สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เรามาติดตามเรื่องราวและการป้องกันการติดเชื้อ Toxoplasma ในแมว จาก อ.สพ.ญ.ดร.วรพร สุขุมาวาสี กันต่อจากสัปดาห์ที่แล้วนะครับ
10.แมวที่มีความเป็นอยู่แบบใดที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Toxoplasma
แมวที่ใช้ชีวิตอิสระสามารถออกไปนอกบ้าน ชอบล่าเหยื่อ เช่น นก หนู และแมวที่กินเนื้อดิบหรือปรุงไม่สุก จะมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ
11.การตรวจอุจจาระแมวเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการวินิจฉัยการติดเชื้อToxoplasma ในแมวหรือไม่
โอกาสที่จะพบแมวกำลังปล่อยไข่ (oocyst) ของเชื้อออกมาในอุจจาระมีน้อย เนื่องจากใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์หลังจากกินเชื้อเข้าไป และแมวมักไม่ปล่อย oocyst ซ้ำหลังจากมีการติดเชื้อครั้งถัดๆ ไป หรือปล่อยออกมาจำนวนน้อยมาก ดังนั้น หากตรวจพบ oocyst ในอุจจาระถือว่าจังหวะดีมาก แต่อย่างไรก็ตาม ขนาดและรูปร่างของ oocystของ Toxoplasma ก็คล้ายคลึงกับ oocyst ของเชื้อโปรโตซัวชนิดอื่น (Hammondia และ Besnoitia) ซึ่งทำให้วินิจฉัยยืนยันได้ยาก การตรวจทางซีรั่มวิทยาจึงเป็นที่นิยมกว่า
12.การเลี้ยงแมวหรือลูบขนแมวจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Toxoplasma หรือไม่
งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าการสัมผัสแมวหรือการเป็นเจ้าของแมว ไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ T. gondii
ในคน เพราะโอกาสน้อยที่จะพบแมวที่เคยติดเชื้อแล้วปล่อย oocyst อยู่ และตรวจไม่พบ oocyst บนขนแมวแม้ว่าแมวตัวนั้นอยู่ในช่วงปล่อย oocyst ก็ตาม อย่างไรก็ตาม เด็กที่เล่นดินหรือทรายที่อาจมี oocyst ปนเปื้อนอยู่ จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
13.เจ้าของแมวสามารถลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Toxoplasma จากแมวได้อย่างไร
คำแนะนำดังต่อไปนี้ จะทำให้เจ้าของลดความกังวลจากการติด oocyst ระยะติดโรคจากแมวได้
1) คนที่มีความเสี่ยงสูง (เช่น หญิงตั้งครรภ์ คนที่มีภูมิคุ้มกันถูกกดหรือไม่แข็งแรง เด็กเล็ก) ไม่ควรสัมผัสหรือจัดการกระบะทรายแมว
2) กำจัดอุจจาระแมวจากกระบะเป็นประจำทุกวัน โดยสวมถุงมือและล้างมือให้สะอาดหลังจากทำความสะอาดกระบะทรายเสร็จแล้ว
3) รองกระบะทรายด้วยแผ่นรอง และทำความสะอาดกระบะทรายเป็นครั้งคราวด้วยน้ำยาทำความสะอาดและลวกน้ำร้อน (ซึ่งสามารถฆ่า oocyst ได้)
4) กำจัดอุจจาระและทรายแมวอย่างปลอดภัย โดยใส่ในถุงพลาสติกและมัดให้แน่น ก่อนนำไปใส่ในถังขยะ
5) ปิดกระบะทรายที่ใช้สำหรับเด็กเล่นเมื่อไม่ใช้ เพื่อป้องกันแมวมาถ่าย
6) อาหารสำหรับแมวต้องปรุงสุก หรือให้อาหารสำเร็จรูป
7) สวมถุงมือเมื่อทำสวน และล้างมือให้สะอาดเมื่อสัมผัสกับดิน
8) ล้างมือให้สะอาดเสมอก่อนและหลังเตรียมอาหาร และล้างผักผลไม้ก่อนรับประทาน
9) ดื่มน้ำที่ต้มสุกหรือกรองแล้ว
กล่าวโดยสรุป พบว่าความเสี่ยงต่อการติดโรค toxoplasmosis จากแมวสู่คนนั้นมีน้อยมาก และคนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อมักได้รับเชื้อจากทางอื่น (เช่น ทานเนื้อดิบหรือไม่ปรุงสุก) ดังนั้นการดูแลด้านสุขอนามัยเป็นประจำทุกวัน สามารถลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากทั้งแมวและจากแหล่งอื่นได้ ทำให้เจ้าของแมวมีความปลอดภัยและมีความสุขกับการเลี้ยงแมวได้อย่างเต็มที่ครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี