เชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola virus) เป็นไวรัสในกลุ่มฟิโลไวรัส(Filovirus) ทำให้เกิดโรคอีโบลา (Ebola Hemorrhagic Fever) เป็นโรคสัตว์สู่คนชนิดหนึ่งที่มีค้างคาวชนิดที่พบในทวีปแอฟริกาเป็นตัวกักโรค ซึ่งไม่แสดงอาการป่วยใดๆ แต่ไวรัสติดมายังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น รวมถึงมนุษย์ได้ผ่านทางสารคัดหลั่งของสัตว์ที่ติดเชื้อหรือการกินเนื้อสัตว์ป่าที่เป็นโรค ไม่ติดต่อผ่านการหายใจ
โรคนี้มีรายงานการระบาดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2519 ที่เขตลุ่มแม่น้ำอีโบลาในประเทศคองโก จนถึงปัจจุบันมีการรายงานการระบาดของโรคนี้มากกว่า20 ครั้ง โดยในครั้งนี้ถือเป็นการระบาดครั้งรุนแรงซึ่งเกิดใน 4ประเทศในทวีปแอฟริกา คือ กินี ลิเบอเรีย เซียร์ราลิโอนและไนจีเรีย
แต่อย่างไรก็ตามเห็นได้ว่าการระบาดเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลากว่า5 เดือน แต่การระบาดยังคงจำกัดอยู่เพียง3 ประเทศเท่านั้น เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่มีมานานและองค์ความรู้เกี่ยวกับการเกิดโรคที่มากเพียงพอทำให้มนุษย์มีมาตรการและแนวทางการป้องกันโรคเป็นอย่างดีและเห็นได้ว่าโรคนี้เกิดในคนชนบทของแอฟริกาที่ห่างไกลความเจริญและสาธารณสุขซึ่งยังขาดความรู้ด้านสุขศาสตร์และยังคงมีความเชื่อเฉพาะกลุ่มอยู่
การระบาดของโรคอีโบลาครั้งนี้แตกต่างจากการระบาดครั้งแรกของโรคซาร์ส (SARS) ในปี พ.ศ. 2546 ซึ่งขณะนั้นมนุษย์ยังไม่ทราบเชื้อสาเหตุของโรคซาร์สเลย ทำให้เกิดการระบาดขึ้นทั่วโลกถึง 22 ประเทศ จากการเดินทางข้ามทวีป แต่ในที่สุดมนุษย์ก็สามารถควบคุมการระบาดของโรคซาร์สได้ อีกทั้งธรรมชาติของการเกิดโรคของเชื้อไวรัสอีโบลาทำให้เกิดโรครุนแรงและมีการแพร่เชื้อก็ต่อเมื่อเริ่มมีการแสดงอาการป่วย เริ่มจากการเป็นไข้สูงอันเป็นเหตุให้เป็นการยากที่จะมีการย้ายถิ่นของผู้ป่วยและหากมีอาการร่วมกับประวัติการเดินทางทำให้สามารถกักโรคและวินิจฉัยโรคได้ง่าย ประเทศไทยมีสาธารณสุขมูลฐานและมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อที่มีประสิทธิภาพจากความสำเร็จในการควบคุมโรคระบาดที่ผ่านมา ดังนั้นโอกาสการระบาดของโรคอีโบลาในประเทศไทยนั้นจัดว่ามีโอกาสที่ค่อนข้างต่ำมาก โรคนี้จึงเป็นโรคที่คนไทยควร “ตระหนักแต่ไม่ตระหนก” เนื่องจากเรามีประสบการณ์มาตรการป้องกันโรคที่พร้อมรับมือ
อย่างไรก็ตามการป้องกันโรคโดยการให้ความรู้เป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะในผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่เขตระบาด ได้แก่ การรักษาสุขอนามัยและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น การกินเนื้อสัตว์ป่าในเมนูพิสดาร รวมถึงผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงหากเกิดความผิดปกติของร่างกายควรไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทางโดยละเอียด นอกจากนี้การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนคือการรณรงค์ไม่ให้มีการบุกรุกทำลายและล่าสัตว์ป่า รวมถึงการนำเข้าสัตว์อย่างผิดกฎหมาย เพราะทั้งไวรัสอีโบลาและไวรัสซาร์สล้วนมาจาก มนุษย์เองที่เข้าไปทำลายและล่าสัตว์ป่า
(สัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ สร้างสรรค์การศึกษา พัฒนาคุณธรรม ก้าวล้ำงานวิจัย รับใช้สังคม)
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
(ข้อมูลจากงานแถลงข่าว อีโบลา...เมื่อมาถึงไทย...รับมืออย่างไร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1 สิงหาคม 2557)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี