รูปสลักหินรัชกาลที่ 5
ในประชาคมอาเซียนนั้น ทุกประเทศต่างมีผลงานช่างศิลป์แสดงเอกลักษณ์ของตนชัดเจน สำหรับประเทศไทยนั้น ผลงานของช่างสิบหมู่ที่สืบทอดฝีมือมาแต่โบราณนั้นถือเป็น “ศิลปคู่แผ่นดินสยาม” ทีเดียวซึ่งมีนิทรรศการและกิจกรรมให้ชมถึงวันท่ี่ 31 สิงหาคมนี้ อาทิตย์นี้ จึงตามรอยหาภูมิศิลป์ไทยไป ที่สำนักช่างสิบหมู่ ของกรมศิลปากร ต.ศาลายา จ.นครปฐม ด้วยมีศูนย์ศิลปะและการช่างไทยที่สืบสานและเรียนรู้งานของช่างสิบหมู่ให้คงอยู่เป็นมรดกแผ่นดิน ดังปรากฏผลงานเป็นที่ประจักษ์ในทุกครั้งในการสร้างและบูรณะศิลปกรรมในพระราชวังและสถานที่สำคัญ ด้วยงานประณีตศิลป์ตามอย่างช่างหลวงในสมัยโบราณ โดยมีผลงานไม่แตกต่างไปจากช่างศิลป์ไทยที่มีมาแต่เดิม ซึ่งครั้งหนึ่งนั้นได้มีความห่วงใยกันว่าช่างศิลป์ไทยโบราณจะสูญสิ้นฝีมือไป เสียแล้ว บัดนี้องค์ความรู้และฝีมือช่างนั้นได้รับการถ่ายทอดฝีมือจนเชื่อว่า งานศิลปกรรมและประณีตศิลป์นั้นสามารถสร้างสรรค์สืบสานต่อไปจนกลายเป็นสินค้าทางวัฒนธรรมในอนาคตได้
ภาพเขียนท้าวมาลีวราชตัดสินความ
สำนักช่างสิบหมู่ แห่งนี้ได้ตั้งขึ้นจากชื่อเดิมซึ่งหมายถึง ช่างต่างๆ ได้แก่ ช่างเขียน ช่างแกะ ช่างสลัก ช่างกลึง ช่างหล่อ ช่างปั้น ช่างหุ่น ช่างรักช่างบุและช่างปูน เป็นต้น อันเป็นช่างทางวัฒนธรรมที่ต้องมีการอนุรักษ์ สืบสาน ถ่ายทอด ด้วยเป็นศิลปะเฉพาะในกระบวนช่างไทยที่ได้จำแนกฝีมือช่างไว้มากมาย และนำมาบูรณะร่วมกันสร้างผลงานต่างๆ ขึ้น
งานศิราภรณ์และแกะสลัก
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงอธิบายถึงช่าง ประทานแก่พระยาอนุมานราชธน ในหนังสือบันทึกความรู้เรื่องต่างๆ ดังนี้ว่า“กระทรวงใดมีกิจจะต้องทำสิ่งซึ่งต้องอาศัยฝีมือช่าง ก็ต้องหาช่างชนิดที่ต้องการใช้ มารวบรวมตั้งไว้ในกระทรวงนั้นเพื่อใช้ จึงได้มีการช่างมากมายกระจัดกระจายอยู่ในที่ต่างๆ หลายกระทรวงด้วยกัน ตามที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตรัสไว้ ดังจะยกตัวอย่างให้เห็น เช่น กระทรวงวังมีกรมทหารในกรมรักษาพระองค์ แต่มีกรมช่างทหารในขึ้นอยู่ในกรมทหารในนั้นอีกชั้นหนึ่ง เจ้ากรมคือหลวงประดิษฐ์นิเวศน์ เห็นได้ตามชื่อว่ามีหน้าที่ปลูกสร้างเรือนหลวงในพระราชนิเวศน์ คงมีขึ้นด้วยเหตุที่เจ้ากรมหรือปลัดกรมคนใดคนหนึ่งในกรมทหารในเป็นผู้เข้าใจการปลูกสร้างจึงตรัสใช้ ผู้รับสั่งนั้นก็ต้องเสาะหาช่างมาเป็นลูกมือ งานมากขึ้น ช่างมากขึ้นก็ต้องตั้งขึ้นเป็นกรมทหารใน แม้แต่กรมมหาดเล็กก็ยังมีกรมช่างมหาดเล็ก เป็นอีกกรมหนึ่งเหมือนกัน มีช่างเขียน ช่างปั้นและอื่นๆ ช่างสิบหมู่จึงเป็นชื่อกรมที่รวบรวมช่างไว้มีสิบหมู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าในบ้านเมืองมีช่างแค่สิบอย่างเท่านั้น ที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างที่ยกมารวมไว้เรียกว่า “ช่างสิบหมู่”
หัวโขนสินค้าของนักท่องเที่ยว
ดังนั้นบัญชีชื่อช่างที่ขึ้นทำเนียบ จึงถือเป็นช่างหลวง ซึ่งมีช่างต่างๆ ได้แก่ ช่างเลื่อย ช่างก่อ ช่างดอกไม้เพลิง ช่างไม้สำเภา ช่างปืน ช่างสนะ(จีน)ช่างสนะ (ไทย) ช่างขุนพราหมณ์เทศ ช่างรัก ช่างมุก ช่างปากไม้ ช่างเรือ ช่างทำรุ ช่างเขียน ช่างแกะ ช่างสลัก ช่างกลึง ช่างหล่อ ช่างปั้น ช่างหุ่น ช่างบุ ช่างปูนช่างหุงกระจก ช่างประดับกระจก ช่างหยก ช่างชาดสีสุก ช่างดีบุก ช่างต่อกำปั่น ช่างทอง เป็นต้น ทำให้เกิดช่างสิปปะ ตรงกับสันสกฤตแปลว่า “ศิลปะ”ดังนั้นช่างสิปปะจึงถูกจัดตั้งเป็นหมู่ เรียกว่า ช่างสิปปะหมู่ คือหมู่ของช่างนั่นเอง ไม่ได้หมายว่า มีช่าง 10 หมู่ 10 ประเภทเท่านั้น ในชั้นต้นได้รวบรวมคนที่มีฝีมือจากพื้นถิ่นพื้นบ้านเอามาเป็นช่างหลวงรวมไว้ในหมู่ของกรมช่างสิบหมู่เดิมคือ กรมช่างหลวงนั่นเอง ต่อมาเมื่อตั้งกรมศิลปากรแล้ว ช่างนั้นจึงมาอยู่ในกองหัตถศิลป์ และสำนักช่างสิบหมู่ในปัจจุบัน
รูปจำลองเรืออนันตนาคราชจากฝีมือช่างไทย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแถลง พระบรมราชาธิบาย แก้ไขการปกครองแผ่นดิน เมื่อพุทธศักราช 2430 ทรงมีพระราชดำรัสเรื่อง “กรมช่างสิบหมู่” ขึ้นไว้ดังนี้ “ส่วนซึ่งแบ่งปัน ฝ่ายทหารแต่ทำการฝ่ายพลเรือนนั้น คือ กรมช่างสิบหมู่ ซึ่งแบ่งไว้ในฝ่ายทหารนั้น ก็คงจะ เป็นด้วยช่างเกิดขึ้นในหมู่ทหาร เหมือนทหารอินเยอเนีย แต่ภายหลังมา เมื่อทำการต่างมากขึ้น จนถึงเป็นการละเอียด เช่น เขียน ปั้น แกะสลัก ก็เลยติดอยู่ในฝ่ายทหาร แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดในราชการทหาร ไม่ได้ขึ้นกรมพระกลาโหม มีแต่กองต่างหาก แม่กองนั้น มักจะเป็นเจ้านายโดยมาก เมื่อเกิดช่างอื่นๆ ขึ้นอีกก็คงอยู่ในกรมเดิม ฝ่ายพลเรือนบ้าง ทหารบ้าง ไม่เฉพาะว่ากรมช่าง จะต้องเป็นทหาร”
งานประดับมุก
วันนี้สำนักช่างสิบหมู่ได้ทำหน้าที่ช่างหลวงของแผ่นดิน จึงสร้างผลงานด้านช่างไว้มากมาย อีกทั้งต้องศึกษา เรียนรู้และสามารถถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ของช่างในทุกประเภท ผลงานช่างในปัจจุบันนั้นเทียบชั้นฝีมือครูในอดีต ด้วยมีการเรียนรู้มากขึ้นซึ่งมีช่างสำคัญที่ระบุไว้ในเอกสารว่ามี “เขียนกระดาษแกะหุ่นปั้นปูน รักบุฮากลึงหล่อไม้สูงสลักช่างไม้” นับเป็นแหล่งสร้างสรรค์งานศิลป์ของแผ่นดินให้ความงดงามของศิลปไทยนั้นเป็นที่รู้จักในประชาคมอาเซียนได้เป็นอย่างดี
ลายรดน้ำจากช่างศิลป์รุ่นใหม่
หุ่นไทยที่สร้างขึ้นใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี