(ซ้าย) นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ, นพ.วิสิทธิ์ สุภัครพงษ์กุล และ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี
ในงานเสวนา “ I check I care ห่างไกลมะเร็งปากมดลูก” ที่จัดขึ้นโดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ร่วมกับสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย และภาคเอกชน เพื่อรณรงค์ให้สาวไทยที่ยังมีความเขินอายต่อการตรวจภายใน หันมาตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก ที่สามารถรักษาให้หายขาดได้หากตรวจพบในระยะแรกเริ่ม พร้อมแนะทางเลือก อุปกรณ์ตรวจหาเชื้อ HPV สาเหตุของการเป็นมะเร็งปากมดลูก ด้วยตนเอง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศ
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เปิดเผยว่า สาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก 70% มาจากเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก นอกนั้นเป็นสาเหตุจากปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น กรรมพันธุ์ การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย มีคู่นอนหลายคน การมีบุตรมาก การสูบบุหรี่ดื่มเหล้า ทั้งนี้ วิธีการตรวจคัดกรองเพื่อหาเชื้อไวรัส HPV หรือ HPV Test นั้นสามารถให้ความแม่นยำและรวดเร็วมากกว่าการตรวจเซลล์ของปากมดลูกที่เรียกว่าแพปสเมียร์ (Pap smear) ซึ่งปัจจุบันสามารถตรวจที่สถานพยาบาลหรือใช้อุปกรณ์ตรวจเองที่บ้านก็ได้ ซึ่งหากตรวจไม่พบเชื้อ HPV ก็สามารถเว้นระยะการตรวจทิ้งช่วงได้ 3-5 ปี แต่หากตรวจพบเชื้อ HPV ก็ควรได้รับการตรวจอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามอาการอย่างน้อยปีละครั้ง
ด้าน นพ.วิสิทธิ์ สุภัครพงษ์กุล นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า การตรวจพบเชื้อ HPV ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นมะเร็งปากมดลูกเสมอไป ข้อดีของมะเร็งปากมดลูกคือสามารถป้องกันและหายขาดได้ เพราะเรารู้สาเหตุและการดำเนินไปของโรค ผู้ที่ตรวจพบเชื้อ HPV หมายถึงมีอัตราเสี่ยงต่อการพัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็ง ซึ่งเรียกว่าระยะก่อนมะเร็งที่จะต้องติดตามผลอย่างใกล้ชิด ระยะเวลาในการพัฒนาเซลล์มะเร็งมีตั้งแต่ 2-20 ปี ผู้ป่วยจึงมีเวลาในการรักษาเพราะไม่ได้มีการลุกลามอย่างรวดเร็วในระยะนี้ ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้และมีอัตราการหายขาดสูง สำหรับการรักษาแพทย์จะใช้วิธีรักษาเฉพาะจุดที่มีปัญหาโดยผ่าตัดบริเวณนั้นออกไปได้หลายวิธี นอกจากนั้นเรายังป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ด้วยการฉีดวัคซีนซึ่งสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุครบ 12 ปีขึ้นไป
“การตรวจ HPV Test นั้นควรจะเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 25-65 ปีอย่างสม่ำเสมอ หากตรวจพบเชื้อก็ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมกับอาการ เพราะหากปล่อยไว้จนมีอาการผิดปกติแล้วค่อยมาพบแพทย์ มักจะตรวจพบในระยะท้ายๆ ซึ่งมีความยากลำบากในการรักษา เสียค่าใช้จ่ายมากกว่าระยะต้นๆ และมีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง”
ทั้งนี้ ในปัจจุบันการตรวจหาเชื้อ HPV ด้วยตนเองนั้นเป็นที่นิยมในต่างประเทศ ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากและประสิทธิภาพในการตรวจที่รวดเร็ว มีความปลอดภัยสูง ให้ผลความคลาดเคลื่อนน้อย และสามารถทราบผลภายใน 15 วัน โดยในประเทศไทยเพิ่งเริ่มมีชุดอุปกรณ์จำหน่ายในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีความกลัวและเขินอายที่จะไปตรวจในสถานพยาบาล ซึ่งหากการตรวจให้ผลบวกก็จะได้รับคำแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจวินิฉัยอย่างละเอียดต่อไป โดยสามารถหาซื้อได้ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ หรือสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ www.ichecktest.net
ปิดท้ายที่ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ผู้เคยผ่านประสบการณ์ตรวจพบเซลล์มีการเปลี่ยนแปลงจนเกือบจะกลายเป็นมะเร็งปากมดลูกขณะตั้งครรภ์ ได้เชิญชวนให้สาวไทยรุ่นใหม่หันมาดูแลสุขภาพก่อนจะสายเกินไป เธอบอกว่า ตัวเองเคยมีประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่เกือบจะกลายเป็นมะเร็งมาแล้ว ณ วันนั้น รู้เลยว่าชื่อเสียง เงินทอง ความสวยงามของหน้าตาไม่ได้มีผลกับความสุขเลย ถ้าเทียบกับสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งโชคดีที่ตรวจเจอก่อนที่จะพัฒนากลายเป็นเซลล์มะเร็ง เพราะก่อนหน้านั้นถ้าไม่ได้มีลูก ก็ไม่เคยใส่ใจที่จะตรวจสุขภาพเลย ตอนนี้เราก็รักษาจนหายขาดและแข็งแรงดี ผู้หญิงไทยหลายคนกลัวที่จะตรวจ กลัวว่าถ้ารู้ผลแล้วจะเป็นทุกข์ แต่การตรวจเจอแต่เนิ่นๆ แล้วรักษาย่อมดีกว่าที่จะรอจนมีอาการเจ็บป่วยแล้วค่อยรักษา โดยเฉพาะสาวยุคใหม่โชคดีที่ตอนนี้มีอุปกรณ์ที่สามารถตรวจมะเร็งปากมดลูกได้เองที่บ้าน ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับสาวๆ ที่ไม่สะดวกจะมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล อย่าอาย อย่าเขิน อย่ากลัว เพื่อตัวของเราเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี