สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 1
วันที่ 6 เมษายน เป็นวันจักรี อันเป็นวันที่ระลึกถึงเมื่อพ.ศ.2325 นั้น เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีและพระองค์สถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานีแห่งพระราชอาณาจักรไทย อาทิตย์นี้จึงขอตามรอยวันสำคัญแห่งพระปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จักรี จากพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระนามเดิมว่า ทองด้วง ซึ่งเดิมนั้นเรียกว่า “แผ่นดินต้น”พระองค์พระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2279 ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา พระองค์เป็นบุตรคนที่สี่ ของพระอักษรสุนทรศาสตร์ (ทองดี) หรือสมเด็จพระชนกาธิบดี
เมื่อพระองค์ปราบดาภิเษกแล้วพระองค์ทรงป้องกันอาณาจักรและแผ่อาณาเขตไปกว้างใหญ่ไพศาลแล้ว พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีราชธานีเดิมที่อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่นํ้าเจ้าพระยามายังฝั่งตะวันออกของแม่นํ้าเจ้าพระยา พระองค์โปรดให้สร้างพระราชวังหลวงและโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร มาประดิษฐานยังวัดพระศรี
รัตนศาสดาราม หลังจากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดงานฉลองสมโภชพระนครเป็นเวลาสามวัน เมื่อฉลองพระนครแล้ว พระองค์พระราชทานนามพระนครแห่งใหม่ให้ต้องกับนามพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรว่า “กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์” หรือเรียกกันทั่วไปว่า “กรุงเทพฯ หรือกรุงเทพมหานคร”
ทรงชำระกฎหมายตรา 3 ดวง
ครั้นสร้างพระนครเสร็จแล้วจึงได้มีพิธีบรมราชาภิเษกและสถาปนาราชวงศ์ในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2328 จึงได้สถาปนาพระบรมวงศานุวงศ์โดยสถาปนาพระชนกนาถ (ทองดี) ขึ้นเป็น “สมเด็จพระชนกาธิบดี” ขึ้นก่อนให้เป็นพระปฐมบรมชนกแห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งมีพระมเหสีนาม “ดาวเรือง” พร้อมกันนั้นได้สถาปนาพระเชษฐภคินีและพระเชษฐาและพระอนุชาขึ้นเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นที่ 1 ดังนี้ 1.สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าสา กรมพระยาเทพสุดาวดี 2.สมเด็จพระเจ้ารามณรงค์3.สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าแก้ว กรมพระศรีสุดารักษ์4.พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช 5.สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท และพระอนุชาที่เกิดกับคุณหญิงมา ภรรยาคนที่สองของพระอักษรสุนทรศาสตร์ (ทองดี) คือ 6.สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าลากรมหลวงจักรเจษฎากับพระขนิษฐาที่เกิดกับคุณหญิงหยก ภรรยาคนที่สามผู้เป็นน้องสาวของพระมเหสีดาวเรือง คือ 7.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากุ กรมหลวงนรินทรเทวีหรือที่รู้จักกันในนามเจ้าครอกวัดโพธิ์ ซึ่งเป็นราชสกุลวงศ์ที่สืบราชสกุลและมีเจ้าฟ้าเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติเป็นกษัตริย์รัชกาลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
พระแก้วมรกต พระของแผ่นดิน
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชแต่ละรัชกาลนั้น พ.ศ.2416 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 4 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อประดิษฐานไว้ให้พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันและพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ ตลอดจนประชาชนได้ถวายบังคมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นธรรมเนียมปีละครั้ง ครั้งแรกนั้นโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แต่มีการย้ายสถานที่ประดิษฐานอยู่หลายครั้งเช่น พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท และพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท เป็นต้น ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จึงโปรดให้ย้ายพระบรมรูปมาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดร ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 พระบรมชนกนาถ ในเดือนเมษายนพ.ศ.2491 สำเร็จลุล่วง พระองค์จึงได้มีพระบรมราชโองการประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูปในวันที่ 6 เมษายนปีนั้น ซึ่งต่อมาพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เรียกวันที่ 6 เมษายนทุกปีว่า “วันจักรี” อันเป็นวันแห่งการระลึกถึงพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ในรัชกาลที่ 1 มาจนถึงวันนี้
พระแก้วมรกตพระคู่ประเทศสยาม
อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1
ขุนสรวิชิตนำชาวด่านแจ้งข่าวจลาจล
รัชกาลที่ 1 เสด็จฯกลับจากเขมร
พระบรมรูปหล่อทุกรัชกาล
พระบรมอัฐิสมเด็จบูรพกษัตริยาธิราช
พระบรมมหาราชวังในสมัยรัชกาลที่ 4
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี