'...ผมไม่มีโอกาสได้เรียนสูงมากนัก แต่ได้พยายามขวนขวายศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมสัมผัสมาแล้วว่า การศึกษา จะสร้างโอกาสให้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ผมจึงตั้งใจที่จะให้มูลนิธิคุณแม่ลี้กิมเกียว ตั้งคารวคุณ ได้สร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนที่ขาดแคลน...'
หลังสร้างตัวจากธุรกิจขนาดเล็ก จนนั่งแท่นเจ้าสัวอาณาจักรสีหมื่นล้านทีโอเอ ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ประธานที่ปรึกษากลุ่มบริษัททีโอเอ ยอมรับว่า ความสำเร็จนั้นมีคุณแม่ลี้กิมเกียว ตั้งคารวคุณ ผู้เป็นมารดาอยู่เบื้องหลัง ทั้งในเรื่องการทำธุรกิจและการใช้ชีวิต ด้วยหลักคุณธรรม “ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน และตอบแทนผู้มีพระคุณ” และเมื่อคุณแม่จากไปด้วยวัยชรา เจ้าสัวประจักษ์ พร้อมด้วยพี่น้องและลูกหลานในตระกูลตั้งคารวคุณ จึงพร้อมใจกันจัดตั้ง มูลนิธิคุณแม่ลี้กิมเกียว ตั้งคารวคุณ เพื่อเป็นอนุสรณ์แสดงถึงความกตัญญูที่ลูกหลานมีต่อคุณแม่ พร้อมทั้งตอบแทนคุณแผ่นดินไทย ด้วยการให้โอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนไทยทั่วประเทศที่เรียนดี ขาดแคลน และกตัญญู เผยเตรียมฉลองอายุครบ 6 รอบ ในปีนี้ ด้วยการเดินสายทำบุญและมอบทุนการศึกษา ตลอดปี 2559 เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต
เจ้าสัวประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ประธานที่ปรึกษากลุ่มบริษัททีโอเอ และประธานมูลนิธิคุณแม่ลี้กิมเกียว ตั้งคารวคุณเล่าย้อนว่า คุณแม่ลี้กิมเกียว เป็นผู้หญิงชาวจีนที่ได้อพยพเข้ามาอาศัยพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทย ดูแลครอบครัวและเลี้ยงดูลูกทั้ง 7 คน ด้วยหยาดเหงื่อแรงกายบนผืนแผ่นดินไทย จนมีฐานะมั่นคงและแตกหน่อลูกหลานในวงศ์ตระกูลถึง 5 รุ่น ที่สำคัญคุณแม่ยังเป็นผู้ให้กำเนิดธุรกิจกลุ่มทีโอเอ ด้วยทุนรอนดั้งเดิมที่คุณแม่เก็บหอมรอมริบจำนวน 100,000 บาท ให้ลูกๆ ได้นำมาเป็นทุนเพื่อดำเนินธุรกิจให้เจริญก้าวหน้า กระทั่งทุกวันนี้ กลุ่มบริษัททีโอเอ สร้างรายได้มูลค่าเกือบแสนล้านบาทในธุรกิจหลากหลายสาขา ทั้งธุรกิจสี เคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี การเกษตร ฯลฯ มีขอบข่ายทั้งในและต่างประเทศ เป็นหนึ่งในตระกูลนักธุรกิจที่ร่ำรวยติดอันดับในเมืองไทย
ไม่เพียงแต่เงินทุนเริ่มต้นธุรกิจ คุณแม่ลี้กิมเกียว ยังมีหลักการดำเนินชีวิตและการทำงานธุรกิจ ที่คุณแม่พร่ำสอนอบรมลูกหลานทุกคน ด้วยหลักคุณธรรม ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน และตอบแทนผู้มีพระคุณ รวมถึงการช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลนและด้อยโอกาสอยู่เป็นนิตย์“คุณแม่ ได้อบรมสั่งสอนลูกหลานทุกรุ่น ให้มีหลักและแนวทางในการดำเนินชีวิตหลายประการ อันจะเป็นหนทางให้ชีวิตประสบความสำเร็จทั้งในหน้าที่การงานและครอบครัว หนึ่งในนั้นก็คือ ความรัก ความสามัคคีในหมู่พี่น้อง ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน และที่สำคัญที่สุดคือ ความกตัญญู ซึ่งผมเชื่อมั่นมาตลอดว่าความกตัญญูจะเป็นแรงผลักดันให้ชีวิตเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน ทั้งกตัญญูต่อบุพการี กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และกตัญญูต่อแผ่นดินที่เราอาศัยและเลี้ยงชีพอยู่”
จากคำสอนของคุณแม่ลี้กิมเกียว ทำให้ลูกหลานในตระกูลตั้งคารวคุณทุกคน ดำเนินธุรกิจต่างๆ ด้วยความซื่อสัตย์และรับผิดชอบต่อสังคม มีจิตใจเมตตา ช่วยเหลือคนในสังคมเดียวกันในยามทุกข์ยาก ขาดแคลนอยู่เสมอ และสิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องยืนยันได้คือ ขณะที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ ในวันคล้ายวันเกิดของท่านทุกปี ลูกหลานทุกคนจะมากราบคารวะคุณแม่ อันเป็นการแสดงถึงความกตัญญูกับผู้ที่เป็นดั่งพระในบ้าน ลูกหลานทุกคนเชื่อมั่นว่าคำสอนของคุณแม่เป็นพรที่นำความสำเร็จมาสู่ตระกูลตั้งคารวคุณ”
เมื่อ คุณแม่ลี้กิมเกียว จากไปด้วยวัยชรา นอกจากลูกหลานในตระกูลตั้งคารวคุณ ญาติสนิทมิตรสหาย รวมทั้งบุคคลผู้มีชื่อเสียงระดับประเทศ พร้อมใจกันมาร่วมส่ง คุณแม่ลี้กิมเกียว กลับคืนสู่สรวงสวรรค์ ตามความเชื่อของชาวจีนที่ว่า คนจีนที่อยู่กับลูกหลานจนอายุเกิน 100 ปี ถือว่าเป็นเทพที่จะไปสถิตอยู่สรวงสวรรค์แล้วเจ้าสัวประจักษ์ และพี่น้องลูกหลานยังร่วมกันก่อตั้ง มูลนิธิคุณแม่ลิ้มกิมเกียว ตั้งคารวคุณ เพื่อเป็นอนุสรณ์แสดงความกตัญญูต่อท่าน อีกทั้ง ยังเป็นการสานต่อการเป็น “ผู้ให้” ซึ่งคุณแม่พร่ำสอนและปฏิบัติให้ลูกหลานในตระกูลได้เห็นอยู่มิได้ขาด
เจ้าสัวประจักษ์ บอกว่า มูลนิธิคุณแม่ลิ้มกิมเกียว ตั้งคารวคุณจะเป็น “ผู้ให้” ในด้านการศึกษาแก่เยาวชนที่เรียนดี ขาดแคลน รวมทั้งเยาวชนที่มีความกตัญญู แม้จะไม่ได้เรียนดีมากนัก เพราะเจ้าสัวมองว่า การศึกษาจะทำให้เยาวชนได้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพของสังคมและประเทศชาติ“ผมไม่มีโอกาสได้เรียนสูงมากนัก แต่ได้พยายามขวนขวายศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมสัมผัสมาแล้วว่า การศึกษา จะสร้างโอกาสให้ชีวิตในทุกๆ ด้านผมจึงตั้งใจที่จะให้มูลนิธิคุณแม่ลี้กิมเกียว ตั้งคารวคุณ ได้สร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทั้งในรูปแบบของทุนการศึกษา และการสร้างถาวรวัตถุให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนในต่างจังหวัด เช่น โรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1) อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และโรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง) อ.เมือง จ.มุกดาหาร
ปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้ขยายความช่วยเหลือไปให้ทุนการศึกษากับนักเรียนแพทย์ ศิริราชพยาบาล และสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทย เราให้ทุนการศึกษาตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 จนจบการศึกษา ด้วยมุ่งหวังให้นักศึกษาแพทย์เหล่านั้น เมื่อจบการศึกษาไปแล้วจะได้กลับไปเป็นแพทย์ในบ้านเกิดตัวเอง หรือในถิ่นที่ขาดแคลนแพทย์ อีกทั้ง มูลนิธิฯ ยังได้จัดโครงการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยยากไร้ และผู้ที่พิการทุพพลภาพ โครงการที่เราได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น บริจาคเงินสนับสนุนช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ให้มีโอกาสได้รับการรักษาได้เร็วขึ้น
ทั้งที่โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลสงฆ์ และยังมอบเงินจำนวน 1 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อตั้งเป็นกองทุนในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากไร้และขาดแคลนทุนทรัพย์ในการรักษา นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับโรงพยาบาลศิริราช จัดโครงการผ่าตัดโรคต้อกระจกให้กับผู้ป่วยยากไร้ในต่างจังหวัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 5 รอบ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และร่วมกับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ สนับสนุนโครงการผ่าตัดเด็กโรคหัวใจที่ยากไร้ จำนวน 1,200 ราย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่มูลนิธิได้เข้าไปสนับสนุนเงินทุนและให้ความช่วยเหลือ รวมแล้วกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งมูลนิธิฯ ตั้งใจจะดำเนินงานตามเจตนารมณ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีกลุ่มบริษัททีโอเอ เพื่อนๆ ในแวดวงธุรกิจ รวมทั้งเพื่อนๆ ของภรรยา (ละออ ตั้งคารวคุณ) พันธมิตรคู่ค้า ซัพพลายเออร์กลุ่มบริษัททีโอเอ และผู้ใหญ่ใจบุญ ร่วมกันบริจาคเงินสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงลูกค้าทุกๆ ท่านที่มีอุปการคุณกับผลิตภัณฑ์ในเครือทีโอเอ นอกจากจะได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพ คุ้มราคาแล้ว ยังได้มีส่วนร่วมทำบุญกับเด็กๆ และเยาวชน ผ่านทางมูลนิธิฯ อีกด้วย ซึ่งผมซาบซึ้งใจมาก และเชื่อว่าคุณแม่คงมีความสุขที่สุด ถ้าท่านได้รับทราบว่าผมและลูกหลานในตระกูล ได้ร่วมกันตอบแทนสังคมตามรอยท่านอย่างเต็มกำลัง”
ท้ายสุด เจ้าสัวประจักษ์ ในวัย 72 ปี ย้ำว่า มูลนิธิคุณแม่ลี้กิมเกียว ตั้งคารวคุณ เป็นมูลนิธิที่ไม่มุ่งหวังผลประโยชน์หรือแสวงกำไร โดยเจ้าสัวตั้งใจจะดำเนินงานตามเจตนารมณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะเยาวชนจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ การได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียม จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนและจำเป็นอย่างยิ่ง“มีหลายคนถามผมว่า เตรียมซื้อที่ดินสำหรับทำฮวงซุ้ยหรือยัง ผมบอกว่า ถ้าต้องใช้เงิน 50 ล้าน เพื่อสิ่งนั้นผมของนำเงินไปช่วยเหลือเด็กๆ และเยาวชนที่ขาดแคลนจะดีกว่า เป็นการสร้างประโยชน์ และผมยังได้บุญติดตัวไป แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ลูกๆ หลานๆ จะได้เข้าใจคำสอนของคุณแม่ที่ว่า ความกตัญญู จะทำให้เราเจริญขึ้นโดยเฉพาะการตอบแทนแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ ซึ่งผมได้ยึดถือปฏิบัติมาตลอด เมื่อเราเจริญขึ้น เราก็จะช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น เป็นความสุขในบั้นปลายชีวิตที่ผมและภรรยายิ้มได้ทุกครั้งเมื่อพูดถึง”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี