไทยพร้อมลุย! สู้ศึกชิงแชมป์โลกที่คาซัคฯ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved