รมว.วัฒนธรรมเปิดงานวิถีถิ่น วิถีไทย ที่ปัตตานี
อาทิตย์นี้ได้ตามรอยภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมไปกับ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและคณะ ซึ่งเดินทางไปเปิดงานวิถีถิ่นวิถีไทย ณ จังหวัดปัตตานี โดยบูรณาการงานวัฒนธรรมมาให้เห็นภูมิปัญญา ทำให้เรียนรู้ถึงภูมิปัญญาไปพร้อมกัน ด้วยภาคใต้นั้นมีชายฝั่งทะเลประกบเทือกเขาสูงที่อยู่ตรงกลาง แตกต่างจากภาคอื่นๆ แม้จะมีที่ราบอยู่บ้างก็อยู่เป็นแนวแคบแถบชายฝั่งทะเล และสองฝั่งลำน้ำ ซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลทั้งด้านตะวันออกและตะวันตก ซึ่งทำให้มีคนที่ต่างภาษาต่างวัฒนธรรมได้หลั่งไหลเดินทางเข้ามาภาคใต้ มีทั้งชาวพุทธชาวมุสลิม ต่างเชื้อชาติกัน เช่น คนไทย คนจีน และผู้ที่มีเชื้อสายมลายู รวมทั้ง ชาวเล คนพื้นเมืองที่ร่วมอาศัยอยู่กัน
ดังนั้นภาคใต้จึงมีวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจด้วยมีชายฝั่งทะเลที่งดงามหมู่เกาะน้อยใหญ่ และมีขนบประเพณีที่น่าสนใจ การจัดงานวัฒนธรรมเชื่อมใจชายแดนใต้สันติสุข “รักษ์ วิถีถิ่น วิถีไทย ก้าวไกลสู่สากล” ที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 30 มกราคม-1 กุมภาพันธ์ 2559 ณ จังหวัดปัตตานีนั้น จึงเป็นการสร้างงานให้เห็นวัฒนธรรมร่วมและเชื่อมใจคนในพื้นที่เพื่อนำไปสู่ความสมานฉันท์ กระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์สืบสานศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นในการศึกษาค้นคว้า สืบสาน และสร้างสรรค์สู่การเพิ่มคุณค่าทางสังคมและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสร้างความรักความผูกพัน ตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรม และความภาคภูมิใจในบ้านเกิดของตน เป็นการเปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมทั้งชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยมุ่งหมายในการเป็น วิถีถิ่น-วิถีไทย วัฒนธรรมไทย-วัฒนธรรมอาเซียน และมรดกไทย-มรดกอาเซียน
การจักสานไม้ไผ่ด้วยลายขัด
ดังเห็นได้จากมีการนำ วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับประเพณีและพิธีกรรม หัตถกรรม อาหารและงานที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านมารวมกันดังเห็นได้จากการแสดงดิเกร์ฮูลูที่เป็นวัฒนธรรมร่วมเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างไทยและมาเลเซีย และเชื่อมนาฏศิลปะไทย-ชวา ของอินโดนีเซีย
โดยเฉพาะอาหารพื้นบ้านภาคใต้มีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สืบเนื่องจากดินแดนภาคใต้เป็นศูนย์กลางการเดินเรือค้าขายของพ่อค้าจากอินเดีย จีนและชวาในอดีต จึงทำให้วัฒนธรรมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอินเดียใต้ซึ่งเป็นต้นตำรับได้มีอิทธิพลในการใช้เครื่องเทศปรุงอาหาร ทำให้อาหารพื้นบ้านภาคใต้ทั่วไป มีลักษณะผสมผสานระหว่าง อาหารไทยพื้นบ้านกับอาหารอินเดียใต้ เช่น น้ำบูดู ซึ่งได้มาจากการหมักปลาทะเลสดผสมกับเม็ดเกลือ และมีความคล้ายคลึงกับอาหารมาเลเซีย อาหารของภาคใต้จึงมีรสเผ็ดกว่าภาคอื่นๆ
ภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้นมีการสร้างชิ้นงานที่หลากหลายนับแต่กรงนกหัวจุก เรือกอและ กริช การทอผ้าและเครื่องจักสาน ตลอดจนการละเล่นพื้นบ้าน และการต่อสู้ที่รู้จักกันดีในชื่อซีละ หรือสิละ ล้วนเป็นภูมิปัญญาและวัฒนธรรมร่วมอยู่ในอินโดนีเซีย มาเลเซียและจังหวัดภาคใต้ของไทย
การแสดงจากอินโดนีเซีย
การบูรณาการความร่วมมือในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค กับหน่วยงานต่างๆ ทั้ง กอ.รมน. ศอ.บต. และ 5 จังหวัดภาคใต้ จึงสอดคล้องกับบริบทของสังคมในจังหวัดชายแดนใต้ และนำมิติทางวัฒนธรรมมาเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในชาติและนานาชาติ โดยมี ขบวนแห่เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การเสวนาศาสนิกสัมพันธ์ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้“ศาสนาเชื่อมใจ ใต้สันติสุข” การประชันดิเกร์ฮูลูระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซีย การแสดงพื้นบ้านปัตตานี นราธิวาส และยะลา รวมถึงการแสดงพื้นบ้านของประเทศกัมพูชา
การประกวด “เด็กตานี รักษ์วัฒนธรรม”และการแสดงทางวัฒนธรรมที่ลานวัฒนธรรม ให้ความรู้ในรูปแบบของนิทรรศการ สาธิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม (CPOT) หัตถกรรมพื้นบ้านและอาหารพื้นถิ่นของ 5 จังหวัดชายแดนใต้ การถ่ายทอดศิลปะการแสดงซีละลงสู่เยาวชน และการถ่ายทอดการวาดภาพแก่เยาวชน ทำให้มรดกทางวัฒนธรรมของไทยได้รับการสนับสนุนการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และถ่ายทอดรุ่นต่อรุ่นให้คงอยู่และแพร่หลายในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่อไปเป็นการบูรณาการภูมิบ้านภูมิเมืองจากวัฒนธรรมใต้ไปสู่สากลในอนาคต
การแสดงในงานวิถีถิ่น วิถีไทย
ไก่ทอดกอและอาหารรสเลิศของปัตตานี
เครื่องจักสานของปัตตานี
ดนตรีประกอบการแสดงดิเกร์ฮูลู
ดนตรีพื้นบ้านของปัตตานี
ดิเกร์ฮูลูจากมาเลเซียวัฒนธรรมร่วมในแดนใต้
ท่าการต่อสู้ของซีละ
บทเพลงจากชาวเลพื้นเมือง
วิถีไทยในปัตตานี
เรือกอและจำลองของที่ระลึก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี