การเดิน ถือเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและได้ผลดีต่อสุขภาพอย่างมากมาย มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายอย่างที่คาดไม่ถึง สามารถทำให้ไขมันย้วยๆ ที่พุงท้องหายไปอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

1. เดินตัวตรง

ท่าทางในการเดินส่งผลดีมากกว่าที่คิด ไม่เพียงแค่ช่วยให้มีบุคลิกภาพที่ดีเท่านั้น แต่ยังทำให้กล้ามเนื้อบริเวณท้องและหลังได้ออกกำลังกายไปด้วยในตัว ซึ่งท่าทางในการเดินออกกำลังกายที่เหมาะสมคือ หน้าตรง เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่ควรเกร็งคอ ไหล่ และหลัง ถ้าทำได้ตามนี้ การเดินออกกำลังกายของคุณจะได้ผลดีต่อกล้ามเนื้อร่างกายส่วนบนแน่นอน

2. แกว่งแขนขณะเดิน

การแกว่งแขนขณะเดินจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีมากขึ้นและทำให้เดินเร็วขึ้น แต่นอกจากนี้การแกว่งแขนก็ยังช่วยให้ร่างกายทั้งส่วนบนและล่าง รวมทั้งหน้าท้องได้ออกกำลังกาย แค่เพียงแกว่งแขนไปตามจังหวะการเดินเท่านั้น แต่ถ้าอยากให้ร่างกายเผาผลาญได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมก็สามารถเร่งจังหวะการแกว่งแขนได้

3. ทำท่าชกลม

เป็นวิธีออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจและทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น ขณะที่ชกออกไปข้างหน้ายังช่วยให้กล้ามเนื้อของร่างกายส่วนบนได้ออกกำลังกาย รวมทั้งกล้ามเนื้อหน้าท้อง โดยชกไปข้างหน้า 20 ครั้ง ชกขึ้นเหนือศีรษะ 20 ครั้ง ในทุกๆ 2 นาทีของการเดิน 

4. ก้าวในความยาวที่เหมาะสม

ระยะก้าวที่สม่ำเสมอจะช่วยให้การออกกำลังกายเป็นไปได้อย่างราบรื่น ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้โดยไม่เกิดการสะดุด อีกทั้งระยะก้าวเท้าที่เหมาะสมยังทำให้เราสามารถเดินได้นานขึ้น ดังนั้นถ้าคิดจะเดินออกกำลังกาย อย่ารีบเร่งด้วยการก้าวเท้ายาวๆ ดีกว่า

5. ยกเข่าสูง

การยกเข่าสูงขึ้นในขณะเดินก็ถือเป็นการออกกำลังกายหน้าท้องไปอีกทางหนึ่ง เพราะจะทำให้ร่างกายอยู่ในท่าคล้ายกับท่าครันช์ ซึ่งเป็นท่าออกกำลังกายที่เน้นส่วนท้องโดยตรง หรือถ้าจะให้การเดินได้ผลยิ่งขึ้นก็ลองทำท่าครันช์ในขณะที่เดิน โดยใช้มือทั้งสองข้างประสานไว้ที่หลังศีรษะ แล้วยกเข่าขึ้นแตะกับศอกด้านตรงข้ามสลับกัน ทำซ้ำ 8 ครั้ง ก่อนจะหยุดเดิน จะช่วยให้ไขมันตรงหน้าท้องเผาผลาญได้เยอะ

6. แขม่วท้อง

การแขม่วท้องช่วยลดพุงได้ และทำให้เราทิ้งน้ำหนักลงไปที่สะโพกน้อยลง อีกทั้งยังกระตุ้นการหายใจ ปรับบุคลิกภาพ ทำให้ข้อต่อบริเวณหลังและกระดูกเชิงกราน รวมทั้งหลังส่วนล่างรับน้ำหนักน้อยลง และแน่นอนว่าก็สามารถช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องไปได้ในตัว แต่ทั้งนี้ควรตั้งตัวตรงในขณะที่เดิน ห้ามหลังงอโดยเด็ดขาด ไม่งั้นอาจจะทำให้บุคลิกภาพเสียได้

7. ยืดขาตรง

การเดินโดยยืดขาตรงจะช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่างได้ออกกำลังกายไปด้วย เนื่องจากการเดินแบบยืดขาตรงจะต้องทิ้งน้ำหนักไปที่หน้าท้องส่วนล่างมากกว่าการเดินแบบปกติ แต่ไม่จำเป็นต้องเดินแบบนั้นตลอดการออกกำลังกาย ทำแค่เพียง 8-10 ครั้งในขณะที่เดิน

8. เดินในทางลาดชัน

ทางที่ลาดขึ้น หรือบันได จะทำให้เราต้องออกแรงในการเดินมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายต้องเผาผลาญพลังงานจำนวนมากเพื่อใช้ในการเดิน ทำให้ไขมันที่อยู่บริเวณกล้ามเนื้อลดลง แถมหลังออกกำลังร่างกายก็ยังเผาผลาญพลังงานเท่ากับตอนที่ออกกำลังกาย เพียงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ก็จะทำให้หน้าท้องของคุณฟิตได้

9. เดินบ่อยๆ

ยิ่งเดินบ่อยๆ ร่างกายก็จะยิ่งเผาผลาญแคลอรีได้มาก โดย The American College of Sports Medicine ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้แนะนำให้ออกกำลังกายด้วยการเดินอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง เพราะความสม่ำเสมอจะทำให้การออกกำลังกายได้ผลมากกว่าความหนักหน่วงในการออกกำลังกาย

ขอบคุณ : kapook